กนอ. ดึงนิคมฯใน 15 จังหวัด ช่วยเหลือผู้ประกอบการ และลูกจ้างทั้งในและนอกนิคมฯ

กนอ. ดึงนิคมฯใน 15 จังหวัด ช่วยเหลือผู้ประกอบการ และลูกจ้างทั้งในและนอกนิคมฯ
ที่มา http://www.technologymedia.co.th/news/newsview.asp?id=2247

TNN : Technologymedia News 20/3/2552

 

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)  โชว์ผลการดำเนินงานปี 2551 และไตรมาสแรกปี 2552 รวมทั้งโครงการต่างๆ ในอนาคต  ดึงนิคมฯใน 15 จังหวัด ขับเคลื่อนมาตรการ และกิจกรรมต่างๆ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ และลูกจ้างทั้งภายในและภายนอกนิคมฯ รองรับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ  

 มณฑา  ประณุทนรพาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า กนอ. ได้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือโครงการเซาท์เทิร์นซีบอร์ด (Southern Seaboard) ในบริเวณพื้นที่โครงการ Strategic Energy Land Bridge ซึ่งเป็นสะพานเศรษฐกิจเชื่อมโยงพื้นที่ทะเลฝั่งอันดามันและอ่าวไทย โดยได้เลือกพื้นที่ในอำเภอสิชล อำเภอท่าศาลา และอำเภอนาบอน  จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมพื้นที่กว่า 25,000 ไร่ มูลค่าพัฒนาโครงการกว่า 70,000 ล้านบาท แต่การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวจำเป็นต้องสร้างทัศนคติเชิงบวกให้ประชาชนในพื้นที่ยอมรับและเกิดความเข้าใจในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมต่อไป

พร้อมกันนี้ได้จัดตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล จังหวัดปัตตานี เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตและ Logistics Base สำหรับผลิตอาหารฮาลาลที่ได้มาตรฐานสากลพร้อมบริการเบ็ดเสร็จครบวงจร มีพื้นที่โครงการในระยะแรก 170 ไร่  ซึ่งได้วางระบบสาธารณูปโภคครบวงจร อาทิ ถนน ไฟฟ้า ประปา และระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น ล่าสุดมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 25 % และอีกหนึ่งโครงการคือ โครงการนิคมอุตสาหกรรมบริการ ที่จะเป็นกลไกช่วยเพิ่มศักยภาพของธุรกิจบริการของไทย ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศได้ โดยได้เลือกพื้นที่ระยะแรก จำนวน 1,366 ไร่ ในเขตอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นเป้าหมายหลักในการบริการ ทั้งด้านการฟื้นฟูและพัฒนาสุขภาพ อุทยานพฤกษศาสตร์ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า การวิจัยและพัฒนา เป็นต้น

มณฑา กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินงานของ กนอ. ในปี 2551 ที่นำเสนอทางเลือกและโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการนั้น ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี  ส่วนแผนการดำเนินงานในอนาคต กนอ. ได้สนับสนุนการประกอบอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่โครงการเข้าซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าในสองนิคมอุตสาหกรรมนำร่อง คือนิคมฯลาดกระบังและนิคมฯบางปู ซึ่งจะมีการประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมการพัฒนาโรงไฟฟ้าในเร็วๆนี้ โครงการต่อมา คือ โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือบริเวณ Inner Basin ซึ่งจะเกิดการใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจของพื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดได้อย่างเต็มที่ ปัจจุบันได้มีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ระยอง เทอร์มินัล จำกัด เข้าลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะมีบริษัทอื่นๆ ที่สนใจเข้าร่วมลงทุนตามมาอีกจำนวนมาก

สำหรับมาตรการรองรับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ กนอ. ได้ใช้นิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่ใน 15 จังหวัด เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ และลูกจ้างทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรม และยังร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ในการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ นัดพบแรงงาน การฝึกอาชีพ ตลาดนัดแรงงาน เป็นต้น เพื่อช่วยสร้างคุณค่าให้กับแรงงาน และสร้างรายได้เสริมให้กับชุนชน นอกจากนี้ ได้จัดทำข้อเสนอไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม ในเรื่องสิทธิประโยชน์และภาษี เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการ และผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม

ในช่วงที่กำลังประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยร่วมรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม

“ในปีที่ผ่านมา  กนอ. ได้ร่วมกับผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการสถานศึกษา ชุมชน หน่วยงานราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมชุมชนในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้จัดกิจกรรม “พลังแห่งการแบ่งปัน : Power of Sharing” เนื่องในวันสถาปนา กนอ. ปีที่ 36 เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางสังคม นอกจากนี้ กนอ. ยังบริหารจัดการการทำงานขององค์กรให้มีศักยภาพสูงสุด ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน”  มณฑา กล่าวทิ้งท้าย