เรื่องบ้า ๆ


หยุดความสับสน วุ้นวาย

 

เช้าวันหนึ่ง

ผมนั่งรถผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่งระหว่างทางผมเห็นผู้ชายไว้ผมยาวรุงรัง

ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดรุ่งริ่ง ดูมอมแมม 

"คนบ้า"  ใช่...คนปกติต่างสรุปกันว่าเขา บ้า"  

อยากรู้จังว่าคนบ้า เขามีสุขหรือทุกข์ร้อนกับชีวิตบนโลกในนี้บ้างหรือเปล่า

สังเกตุดูแล้ว..คิดว่าไม่น่านะ..เพราะใบหน้าเขาดูยิ้มเยาะ..

คล้าย ๆ จะรู้ทันว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

คงจะบอกกับผมเป็นนัย ๆ ว่า "ฉันอยู่สุขบายดี"  

พอบ่ายคล้อย ๆ

ผมถึงตัวเมืองและเห็นคนกลุ่มหนึ่ง

รวมตัวกันชุมนุมทางการเมืองในลานแจ้ง

ท่าทาง ดูโมโห เครียดแค้น และ เอาคืน

กล่าวหาคู่ต่อสู้ทางการเมืองของตนอย่างเอาเป็นเอาตาย 

หักล้างฝ่ายตรงข้าม เพื่อหาความชอบธรรมเข้าฝ่ายตน 

ผมหวนคิดถึงผู้ชายที่ผมเจอเมื่อเช้านี้ขึ้นมาทันที

คนที่ทุกคนเรียกเขาว่า"คนบ้า" 

และเกิดคำถามขึ้นมาในใจผมอย่างบันดล

"ทำไมคนที่ไม่ใช้คนบ้ากับมีเงื่อนไขมากมาย ??"

ชวนกันใส่เสื้อแบ่งสี แบ่งฝ่าย (คล้าย ๆ แบ่งกลุ่มกันบ้า)

ดู ๆ แล้วมันสร้างความชุลมุนวุ่นวายยิ่งกว่าคนบ้าเสียอีก...

หรือว่า...

"คนเรายิ่งสติดีก็ยิ่งทำในสิ่งที่ยุ่งยาก แย่งชิงให้ได้มาตามสิ่งประสงค์ของตน"

หรือว่า...

"คนเหล่านั้นเป็นคนบ้า...แล้วอะไรนะ..ที่ทำให้เขาเหล่านั้นต้องเป็นคนบ้า..??"    

บ้าจนลืมไปว่า.."ความสุขที่แท้จริงในการอยู่รวมกันนั้น...มันคืออะไรกันแน่..???" 

ปล.

จากใจของคณะราษฎรบางคน...

ขอแจ้งความรู้สึกกระจ้อยร่อยที่ไม่ได้ลึกซึ้งถึงใจกับการมุ้งการเมืองเท่าใดนัก

คิดแบบรากหญ้า  อยู่แบบรากหญ้า...และ จะขอร้องแบบรากหญ้า

ขอร้องให้ท่านหยุดเสียทีเถิดกับเรื่องบ้า ๆ  ที่มันทำให้บ้านเมืองเสียหาย

หยุดบ้าอำนาจ หยุดบ้าเกียรติยศ  หยุดบ้าศักดิ์ศรี 

และก็หยุดบ้าเงินทองกันเสียที..ได้หรือเปล่า ??  

บันทึกบทนี้ไม่ได้สนใจกับความถูกต้อง...ชอบธรรม..อันเป็นกลลวง

ที่มันรอวันจะปะทุขึ้น..เพื่อจะสร้างเป็นเงื่อนไขให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

แต่สนใจว่า...บ้านเมืองของคนไทยทั้งชาติจะเดินไปข้างหน้าอย่างไรในอนาคต

ถ้าหากวันนี้วิกฤตการณ์มันยังแก้ไขและหาทางออกไม่ได้

หรือจะรอให้ตายกันไปข้างหนึ่งกระนั้นหรือ...แต่นั้นคือเลือดเนื้อและชีวิตของไทยทั้งมวล

ถึงในวันนี้ศตรูของท่านยังไม่ตาย

แต่..ใจของราษฎรอย่างผมมันตายด้านไปแล้ว..สำหรับการณ์เมืองบ้า ๆ  

ที่นับวันจะดูตีบตันอย่างหนักสำหรับอนาคตของผู้คนในชาติ

รวมทั้งลูกหลานตาดำ ๆ  ที่ต่างรอคอยผู้นำให้มาฉุดดึง

เพื่อให้พ้นจากภัยทำลายชาติที่แฝงมากับปัญหามากมายหลายด้าน

มาช่วยกันสร้างอนาคตประเทศชาติให้สดใส ลืมเรื่องล้างแค้น

ลืมเรืองหักล้างศตรูที่เป็นคนไทยด้วยกันเสียทีจะได้มั้ย

คนรากหญ้าอย่างผมใคร่ขอกราบวิงวอน

หยุดเถอะครับ..ท่านครับ..

ผมขอกราบไว้ ณ ที่ตรงนี้...ที่ไม่มีความหมายสำหรับท่านผู้ยิ่งใหญ่ทั้งมวล

เพราะมันช่างกระจ้อยร่อยด้อยความหมายเหลือเกิน เกินที่จะช่วยชาติในขณะนี้ได้

ด้วยความรักชาติยิ่ง

จาก..ราษฎรละอ่อน 

คำสำคัญ (Tags): #สติ สมาธิ
หมายเลขบันทึก: 253489เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2009 01:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

โลกคือละคร...
แต่เราต่างก็ไม่ย้อนกลับมาสู่ตัวเองเสียที

สวมบทบาทหัวโขนแล้วไม่ยอมถอด

นั่งหลังเสือแล้วไม่ยอมลง...

ไม่เห็นค่าของการสูงสุดสู่สามัญ...
และยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง  โดยไม่ตระหนักถึงองค์รวม.ส่วนรวม...

ไม่ว่ายังไง..ก็ไม่เคยสิ้นหวัง นะครับ

สวัสดีครับคุณพนัส

ก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา

หมอกจางตา ฟ้าร่วมกันท้าทาย

ขุนเขายิ่งใหญ่ ทางเดินห่างลับไกล

บุกเดินไปไม่เคยหวั่น

เขาสูงล้ำค้ำฟ้าตระหง่าน

เหล่าภัยพาลคืบคลานเป็นเงา

ยิ่งสูงยิ่งหนาวยอดเขายังห่าง

อยู่บนทางนึกหวั่นนึกพรั่นความหนาว

เขาสูงล้ำค้ำฟ้าตระหง่าน

เหล่าภัยพาลคืบคลานเป็นเงา

ยิ่งสูงยิ่งหนาวยอดเขายังห่าง

อยู่บนทางนึกหวั่นนึกพรั่นความหนาว

เปรียบคนเราเหมือนดั่งขึ้นภูเขา

ฝ่าไปเอาหมายตัวเราก้าวไกล

สูงๆ ขึ้นไป ใครจะอยู่ข้างเรา

กิเลสยุเย้าให้ปีนป่าย

ไร้มิตรแท้ถึงแม้ยิ่งใหญ่

ใหญ่เกินไปไม่มีใครเอา

ยิ่งสูงยิ่งหนาวยิ่งเหงายิ่งห่าง

อยู่บนทางนึกหวั่นนึกพรั่นความหนาว....

บทเพลงของ เรวัต พุทธินันทน์

*************************

ริบหรี่..

ถึงอย่างไรความหวังจะยังลุกโซนขึ้นได้ครับ

ตราบที่มีกำลังใจจากคนไทยที่รู้รักสามัคคี

ขอบคุณมากครับที่มาเยือน..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท