ชีวิตที่เหมือนนิยายตอนที่ 1
เมื่อชีวิตของเด็กหญิงคนหนึ่ง ที่เติบโตมาในครอบครัวของพ่อแม่ซึ่งมีลูกหลายคน ไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนกับเพื่อนคนอื่น ๆ มากไปกว่าการช่วยแม่ทำมาค้าขาย และทำงานบ้านตามที่เด็กหญิงพึงทำได้ ตั้งแต่จบชั้นประถมปีที่ 7 เมื่ออายุ 12 ปี ก็ออกมาช่วยแม่ขายของทุกวัน เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
ฉันอายุ 14 ปี ใช้เวลาตอนเย็นไปเรียนตัดเสื้อผ้าที่โรงเรียนสอนตัดเสื้อจนสามารถประกอบอาชีพได้ แถมมีลูกค้ามากจนตัดเย็บไม่ทันต้องหาเด็กมาช่วย การเรียนเพิ่มเติมในเรื่องช่างตัดเสื้อชายก็เกิดขึ้น จากแรงบันดาลใจที่เกิดจากการชี้แนะของครูชิต ไกรเทพ ปัจจุบัน
คือสามี หลังจากเรียนตัดเสื้อผ้าชายงานก็มากขึ้นจนล้นมือ จนทำไม่ทัน
การสอนลูกศิษย์ก็เกิดขึ้น เมื่อมีประสบการณ์ในการตัดเย็บเสื้อผ้า มีลูกศิษย์มาเรียนในขณะนั้นถึง 11 คน ทุกคนทำได้ดี
หลังจากนั้นฉันทำงานเป็นช่างตัดเสื้อเรื่อยมา จนวันหนึ่งก็เกิดแรงบันดาลใจอีกครั้งฉันไปสมัครเรียนโรงเรียนผู้ใหญ่วัดตันตยาภิรม จนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้วฉันสอบเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยครูสงขลาได้ ฉันยังตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ตลอด เมื่อเรียนจบอนุปริญญาฯ
โชคดีฉันก็ได้สอนโรงเรียนพรศิริกุล ซึ่งเป็นโรงเรียนราษฎร์ โดยการฝากของท่านอาจารย์
สุพล เพชรานนท์ ฉันสอนโรงเรียนราษฎร์ 3 ปี แล้วก็สอบบรรจุเป็นข้าราชการครู
สวัสดีครับ
(ขอแสดงความคิดเห็น)มีการจัดการกับจังหวะและโอกาสที่เข้ามาในชีวิตได้ดีครับ อิจฉาที่ตนยังไม่สามารถ ณ ตอนนี้มีthesisที่ต้องรีบส่ง แต่เอาเวลามานั่งอ่านบล็อคแต่ละคน แล้วแสดงความคิดเห็นไปเรื่อย 555
ตอนต่อไป จะเป็นอย่างไร คอยอ่านนะครับ
สวัสดีค่ะคุณชัยวัฒน์ ตันติบวรเดชา
ยังไม่นอนเหรอครับ ดึกแล้วนะครับ อิอิ
พี่อมร..ที่รัก
จะรออ่านค่ะ..
ตอนบทโศก อาจารย์อย่าเขียนเยอะนะคะ..เดี๋ยวจะมีคนร้องไห้
คิดถึงค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีคุณน้องลดา
สวัสดีคุณครูคิม
สวัสดีค่ะ คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน
สวัสดีครับอาจารย์ อ่านตอนที่สองแล้วตามมาอ่านตอนที่หนึ่ง..มาช้าไปหน่อย ครับ