คลายร้อน..แบบไทยๆ


พวกเราจะสนุกสนานกับการขนย้ายที่นอน หมอน และมุ้ง เพื่อมานอนรับลมเย็นๆนอกชาน กลางคืนที่เรานอนนอกชานแม่ต้อยยังจำกลิ่นดอกไม้หอมๆได้จนบัดนี้ เช่นดอกราตรี ดอกขจร ดอกเขี้ยวกระแต

หมู่นี้อากาศในตอนกลางวันร้อนมากๆ โดยเฉพาะในเวลาที่เราเดินทางไปต่างจังหวัดใกล้ๆ โดยรถตู้ของสถาบันฯ พวกเราจะร้องอ้อนวอนให้พนักงานขับรถ ช่วยจอดแวะให้พวกเราได้มีโอกาสพักซื้อน้ำดื่ม  หรือพวกน้ำปั่นหวานเย็นกินแก้ร้อนกันเป็นประจำ

       เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาก็เช่นเดียวกัน เมื่อเสร็จจากงานที่จริงก็เป็นเวลา ห้าโมงเย็นแล้ว แต่พวกเรายังรู้สึกร้อนระคายผิว แม้ว่าเราจะนั่งในรถที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ดื่มน้ำเย็นๆ ที่พวกเราซื้อตุนกันมาเป็นกระตั้ก

มีน้องบางคน เล่าให้ฟังว่ากำลังซื้อเครื่องปรับอากาศตัวใหม่ เพราะว่าอากาศร้อนมากๆ

       มีเสียงใครสักคนหนึ่ง ถามขึ้นมาลอยๆว่า “ อยากรู้จังว่าคนสมัยก่อนนี่เขามีวิธีดับร้อนกันยังไงน้า? พร้อมกับขยายสาเหตุของข้อสงสัยนั้นต่ออีกว่า เพราะในสมัยก่อนเขายังไม่มี เครื่องปรับอากาศ ไม่มีไฟฟ้าด้วยนะ

       แม่ต้อยก็คิดตาม.. เสียงของใครคนนั้นทันที ..เออนะ ในสมัยก่อนนู้น...นานมาแล้ว...

       แม่ต้อยน่าจะอายุสักเจ็ดขวบ..( นี่ย้อนมากไปหรือเปล่าคะ..มันย้อนมากไปจริงๆนา..แต่เอาเถอะนะ )

       จำได้ว่าในหน้าร้อน อากาศร้อนมากก็คงคล้ายๆอย่างในตอนนี้แหละคะ จำได้ว่าร้อนขนาดที่ถนนหน้าบ้านซึ่งเขาราดด้วยยางมะตอย( รู้จักกันบ้างไหมคะ ยางมะตอยที่ว่า..ถ้าตอบว่าไม่รู้จักให้ข้ามไปอ่านเรื่องอื่นคะ อิอิ)  ความร้อนของอากาศทำให้ยางมะตอยสีดำๆบนถนน เปลี่ยนเป็นของเหลวเยิ้มๆ หากเราเดินไม่ระมัดระวัง เจ้ายางมะตอยทื่ว่าจะติดรองเท้า  หรือที่จริง รองเท้าเรานี่แหละจะไปติดแหงกบนพื้นถนน

       แม่ต้อยเคยสวมรองเท้าฟองน้ำคู่เก่งเดินไปบนถนนยางมะตอยตอนหน้าร้อน ปรากฏว่า รองเท้าฝังในยางมะตอยดึงออกไม่ได้เลยนะคะ..น่าเสียดายมากๆ.นี่แหละ เปรียบเทียบความร้อนในสมัยนั้นให้ฟัง

       ทีนี้ในหน้าร้อน คนทางเหนือแบบแม่ต้อยเขาก็มีวิธีคลายร้อนหลายรูปแบบ ในเวลากลางวัน เราจะพากันย้ายไปนอนหรือนั่งบริเวณตั่งใต้ถุนบ้านที่ยกสูง ลมพัดโกรก พอบรรเทาความร้อน แต่ก่อนที่ผู้ใหญ่จะลงไปนั่งหรือนอน เด้กๆแบบแม่ต้อย( ในตอนนั้น) ก็จะมีหน้าที่เอาน้ำไปชำระล้างตั่งให้เปียกเพื่อให้มีความเย็น ปูทับอีกทีด้วยเสื่อที่ทำจากต้นแหย่ง เรามักเรียกว่า” เสื่อแหย่ง” แต่ภาษาเหนือเรียกว่า” สาดแหย่ง” เสื่อนี้ทำจากต้นไม้จึงเย็นสบายเมื่อเราใช้นั่งหรือนอน

       นอกจากเตรียมตั่งเพื่อนั่ง หรือนอน ใต้ถุนบ้านแล้ว ยังต้องจัดเตรียมคณโทใส่น้ำที่ตักจากบ่อซึ่งจะเย็นใสสนิทไว้ แม่ต้อยจำได้ว่าคณโทที่ใส่น้ำไว้จนเต็มนี้จะเย็นมาก แม่ต้อยเคยนอนกอดจนหลับไปเพราะว่าเย็นสบายดีคะ

       ยังมีพัดใบลาน วางไว้ พร้อมกับกระติกใส่น้ำแข็งตรานกอินทรีย์แบบฝาเกลียว ( กระติกยี่ห้อนี้ ต้องนั่งรถไฟมาซื้อที่บางกอกเชียวนะ )ที่เราจะต้องไปซื้อน้ำแข็งเป็นก้อนโตๆมีขี้เลื่อยห่อหุ้ม ล้างขี้เลื่อยออกแล้วนำมาต่อยให้เป็นชิ้นเล็กๆ(ขอบอกว่าต้องใช้ฝีมือ ไม่อย่างนั้นจะได้ขนาดไม่เท่ากันแน่นอน ) น้ำแข็งชิ้นเล็กๆนี้ที่บรรจุในกระติกจะได้รับอภิสิทธิ์ เฉพาะเด็กที่ทำความดีเท่านั้นนะคะ

       อีกอย่างที่ในหน้าร้อนจะต้องมีคือ น้ำดื่มที่ลอยดอกมะลิหอมเย็นชื่นใจ ตกบ่าย ผู้ใหญ่เขาจะประแป้งหอมๆ มานั่งดื่มน้ำเย็นลอยดอกมะลินั่นแหละคะ

       สำหรับของว่าง ที่แม่ต้อยจำได้คือ พวกข้าวหมาก หรือแตงโมกับปลาผัดน้ำตาล น้าอ้อย หรือน้าตาลสดที่ใส่ในกระบอกมาขายคะ

       กลางคืนนี่จะน่าสนุกมากคะ เพราะว่าต้องย้ายที่นอนจากในห้องนอนมานอนที่นอกชาน  พวกเราจะสนุกสนานกับการขนย้ายที่นอน หมอน และมุ้ง เพื่อมานอนรับลมเย็นๆนอกชาน กลางคืนที่เรานอนนอกชานแม่ต้อยยังจำกลิ่นดอกไม้หอมๆได้จนบัดนี้ เช่นดอกราตรี ดอกขจร ดอกเขี้ยวกระแต

หากวันใดที่อากาศร้อนมากๆ แม้ว่าเราจะย้ายมานอนข้างนอกแล้วก้ตามผู้ใหญ่จะบอกให้ไปอาบน้าก่อนนอน และประแป้ง จนจำใบหน้าที่แท้จริงไม่ได้  ในตอนนี้เองที่พวกเราจะเล่นผีหลอกกัน เพราะบรรยากาศกำลังดี( แฮะๆๆ)

       หน้าที่อีกอย่างคือแม่ต้อยยังต้องมีหน้าที่เป็นพัดลมส่วนตัวให้น้องคนเล็กเพื่อให้เขาหลับโดยการใช้พัดใบลานนั่นแหละคะ พัดไปมาจนกว่าคนใดคนหนึ่งจะหลับไปก่อน คือระหว่างคนพัด กับคนที่นอนให้พัด หรือไม่เราก็จะผลัดกันให้พัดคนละ ๑๐๐ ครั้งคะ เป็นเรื่องราวที่เมื่อเอามาเล่าตอนนี้ก็ยังนึกขันตัวเองไม่หาย

       หน้าร้อนเป็นฤดูกาลที่ดอกไม้เมืองร้อนจะเบ่งบานให้ความสวยงาม

ลองดูตามถนนหนทางจะเห้นดอกไม้สีสวยบานสะพรั่ง เช่นชมพูพันธ์ทิพย์

เหลืองอินเดีย  ตะแบก  เฟื่องฟ้า คูณ อินทนิล เป็นต้น

       “ในตอนเด็กๆแม่ต้อยชอบหน้าร้อนมาก เพราะว่าเป็นช่วงที่เราได้หยุดพักการเรียน ได้เล่นกับเพื่อนๆ ดอกไม้สีสวย รวมทั้งเป็นช่วงประเพณีสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันเวลาที่เด็กๆในสมัยนั้นรอคอยคะ นับวันเวลาที่จะมาถึงอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว...”

       “ วันนี้ ขอย้อนเวลาหาอดีต..สักวันนะคะ”

สวัสดีคะ

คำสำคัญ (Tags): #คลายร้อน
หมายเลขบันทึก: 250873เขียนเมื่อ 25 มีนาคม 2009 21:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีค่ะ

  • นึกถึง..ลอดช่องไทยลอยดอกมะลิ
  • และน้ำยาอุทัยด้วยค่ะ
  • คนสมัยก่อน..มีความอดทนสูงกว่าคนสมัยนี้นะคะ
  • ทานน้ำปลาหวานมะม่วง..อร่อยก็หน้าร้อนนี้แหละนะคะ

P

รักกันยืนยงคะ  แม่ต้อยเขียนไปก็นั่งทานมะม่วงน้าปลาหวานด้วยคะ
คนสมัยก่อนเขาหาวิธีต่างๆนานาที่ดีคะ หรือว่าตอนนั้นแม่ต้อยยังเด็กก็ไม่ทราบนะคะ ทุกอย่างดูสนุกไม่เดือดร้อนอะไรมากมาย
ใช่คะ ลืมน้ายาอุทัยไปได้อย่างไรนะ
ขอบคุณครูคิมมากคะ

โอ้โห....แม่ต้อยย้อนไปนานจริงๆค่ะ

เรียนรู้ด้วยคนนะคะ อิอิ

. ♥.paula ที่ปรึกษาตัวน้อย

เรื่องเล่าชีวิตในวัยเยาว์ไงคะ ที่ย้อนหลังตอนอายุ ๗ ขวบคะ อิอิ

เสียดายที่ยังไม่ได้ร้องเพลง" สวัสดีเธอจ๋าเรามาพบกัน" ด้วยนะเนี่ย

คิดถึงบ้านมากค่ะ พออ่านบันทึกแม่ต้อย เพราะสมัยเด็กๆจำได้ว่า ร้อนยังไงเราก็แก้ได้ด้วยภูมิปัญญาแบบไทยๆนะคะ

..........

แม่ต้อยข๋า เรื่อง การเข้าโครงการ Lean&Seamless ของ รพ ศรีนครินทร์

ถ้าสนใจจะต้องทำยังไงคะ

แก้วถามท่านรอง ผอ รพ แล้ว ท่านบอกว่าท่านสนใจค่ะ

ขอบพระคุณแม่ต้อยมากๆนะคะที่ชักชวนค่ะ

อ่านแล้ว คิดเถิงหาบ้านที่เชียงใหม่ คิดเถิงหาพ่ออุ้ย แม้อุ้ย จังเลย

5. แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช
น้องแก้วคะ

นี่แม่ต้อยกำลังคุยกับคนดังสุดๆเลยนะคะเนี่ย อิอิ

เรื่องโครงการlean แม่ต้อยจะเริ่มคุยหารือกับทางสถาบันเพิ่ม และคุณ kelvin แล้วจึงจะบอกมาอีกทีนะคะ

แต่ไม่ลืมคะ

 ไม่แสดงตน
สวัสดีเจ้า คุณไม่แสดงตน

แม่ต้อยกึ้ดเติง หาป้ออุ้ยแม่อุ้ยเหมือนกั๋นเจ้า

ย้อนมั่ง

ตอนเด็กๆ ร้อนๆแบบนี้สักประเดี๋ยวคุณลุงจะวานให้ใครไปซื้อโอวเลี้ยง คนรับใช้ที่บ้านก็จะเอาขันเงินไปด้วย ไม่นานก็จะมีน้ำสีดำเย็นเจี๊ยบ เห็นไอน้ำจับรอบขันมาเลย พวกเด็กโตๆ (พี่ๆของผม) มักจะรีบไปเลียบๆเคียงๆขอลอง (เพราะพ่อแม่ห้ามกินโอวเลี้ยง นัยว่ามันเป็นกาแฟ... ผมก็ไม่ได้กินจนแล้วจนรอด อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้นี่เอง โตมาเลยติดกาแฟ เพราะกินซะให้หายอยาก ชดเชยสมัยเป็นเด็ก)

ที่บ้านผม คุณพ่อเป็นคนออกแบบสร้างเอง แทบจะไม่มีผนังเลย มีแต่หน้าต่างพรุนไปรอบบ้าน 360 องศาเลยทีเดียว ถ้าไม่ใช่หน้าต่าง ก็จะเป็นลูกกรงเหล็กดัดขึงมุ่้งลวดรอบ ก็เลยคล้ายๆห้องใต้ถุนสูงแบบที่แม่ต้อยพรรณนา แต่เราอยู่กันฝั่งธนบุรี (เราจะไม่บอกว่าเราคนกรุงเทพฯ แต่เป็นคนธนบุรี)

ฝั่งธนฯจะมีคลองเยอะ พี่ๆผมก็หัดว่ายน้ำในคลองนั่นเอง รวมทั้งหมาที่บ้านด้วย (ที่จริงมันตกน้ำไปหรอก แล้วมันก็ว่ายตะเกียกตะกายไปโผล่ที่ท่าน้ำวัดพระยาทำ เสร็จแล้วมันก็วิ่งอ้อมาเข้าบ้านทางหน้าบ้าน เก่งเกินหมาจริงๆ) คลองนี้่จะมีเรือขายขนมมาให้ซื้อถึงท่าเลย มีทั้งขนมข้าวเหนียวปิ้ง ไอติมถังๆบ้าง แท่งๆบ้าง ขนมน่ะไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่ตอนปีนลงกะไดท่าน้ำไปซื้อจากเรือนี่แหละเป็น hihglight ของงานนี้ แย่งๆกันว่าใครจะเป็นคนลงไปเอา

เดี๋ยวนี้คลองหลังบ้านตื้นเขินหมดแล้ว พวกเราย้ายจากตรงนั้นมาอยู่แถวๆสะพานควายแทน

. Phoenix

สวัสดีคะ ที่บ้านอาจารย์น่าเที่ยวและลงดำน้าเล่นจังเลยคะ

เรื่องโอเลี้ยง ก็มีเรื่องเล่าแถวๆ บ้านนอกทางเหนือเหมือนกันคะ

แต่โอเลี้ยงไม่ได้ใส่ในขันเงินเหมือนบ้านฝั่งธน หรอกนะคะ ของเราใส่ในกระปองนมเจาะรู ร้อยเชือกกล้วยคะ

แม่ต้อยชอบอาสาไปซื้อคะ เพราะกว่าจะถึงบ้านนี่โอเลี้ยงหมดไปแล้วเกือบครึ่ง ไม่ได้ดุดหรอกนะคะ เพราะเกรงว่าหลักฐานจะปรากฎ

ใช้จิบเข้าปากทีละนิดคะ  อร่อยจริงๆ

  • สวัสดีค่ะ อ.แม่ต้อย
  • วันนี้ไปนั่งกินข้าวร้านหนึ่งซึ่งเขาใช้เนื้อที่ของบ้านทำเป็นร้านอาหาร บริเวณวางโต๊ะ เป็นต้นชมพู่ ร่มรื่นมาก ทำให้คิดถึงบ้านหลังเก่า ที่มีใต้ถุนสูงและต้นไม้เยอะๆ
  • ปัจจุบันใต้ถุนบ้านก็ทำผนังกันหมด พ่อบอกว่า เดี๋ยวนี้ขโมยเยอะ ต้องทำบ้านให้มิดชิดเข้าไว้ เครื่องปรับอากาศเลยขายดีนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ

. pa_daeng

สวัสดีคะ  น้องป้าแดงคะ

ตอนนี้ยังอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่หรือเปล่าคะ

อยู่ให้ถึงสงกรานต์ปี๋ใหม่นะเจ้า ม่วนแต้ๆเจ้า

อ.แม่ต้อยคะ

สงกรานต์กลับบ้าน ที่หนองคาย

อยากเที่ยวสงกรานต์เชียงใหม่เหมือนกันค่ะ

แต่พอดี ได้วันหยุดหลาย เลยกลับไปหาความคิดถึงสักหน่อยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

pa_daeng

แม่ต้อยมีโครงการไปหนองคายประมาณปลายเดือนเมษายนคะ

คงได้เจอกันนะคะ

สวัสดีคะ

น้ำแข็งใส 1 ถ้วย กับเฉาก๊วยเย็นๆสักแก้ว น่าจะดีค่ะแม่ต้อย

. ทรายชล

น้องทรายพุดถึง.. แม่ต้อยอยากทานทันทีเลยคะ

เอาน้ำแดงใส่ขันใบใหญ่ ใส่นมข้นหวานลงไป ใส่น้ำแข็งทุบเป็นก้อนเล็กๆ ยกขึ้นดื่ม ทั้งขัน...ชื่นใจ...คลายร้อนมั๊ยคะ

7. ครู ป.1

สวัสดีคะ

ร้อนนี้เราได้ของกินอร่อยมากมายจริงๆคะ

ขอบคุรนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท