ขาดอากาศหายใจ?

ได้อ่านข่าว (ครับ ข่าวอาชญากรรมนั่นแหละ) อีกแล้วเกี่ยวกับคนที่อยู่ในรถยนต์แล้วเสียชีวิต โดยรายงานข่าวก็บอกสาเหตุเดียวกับที่เคยรายงานกันมา (จนเป็นความเคยชินแล้วมั้ง) ว่า "ขาดอากาศหายใจ"
นานมาแล้วที่ผมสงสัยเรื่องนี้ว่ามันต้องมีอะไรที่เข้าใจผิดแน่ๆ สมัยที่ที่ผมยังเที่ยวกลางคืน การจอดรถเพื่อหลับเอาแรงเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ ซึ่งแทบทุกครั้งจะเป็นการจอดรถแล้วเปิดแอร์ไว้ แล้วหลับ
ชะรอยคงยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะตาย ผมก็เลยมีชีวิตอยู่ตามปกติจนเลิกดื่ม เลิกสูบบุหรี่ เลิกเที่ยวกลางคืนในที่สุด เพราะถ้ามีอะไรผิดปกติกับรถ ผมคงตายไปแล้ว

เปล่าหรอกครับ ผมจะไม่ได้ตายเพราะ "ขาดอากาศ" หากนอนหรือติดอยู่ในรถ แต่สาเหตุสำคัญอันดับแรกของการนอนในรถที่ติดเครื่องไว้คือ การหายใจเอาคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไป
คาร์บอนมอนอกไซด์จากไอเสียรถ ที่เข้ามาในรถได้จากการจอดรถในที่การถ่ายเทอากาศไม่ดี คาร์บอนมอนอกไซด์ที่ควรจะถูกลมพัดออกไปเจือจางลงตามปกติ กลับถูกกักอยู่ในจุดที่รถจอด และเข้ามาในรถด้วย
คงเพราะที่ผ่านมาผมจอดรถริมถนน ก็เลยไม่ได้หายใจเอาคาร์บอนมอนอกไซด์ปริมาณมากเข้าไป แต่ถ้าผมเกิดไปทำแบบนั้นในลานจอดรถไต้ดินช่วงกลางคืนซึ่งมักจะปิดระบบระบาย อากาศเพราะไม่ค่อยมีรถ แบบนั้นผมคงได้ลงข่าวหน้าหนึ่งว่าตายเพราะ "ขาดอากาศหายใจ" ไปแล้ว
ก็เกือบถูกครับ เพราะดูเหมือนผมจะตายเพราะขาดออกซิเจน
แต่จริงๆแล้วการตายเพราะคาร์บอนมอนอกไซด์ไม่ได้เพราะมันเข้าไปแทนที่ ออกซิเจนจนเราไม่มีอากาศหายใจหรอกครับ คาร์บอนมอนอกไซด์เพียง 3,200 ส่วนในล้าน (3,200 PPM) หรือแค่ 0.32% สามารถจะฆ่าเราได้ภายในครึ่งชั่วโมงครับ ความเข้มข้นขนาดนี้แทบไม่มีผลในการลดปริมาณออกซิเจนในอากาศเลย เรายังคงมีอากาศหายใจได้อย่างเหลือเฟือ
แต่หายใจเอาก๊าซพิษเข้าไปด้วย

แต่ในกรณีอย่างที่ เด็กติดอยู่ในรถแล้วเสียชีวิต มักเป็นกรณีที่รถไม่ได้ติดเครื่องไว้
ซึ่งก็เลยทำให้เข้าใจไปอีกว่า "ขาดอากาศหายใจ"

ก็ต้องย้อนกลับไปตอนต้นอีกครั้งครับ เราจะพบว่า ที่เราเปิดแอร์หลับในรถนั้น สภาพไม่ต่างจากการปิดแอร์หรอกครับ แต่มันสบายต่างกัน
การระบายอากาศขณะเปิดแอร์กับปิดแอร์นั้นไม่ต่างกันนะครับ รถจอดนิ่งๆเหมือนกัน อากาศซึมเข้าออกระหว่างในรถกับนอกรถเท่าๆกัน เพราะแอร์รถทำหน้าที่เพียงเอาอากาศมาทำให้เย็นลง แล้วก็อาศัยอากาศในรถเองนั่นแหละหมุนเวียน มีอากาศจากภายนอกเข้ามาตามช่องเปิดต่างๆที่มีอยู่ทั่วตัวรถ หรืออาจจะมีเพิ่มหากเราเปิดช่องในระบบแอร์ให้เอาอากาศจากภายนอกเข้ามาด้วย แต่เชื่อเถอะครับว่าบางท่านยังไม่ทราบเลยว่ารถของท่านนั้นมีระบบนี้ด้วย และบางท่านแม้จะทราบก็ไม่ชอบเปิดไว้ เพราะจะทำให้แอร์เย็นช้าเนื่องจากต้องมาทำความเย็นให้อากาศร้อนที่เข้ามา ใหม่ๆด้วย แล้วยังเรื่องกลิ่นจากภายนอกอีก
ช่างแอร์บางคนเล่นอุดระบบนี้ทิ้งไปเลย แอร์จะได้เย็นเร็วๆ
แต่ก็ไม่ได้ทำให้รถถูกปิดผนึกจนอากาศผ่านเข้าออกไม่ได้หรอกครับ บางท่านอาจจะบอกว่า รถมีขอบยางตามช่องเปิดเช่นขอบประตู ขอบกระจก จะได้กันน้ำเช่นฝนไม่ให้ซึมเข้ามาในรถ
ใช่ครับ แต่ไต้ท้องรถไม่ได้กันไว้หรอกครับ หากรถเราตกน้ำ มันจะจมครับ เพราะน้ำเข้า
น้ำยังเข้าได้ อากาศยิ่งเข้าได้สบายมากครับ และมันเข้ามาทางเดียวกับที่คาร์บอนมอนอกไซด์มันเข้ามานั่นแหละครับ

การอยู่ในรถขณะที่ดับเครื่องจะปลอดภัยจากคาร์บอนมอนอกไซด์มากกว่าด้วยซ้ำ เพราะไม่มีแหล่งคาร์บอนมอนอกไซต์

อ้าวแล้วทำไมเด็กที่ติดอยู่ในรถถึงตายล่ะ
ตอนนั้นไม่ได้เปิดแอร์นี่ครับ เราลองนึกถึงตัวเราเข้าไปนั่งในรถที่ไม่เปิดแอร์สิครับ นั่งได้พักเดียวก็เหงื่อซึม
ไม่ต้องพูดถึงรถที่จอดตากแดดนะครับ นั่นยิ่งร้อนจนเหงื่อท่วม

ใช่ครับ เหงื่อท่วมเลย แล้วถ้าเราเสียเหงื่อออกไปเรื่อยๆ เราจะขาดน้ำ และถึงตายได้ครับ ตายอย่างทรมานด้วย

การเสียชีวิตจากการถูกปิดอยู่ในรถ จึงไม่มีอะไรเกี่ยวกับการขาดอากาศเลยครับ
หากรถเดินเครื่องไว้ ก็มักจะตายเพราะพิษคาร์บอนมอนอกไซด์
ถ้ารถดับเครื่องไว้ ก็มักจะตายเพราะร่างกายสูญเสียน้ำ

อยากให้สื่อเอาใจใส่ข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้
และอยากให้ผู้บริโภคสื่อ ใส่ใจข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้เช่นกันครับ
เพราะข่าวอาชญากรรม มีข้อเท็จจริงน้อยจนแทบไม่มีคุณค่าของความเป็นข่าว
ใครที่ไม่เคยลงหน้าหนึ่ง หรือไม่เคยใกล้ชิดกับเหตุการณ์ จะไม่ทราบหรอกครับ ว่าข่าวอาชญากรรมส่วนใหญ่นั้น มีข้อเท็จจริงน้อยจนแทบไม่มีประโยชน์ในเชิงเป็นอุทาหรณ์อย่างที่คิดอย่างที่เข้าใจกัน

[พัชรินทร์]

ขอบคุณข้อมูลน่ารู้นะค่ะ ตอนนี้ทำรายงานเกี่ยวกะเรื่องนี้ยุพอดีเลย