2552-04-12_สงคราม วิลัยพร (คำร้องที่ ) จากเส้นทางเด็กชายไร้รัฐไร้สัญชาติ สู่พ่อไร้รัฐไร้สัญชาติของลูกสาวสัญชาติไทย


วันนี้ตอนบ่ายสามโมง ตุ๋ย โทรมาขอคำปรึกษาเรื่องการออกหนังสือรับรองการเกิดของลูก

ตุ๋ยเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติมีลูกแล้ว!! หลังจากหายไปนานนนนมาก คราวนี้ตุ๋ยโทรมาขอคำปรึกษาเรื่องลูก

ที่เพิ่งลืมตาดูโลก ณ รพ.เกษมราษฎร์ พุทธมณฑลสาย ๒

แม่ของลูก

  • มีสัญชาติไทย มีชื่อในทะเบียนบ้านที่สุพรรณบุรี

พ่อของลูก

  • นายสงคราม วิลัยพร หรือ ตุ๋ย (อ่านเรื่องราวประวัติครอบครัวของตุ๋ยโดย อ.ชลฤทัย ได้ ที่นี่  ตอนที่๑  ตอนที่ ๒)
  • สถานะบุคคลตามกฎหมายไทย
    • ไร้รัฐ เพราะไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎรของรัฐใดเลย ไม่มีแม้แต่เอกสารรับรองการเกิด
    • แม้ตุ๋ยจะได้รับการสำรวจโดยสถานศึกษา(กศน.)ตั้งแต่ปีก่อน แต่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังประสบความไร้รัฐ
      • ทำไม ? ตุ๋ยบอกว่าทาง รร.ที่ตุ๋ยเรียน กศน.เคยแจ้งมาว่าส่งเรื่องการสำรวจบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนไปยังอำเภอแล้ว  แต่...จนบัดนี้ยังไม่คืบหน้า เพราะตุ๋ยเองก็ไม่ได้ไปติดตามเรื่องจากอำเภอ
    • ไร้สัญชาติแม้โดยข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าพ่อมีสัญชาติไทย เคยมีบัตรประจำตัวประชาชน แต่เมื่อไม่สามารถหาพยานหลักฐาน หรือพยานบุคคลมาพิสูจน์จนเชื่อได้ว่ามีสัญชาติไทย ตอนนี้ตุ๋ยและพี่น้องจึงถูกสันนิษฐานว่าเป็นคนต่างด้าว และถูกสันนิษฐานว่าเป็นเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายสำหรับทุกรัฐ
    • ตราบใดที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าบิดามีสัญชาติไทยตุ๋ยก็ถูกสันนิษฐานว่าเป็นบุตรของบุพการีต่างด้าว
    • อย่างไรก็ดี นับต้ั้งแต่ ๒๘ ก.พ. ๒๕๕๑ เป็นต้นมา โดยผลของ พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๔ พ.ศ.๒๕๕๑ โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และความมั่นคงแห่งรัฐ ตุ๋ยไม่อาจถูกสันนิษฐานว่าเป็นคนเข้าเมืองผิดกฎหมายอีกต่อไป หากปรากฎมีกฎกระทรวงออกมากำหนดฐานะการอยู่ของบุคคลที่เกิดในประเทศไทยแต่ไม่ได้สัญชาติไทย ซึ่งส่งผลให้ตุ๋ยมีสถานะเป็นคนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทยตราบเท่าที่ยังไม่สามารถพิสูจน์สถานะบุคคลของบิดาได้
    • เมื่อใดก็ตาม ที่ตุ๋ยสามารถหาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ได้ว่าเป็นบุตรของบิดาสัญชาติไทย เมื่อนั้นตุ๋ยย่อมมีสิทธิลงรายการสัญชาติไทย และเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน(ท.ร.๑๔)
    • ในเบื้องต้น สิ่งที่สามารถทำได้ในทันที ในระหว่างรอการพิสูจน์สัญชาติไทย ก็คือ ตุ๋ยควรได้รับการบันทึกในทะเบียนราษฎรสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน(ท.ร.๓๘ก) อันเป็นการขจัดปัญหาความไร้รัฐ หลังจากนั้นจึงค่อยคล่ีคลายปัญหาความไร้สัญชาติต่อไป

สิ่งที่ตุ๋ยต้องการ (และต้องทำ) ?

  • ต้องการเป็นพ่อที่ถูกต้องตามกฎหมายของลูก
  • ต้องการเพิ่มชื่อลูกในทะเบียนบ้านของแม่

ปัญหาของตุ๋ย

  • ตุ๋ยแจ้งว่า รพ.จะไม่ใส่ชื่อตุ๋ยเป็นพ่อ เพราะตุ๋ยไม่มีเอกสารพิสูจน์ทราบตัวบุคคลใดๆเลย
    (คงต้องเช็คข้อเท็จจริงดูอีกครั้ง)

ตุ๋ยคงต้องเริ่มต้นยังไง ?

- ตุ๋ยคงต้องอธิบายให้ รพ.เข้าใจว่าแม้ตุ๋ยไม่มีเอกสารฯใดเลย แต่ในเมื่อเด็กคนนี้เป็นลูกของตุ๋ย
จริงๆ ก็ต้องระบุไปตามความเป็นจริง

- ให้ รพ.ออก ท.ร.๑/๑ ระบุว่าตุ๋ยเป็นพ่อของลูก

- ไปแจ้งเกิดลูกที่อำเภอภายใน ๑๕ วัน เพื่อขอสูติบัตร ท.ร.๑  แต่ถ้าช้ากว่านี้ก็ต้องออก ท.ร.๒

- หลังจากนั้นต้องเพิ่มชื่อลูกในทะเบียนบ้านของแฟนที่สุพรรณบุรี....แต่..อีกนานกว่าจะได้ไปที่โน่น

-ตอนนี้ตุ๋ยเตรียมแผน ๒ ไว้แล้ว ตุ๋ยบอกว่าจะขอเพิ่มชื่อลูกในทะเบียนบ้านของเจ้าของบ้านเช่าใจดีที่บางแค

 

 คราวนี้ลูกของตุ๋ยก็ไม่ไร้รัฐไร้สัญชาติเหมือนตุ๋ยแล้วล่ะ

 เหลือเพียงปัญหาของตุ๋ยผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่ยังดื้อยา

 คงต้องนัดตุ๋ยมาตรวจเช็คอาการไร้รัฐกันอีกรอบแล้วล่ะ

 

กิติวรญา รัตนมณี

๑๒ เมษายน ๒๕๕๒

วันที่ประเทศไทยกำลังวุ่นวาย

 

 

 

ในระหว่างที่เรากำลังยุ่งกับทีสิส ตุ๋ยเคสในความดูแลก็กำลังยุ่งกับการหางานทำ เพราะงานหมายถึงเงินที่จะนำมาเลี้ยงปากท้องของคนในครอบครัว ยิ่งตอนนี้ตุ๋ยมีลูกแล้ว เขายิ่งต้องทำงานให้หนักมาขึ้น แถมช่วงนี้ใครๆก็รู้ดีว่าการหางานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ตุ๋ยจึงไม่มีทางเลือกมากนัก ล่าสุดตุ๋ยโทรมาหาบอกด้วยน้ำเสียงอ่อยๆว่ายังไม่ได้ไปติดต่อที่ กศน.เลย ฉันจึงย้ำคำพูดเดิมๆว่า "ตุ๋ยควรเอาใจใส่กับเรื่องสถานะบุคคลด้วยนะ มันเป็นเรื่องสำคัญของตุ๋ย ทีสำคัญไม่น้อยไปกว่าการทำงานหาเงิน พวกเราคงช่วยตุ๋ยไม่ได้มากนัก หากตุุ๋ยไม่พยายามช่วยตัวเองด้วย" ฉันไม่รู้ว่าเค้าเข้าใจหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ตุ๋ยเงียบไปซักพัก แล้วรับปากว่า ครับ ผมจะพยายาม แต่ช่วงนี้ผมทำงานเลิกตีหนึ่งตีสองทุกคืนเลย กลับถึงบ้านก็เหนื่อยเต็มที กว่าจะตื่นก็สายๆเกือบเที่ยง -- ฉันตอบกลับไปว่า --- "ถ้าไม่สนใจเรื่องของตนเอง ฉันก็ไม่รู้จะช่วยได้ อย่างไร"

ฉันเริ่มคำถามใหม่ ถามถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสถานะบุคคลของคนในครอบครัวของเขาทีละคน ไล่จากแม่ พี่สาว และน้องชาย

-----------------------------

แม่--นางไพรินทร์ วิลัยพร --

-----------------------------------

ตุ๋ยบอกว่าไม่ทราบว่าแม่ไปขึ้นทะเบียนแรงงานหรือยัง หลังจากคุยกับตุ๋ยฉันได้โทรหาคุณไพรินทร์ เธอบอกว่าเธอพอจะทราบเรื่องจากแต๋วแล้ว และตัวเธอเองก็อยากไปขึ้นทะเบียนแรงงานงาน แต่ติดที่เธอไม่มีเงิน (ซึ่งก็เหมือนกับหลายๆครอบครัว ) เนื่องจากการขึ้นทะเบียนแรงงานต้องมีค่าใช้จ่าย ประมาณ ๓,๘๐๐ บาท แต่ปัจจุบันเธอมีรายได้จากการทำงานรับเหมาก่อสร้างเป็นรายวันถ้าวันไหนไปทำงานก็มีรายได้ ๒๐๐ กว่าบาท ถ้าช่วงไหนไม่มีงานทำก็ไม่มีเงิน แถมตอนนี้ยังไม่มีเงินเก็บ

ฉันบอกเธอว่าการที่เธอขึ้นทะเบียนแรงงานในครั้งนี้จะนำไปสู่การพิสูจน์สัญชาติลาว เธอดีใจ แต่ก็ติดที่เรื่องเงินอีกนั่นแหละ ตอนนี้เธอจึงได้แต่รอความหวังจากการพิสูจน์สัญชาติผ่านวิธีการทางการทูต 

เธอไม่ลืมที่จะถามถึงอาจารย์บุญมี ซึ่งเป็นผู้ประสานงานในการให้ความช่วยเหลือในการพิสูจน์สญชาติลาว เธอดีใจมากที่รู้ว่าอาจารย์บุญมีสำเร็จการศึกษาแล้ว และกำลังจะเดินทางกลับมาประเทศไทย 

เธอฝากบอกอาจารย์บุญมีว่าตอนนี้เธอกำลังรอความหวังที่จะพิสูจน์สัญชาติลาว

----------------------------------

พี่สาว--นางสาวไพรัตน์ วิลัยพร--

------------------------------------------

ตุุ๋ยบอกว่า เท่าที่ทราบตอนนี้พี่สาวก็ยังไม่มีบัตรเหมือนกัน 

ฉันจึงโทรหา ไพรัตน์ (แต๋ว) สอบถามเธอว่าได้สมัครเข้าเรียน กศน.แล้วหรือยัง เธอบอกว่ายัง เอ...มันนากมากแล้วนะ นับตั้งแต่ฉันบอกเธอไปคราวนั้น จนถึงวันนี้ก็เกือบปีแล้วล่ะ ทำให้ฉันอดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดเธอจึงไม่ไปสมัครเรียน  เธอไม่รอให้ฉันคิดคำถามนานนัก เธอตอบกลับมาเองว่า "ก็เพราะหนูไม่มีเงินนี่อาจารย์  ถ้าเรียนก็ต้องใช้เงิน ไหนจะลูกจะผัว ต้องกินต้องใช้ทั้งนั้น ถ้าหนูเอาไปสมัครเรียนก็คงอดกันทั้งบ้าน " อืม ก็จริงนะ แต่ ค่าเรียนก็ไม่เท่าไหร่นี่ สมัครเรียนเทอมละ ๘๐๐ บาท ส่วนหนังสือก็ไม่แพง คงไม่เกินเทอมละ ๕๐๐ บาท แถมได้ความรู้ด้วย จะได้มาแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลของตัวเอง 

เธอนิ่งไปซักพัก แล้วตอบว่า--หนูขอกลับไปคิดดูก่อนนะ ถ้าหาเวลาว่างได้หนูก็จะไปสมัครเรียนค่ะ อาจารย์-

--------------------------------

น้องชาย--ภาณุพงศ์ วิลัยพร--

--------------------------------

 

>>>> สรุปว่าตอนนี้ทั้งบ้านก็ยังคงไร้รัฐ ไร้สัญชาติ <<<<<

 

บันทึกเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒


หมายเลขบันทึก: 255210เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2009 15:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:13 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ไหมคะ

เมื่อเตรียมวิทยานิพนธ์เสร็จต้องจัดการเรื่องนี้นะคะ

ประสานกับทาง อ.วีนัสนะคะ โรงพยาบาลใน กทม. ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ

กรณีนี้เป็นเด็กในความดูลของ อ.ทิชา

ชื่อโรงเรียนคืออะไร ? ทำจดหมายติดตามซิคะ

อาจารย์คะ

 

เป็นไปอย่างที่อาจารย์คาดการณ์ค่ะ

โรงพยาบาลไม่มีปัญหา จริงๆด้วย

ตุ๋ยแจ้งให้ทราบว่าทาง รพ.เกษมราฎร์ ออก ท.ร.๑/๑ ตอน๑ ให้ค่ะ

และตอนนี้ตุ๋ยกำลังดำเนินการเรื่องการขอเพิ่มชื่อลูกในทะเบียนบ้านอยู่ค่ะ

ส่วนเรื่องการสำรวจบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนนั้น

ตุ๋ยได้รับการสำรวจโดย ศูนย์ กศน.กาญจนภิเษกวิทยาลัย นครปฐม

ตั้งอยู่ที่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม อยู่ใกล้ๆกับ ม.มหิดลศาลายา

แต่ไม่แน่ใจว่าอยู่ในเขตความรับผิดชอบของสำนักทะเบียนอะไรค่ะ

ต้องขอเช็คข้อมูลทั้งหมดเพื่อความแน่นอนอีกครั้งค่ะ

เพื่อจะได้ออกหนังสือติดตามความคืบหน้า

ไหม

ตามเรื่องนี้ด้วยนะคะ เมื่อจัดการวิทยานิพนธ์เสร็จลงแล้ว

รายงานความคืบหน้า ณ วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒

วันนี้สงครามโทรมาหา คำถามแรกที่เค้าถามคือ "ตอนนี้เรื่องของผมถึงไหนแล้วครับ" ฉันอึ้งไป...ใครจะตอบได้ล่ะ...ก็เรื่องของเธอ เธอยังตอบไม่ได้เลย แล้วฉันจะตอบได้อย่างไร

โดยปกติแล้วเคสที่เข้ามาจะต้องเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลด้วยตนเอง เช่น ติดต่ออำเภอเอง แสวงหาพยานหลักฐานเอง ตามความคืบหน้าของคำร้องเอง เว้นแต่กรณีที่หนักหนาสาหัสจริงๆ เราถึงจะยื่นมือเข้าไปช่วยดำเนินการให้ ตุ๋ยหรือสงครามก็เหมือนกับเคสอื่นๆ หลังจากสั่งการบ้านเมื่อคราวก่อนตอนที่เขามาขอความช่วยเหลือเรื่องการแจ้งเกิดลูก เราขอให้เขาติดต่อขอเอกสารการสมัครเรียน กศน.จากศูนย์กศน.และส่งเอกสารมาให้ดู เรื่องก็เงียบไป

ดังนั้น คราวนี้เมื่อฉันโดนคำถามว่าเรื่องถึงไหน ฉันจึงไม่สามารถตอบได้จริงๆ  อ.แหวว จึงช่วยประสาน "ป้ามล" คุณทิชา ณ นคร เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสถานะบุคคลของตุ๋ย "ป้ามล" ใจดีช่วยประสานให้เราได้คุยกับ "ครูดนัย" ซึ่งไม่ทราบว่าตุ๋ยได้เลข ๑๓ หลัก จากการสำรวจบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มเด็กในสถานศึกษา ไปแล้วหรือยัง ครูดนัยแนะนำให้เราประสานไปยัง "ครูเหม็ง" ซึ่งเป็นครูที่ดูแลการเรียนการสอนของ กศน.

ดังนั้น สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปเพื่อติดตามความคืบหน้าของตุ๋ย มีดังนี้

๑. ติดต่อครูเหม็ง เพื่อถามความคืบหน้าในการสำรวจฯ

๒. สำหรับคุณแม่ไพรินทร์ ต้องแนะนำให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ก่อนวันที่ ๓๑ กรกฎาคมนี้

๓. สำหรับแต๋ว พี่สาวของตุ๋ย เค้าควรสมัครเรียน กศน.ไปแล้ว

ไหม

แบ่งงานเลยป่ะ ว่าใครจะต้องทำอะไร

เพิ่มเติมที่ไหมสรุป

๑. อ.แหววเสนอว่า จะยกร่างจดหมายทำความเห็นให้ อ.ทิชา ในฐานะผู้อำนวยการบ้านกาญจนาภิเษก ร้องขอให้มีการแก้ไขปัญหาให้สงคราม โดยเสนอให้หารือนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ

๒. อ.แหววขอให้ครูดนัยก็ควรช่วยประสาน กศน.ที่เข้ามาสอนในบ้านกาญจนาภิเษกด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท