วันนี้ตอนบ่ายสามโมง ตุ๋ย โทรมาขอคำปรึกษาเรื่องการออกหนังสือรับรองการเกิดของลูก
ตุ๋ยเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติมีลูกแล้ว!! หลังจากหายไปนานนนนมาก คราวนี้ตุ๋ยโทรมาขอคำปรึกษาเรื่องลูก
ที่เพิ่งลืมตาดูโลก ณ รพ.เกษมราษฎร์ พุทธมณฑลสาย ๒
แม่ของลูก
พ่อของลูก
สิ่งที่ตุ๋ยต้องการ (และต้องทำ) ?
ปัญหาของตุ๋ย
ตุ๋ยคงต้องเริ่มต้นยังไง ?
- ตุ๋ยคงต้องอธิบายให้ รพ.เข้าใจว่าแม้ตุ๋ยไม่มีเอกสารฯใดเลย แต่ในเมื่อเด็กคนนี้เป็นลูกของตุ๋ย
จริงๆ ก็ต้องระบุไปตามความเป็นจริง
- ให้ รพ.ออก ท.ร.๑/๑ ระบุว่าตุ๋ยเป็นพ่อของลูก
- ไปแจ้งเกิดลูกที่อำเภอภายใน ๑๕ วัน เพื่อขอสูติบัตร ท.ร.๑ แต่ถ้าช้ากว่านี้ก็ต้องออก ท.ร.๒
- หลังจากนั้นต้องเพิ่มชื่อลูกในทะเบียนบ้านของแฟนที่สุพรรณบุรี....แต่..อีกนานกว่าจะได้ไปที่โน่น
-ตอนนี้ตุ๋ยเตรียมแผน ๒ ไว้แล้ว ตุ๋ยบอกว่าจะขอเพิ่มชื่อลูกในทะเบียนบ้านของเจ้าของบ้านเช่าใจดีที่บางแค
คราวนี้ลูกของตุ๋ยก็ไม่ไร้รัฐไร้สัญชาติเหมือนตุ๋ยแล้วล่ะ
เหลือเพียงปัญหาของตุ๋ยผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่ยังดื้อยา
คงต้องนัดตุ๋ยมาตรวจเช็คอาการไร้รัฐกันอีกรอบแล้วล่ะ
กิติวรญา รัตนมณี
๑๒ เมษายน ๒๕๕๒
วันที่ประเทศไทยกำลังวุ่นวาย
ในระหว่างที่เรากำลังยุ่งกับทีสิส ตุ๋ยเคสในความดูแลก็กำลังยุ่งกับการหางานทำ เพราะงานหมายถึงเงินที่จะนำมาเลี้ยงปากท้องของคนในครอบครัว ยิ่งตอนนี้ตุ๋ยมีลูกแล้ว เขายิ่งต้องทำงานให้หนักมาขึ้น แถมช่วงนี้ใครๆก็รู้ดีว่าการหางานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ตุ๋ยจึงไม่มีทางเลือกมากนัก ล่าสุดตุ๋ยโทรมาหาบอกด้วยน้ำเสียงอ่อยๆว่ายังไม่ได้ไปติดต่อที่ กศน.เลย ฉันจึงย้ำคำพูดเดิมๆว่า "ตุ๋ยควรเอาใจใส่กับเรื่องสถานะบุคคลด้วยนะ มันเป็นเรื่องสำคัญของตุ๋ย ทีสำคัญไม่น้อยไปกว่าการทำงานหาเงิน พวกเราคงช่วยตุ๋ยไม่ได้มากนัก หากตุุ๋ยไม่พยายามช่วยตัวเองด้วย" ฉันไม่รู้ว่าเค้าเข้าใจหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ตุ๋ยเงียบไปซักพัก แล้วรับปากว่า ครับ ผมจะพยายาม แต่ช่วงนี้ผมทำงานเลิกตีหนึ่งตีสองทุกคืนเลย กลับถึงบ้านก็เหนื่อยเต็มที กว่าจะตื่นก็สายๆเกือบเที่ยง -- ฉันตอบกลับไปว่า --- "ถ้าไม่สนใจเรื่องของตนเอง ฉันก็ไม่รู้จะช่วยได้ อย่างไร"
ฉันเริ่มคำถามใหม่ ถามถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสถานะบุคคลของคนในครอบครัวของเขาทีละคน ไล่จากแม่ พี่สาว และน้องชาย
-----------------------------
แม่--นางไพรินทร์ วิลัยพร --
-----------------------------------
ตุ๋ยบอกว่าไม่ทราบว่าแม่ไปขึ้นทะเบียนแรงงานหรือยัง หลังจากคุยกับตุ๋ยฉันได้โทรหาคุณไพรินทร์ เธอบอกว่าเธอพอจะทราบเรื่องจากแต๋วแล้ว และตัวเธอเองก็อยากไปขึ้นทะเบียนแรงงานงาน แต่ติดที่เธอไม่มีเงิน (ซึ่งก็เหมือนกับหลายๆครอบครัว ) เนื่องจากการขึ้นทะเบียนแรงงานต้องมีค่าใช้จ่าย ประมาณ ๓,๘๐๐ บาท แต่ปัจจุบันเธอมีรายได้จากการทำงานรับเหมาก่อสร้างเป็นรายวันถ้าวันไหนไปทำงานก็มีรายได้ ๒๐๐ กว่าบาท ถ้าช่วงไหนไม่มีงานทำก็ไม่มีเงิน แถมตอนนี้ยังไม่มีเงินเก็บ
ฉันบอกเธอว่าการที่เธอขึ้นทะเบียนแรงงานในครั้งนี้จะนำไปสู่การพิสูจน์สัญชาติลาว เธอดีใจ แต่ก็ติดที่เรื่องเงินอีกนั่นแหละ ตอนนี้เธอจึงได้แต่รอความหวังจากการพิสูจน์สัญชาติผ่านวิธีการทางการทูต
เธอไม่ลืมที่จะถามถึงอาจารย์บุญมี ซึ่งเป็นผู้ประสานงานในการให้ความช่วยเหลือในการพิสูจน์สญชาติลาว เธอดีใจมากที่รู้ว่าอาจารย์บุญมีสำเร็จการศึกษาแล้ว และกำลังจะเดินทางกลับมาประเทศไทย
เธอฝากบอกอาจารย์บุญมีว่าตอนนี้เธอกำลังรอความหวังที่จะพิสูจน์สัญชาติลาว
----------------------------------
พี่สาว--นางสาวไพรัตน์ วิลัยพร--
------------------------------------------
ตุุ๋ยบอกว่า เท่าที่ทราบตอนนี้พี่สาวก็ยังไม่มีบัตรเหมือนกัน
ฉันจึงโทรหา ไพรัตน์ (แต๋ว) สอบถามเธอว่าได้สมัครเข้าเรียน กศน.แล้วหรือยัง เธอบอกว่ายัง เอ...มันนากมากแล้วนะ นับตั้งแต่ฉันบอกเธอไปคราวนั้น จนถึงวันนี้ก็เกือบปีแล้วล่ะ ทำให้ฉันอดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดเธอจึงไม่ไปสมัครเรียน เธอไม่รอให้ฉันคิดคำถามนานนัก เธอตอบกลับมาเองว่า "ก็เพราะหนูไม่มีเงินนี่อาจารย์ ถ้าเรียนก็ต้องใช้เงิน ไหนจะลูกจะผัว ต้องกินต้องใช้ทั้งนั้น ถ้าหนูเอาไปสมัครเรียนก็คงอดกันทั้งบ้าน " อืม ก็จริงนะ แต่ ค่าเรียนก็ไม่เท่าไหร่นี่ สมัครเรียนเทอมละ ๘๐๐ บาท ส่วนหนังสือก็ไม่แพง คงไม่เกินเทอมละ ๕๐๐ บาท แถมได้ความรู้ด้วย จะได้มาแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลของตัวเอง
เธอนิ่งไปซักพัก แล้วตอบว่า--หนูขอกลับไปคิดดูก่อนนะ ถ้าหาเวลาว่างได้หนูก็จะไปสมัครเรียนค่ะ อาจารย์-
--------------------------------
น้องชาย--ภาณุพงศ์ วิลัยพร--
--------------------------------
>>>> สรุปว่าตอนนี้ทั้งบ้านก็ยังคงไร้รัฐ ไร้สัญชาติ <<<<<
บันทึกเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒
ไหมคะ
เมื่อเตรียมวิทยานิพนธ์เสร็จต้องจัดการเรื่องนี้นะคะ
ประสานกับทาง อ.วีนัสนะคะ โรงพยาบาลใน กทม. ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ
กรณีนี้เป็นเด็กในความดูลของ อ.ทิชา
ชื่อโรงเรียนคืออะไร ? ทำจดหมายติดตามซิคะ
อาจารย์คะ
เป็นไปอย่างที่อาจารย์คาดการณ์ค่ะ
โรงพยาบาลไม่มีปัญหา จริงๆด้วย
ตุ๋ยแจ้งให้ทราบว่าทาง รพ.เกษมราฎร์ ออก ท.ร.๑/๑ ตอน๑ ให้ค่ะ
และตอนนี้ตุ๋ยกำลังดำเนินการเรื่องการขอเพิ่มชื่อลูกในทะเบียนบ้านอยู่ค่ะ
ส่วนเรื่องการสำรวจบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนนั้น
ตุ๋ยได้รับการสำรวจโดย ศูนย์ กศน.กาญจนภิเษกวิทยาลัย นครปฐม
ตั้งอยู่ที่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม อยู่ใกล้ๆกับ ม.มหิดลศาลายา
แต่ไม่แน่ใจว่าอยู่ในเขตความรับผิดชอบของสำนักทะเบียนอะไรค่ะ
ต้องขอเช็คข้อมูลทั้งหมดเพื่อความแน่นอนอีกครั้งค่ะ
เพื่อจะได้ออกหนังสือติดตามความคืบหน้า
ไหม
ตามเรื่องนี้ด้วยนะคะ เมื่อจัดการวิทยานิพนธ์เสร็จลงแล้ว
รายงานความคืบหน้า ณ วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒
วันนี้สงครามโทรมาหา คำถามแรกที่เค้าถามคือ "ตอนนี้เรื่องของผมถึงไหนแล้วครับ" ฉันอึ้งไป...ใครจะตอบได้ล่ะ...ก็เรื่องของเธอ เธอยังตอบไม่ได้เลย แล้วฉันจะตอบได้อย่างไร
โดยปกติแล้วเคสที่เข้ามาจะต้องเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลด้วยตนเอง เช่น ติดต่ออำเภอเอง แสวงหาพยานหลักฐานเอง ตามความคืบหน้าของคำร้องเอง เว้นแต่กรณีที่หนักหนาสาหัสจริงๆ เราถึงจะยื่นมือเข้าไปช่วยดำเนินการให้ ตุ๋ยหรือสงครามก็เหมือนกับเคสอื่นๆ หลังจากสั่งการบ้านเมื่อคราวก่อนตอนที่เขามาขอความช่วยเหลือเรื่องการแจ้งเกิดลูก เราขอให้เขาติดต่อขอเอกสารการสมัครเรียน กศน.จากศูนย์กศน.และส่งเอกสารมาให้ดู เรื่องก็เงียบไป
ดังนั้น คราวนี้เมื่อฉันโดนคำถามว่าเรื่องถึงไหน ฉันจึงไม่สามารถตอบได้จริงๆ อ.แหวว จึงช่วยประสาน "ป้ามล" คุณทิชา ณ นคร เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสถานะบุคคลของตุ๋ย "ป้ามล" ใจดีช่วยประสานให้เราได้คุยกับ "ครูดนัย" ซึ่งไม่ทราบว่าตุ๋ยได้เลข ๑๓ หลัก จากการสำรวจบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มเด็กในสถานศึกษา ไปแล้วหรือยัง ครูดนัยแนะนำให้เราประสานไปยัง "ครูเหม็ง" ซึ่งเป็นครูที่ดูแลการเรียนการสอนของ กศน.
ดังนั้น สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปเพื่อติดตามความคืบหน้าของตุ๋ย มีดังนี้
๑. ติดต่อครูเหม็ง เพื่อถามความคืบหน้าในการสำรวจฯ
๒. สำหรับคุณแม่ไพรินทร์ ต้องแนะนำให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ก่อนวันที่ ๓๑ กรกฎาคมนี้
๓. สำหรับแต๋ว พี่สาวของตุ๋ย เค้าควรสมัครเรียน กศน.ไปแล้ว
ไหม
แบ่งงานเลยป่ะ ว่าใครจะต้องทำอะไร
เพิ่มเติมที่ไหมสรุป
๑. อ.แหววเสนอว่า จะยกร่างจดหมายทำความเห็นให้ อ.ทิชา ในฐานะผู้อำนวยการบ้านกาญจนาภิเษก ร้องขอให้มีการแก้ไขปัญหาให้สงคราม โดยเสนอให้หารือนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
๒. อ.แหววขอให้ครูดนัยก็ควรช่วยประสาน กศน.ที่เข้ามาสอนในบ้านกาญจนาภิเษกด้วย