ตามหาโรมานซ์ ที่เวียนนา (1) บุกป่าฝ่าดง


 

เป็นครั้งที่สองค่ะ ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศคนเดียว ครั้งแรกตอนยังเอ๊าะๆ กว่านี้ ครั้งนั้นอภินันทนาการจากพี่ชาย เพื่อตามคุณสามีไปทัศนศึกษา (อิอิ) เธอไปเรียนก่อน 2 เดือนได้มั๊ง ครั้งนั้นต้องถือว่าทรหดมาก เพราะว่าเดินทางยาวนาน นั่งเสียเมื่อยไปเลย แต่อาศัยแรงฮึด เพราะว่าเพิ่งจะไปเป็นครั้งแรก ก็เลยกล้าไปมั่กๆ จำได้ว่า ตอนนั้นต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่น แบบว่า แทบหาป้ายภาษาอังกฤษไม่เจอเลย ถามเขาตลอด แต่ก็รอดไปได้

ครั้งนี้ไปเวียนนา ตามเขาไปอีก ครั้งนี้อภินันทนาการคุณสามี แลกไมล์ตั๋วให้ไปได้ ... แหม เขาให้โอกาสไป ก็ต้องไปสินะ ทำเอาวุ่นวายเพื่อนร่วมงาน ที่ต้องทำงานแทนเลย แต่เดี๋ยวกลับไปชดใช้ให้นะจ๊ะ ... ขอมาเติมไป จากความเย็นยะเยือกหน่อย ... หนาวจริงๆ

มาครั้งนี้ เหมือนว่าจะง่าย แต่ก็ไม่ง่าย เพราะว่า คุณสามีก็บอกว่า เข้าเมืองเวียนนา สบายมาก กว่าที่เคยเจอ พี่ดาวก็บอกว่า ถ้าเป็นพาสปอร์ตข้าราชการก็เข้าได้ ไม่ต้องขอวีซ่า ... เราก็เย็นใจ ไปหลายกอง ... แต่มาสะดุด ตอนที่คุณสามี (ซึ่งเดินทางมาก่อนแล้ว) บอกว่า ยากหน่อยนะ ตอนเปลี่ยนเครื่องที่ Frankfurt เดินวุ่นเหมือนกัน ... เหอะ แต่ไม่บอกว่า วุ่นยังไง และต้องเดินยังไงนะ คุณ

อย่างไรก็ตาม เราก็เตรียมวุ่นวายอยู่แล้ว แต่ไม่นึกจะวุ่นปานนี้ เป็นยังไงน่ะหรือ ก็มาฟังกันหน่อย

ออกจากสุวรรณภูมิ ไม่มีปัญหา เครื่องออกประมาณ ห้าทุ่มกว่าๆ เดินทางออกเรียบร้อยดี เพราะว่าเมืองไทยของเราเอง บอก check กระเป๋ามาที่เวียนนาไปเลย ก็เรียบร้อย ไม่ต้องวุ่นวายย้ายกระเป๋า เหมือนครั้งที่ไปอเมริกา ... แถมได้ถ่ายภาพ logo สุวรรณภูมิมาโชว์อีกครั้งหนึ่ง

อยู่บนเครื่องก็เรียบร้อยดี ได้นั่งข้างคุณป้าฝรั่ง 2 ท่าน เรานั่งริมทางเดิน เพราะว่าสบายกว่า ตอนลุกเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่สบายตรงที่ คุณป้าทั้งสอง ก็เข้าห้องน้ำบ่อยเหมือนกัน เลยตื่นบ่อยโดยปริยาย แต่ ไม่เป็นไร ท่านน่ารักดี แถมดุดุกันเองอีกต่างหาก เพราะคุณป้าท่านหนึ่ง เหมือนจะไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ท่านพูดภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษซะด้วย ก็เลยได้แต่ Thank you กันไป

อาหารการบินไทย อร่อยใช้ได้ แต่กินไม่หมดหรอก เพราะว่าระหว่างเดินทางก็ไม่กล้ากินเยอะ กลัวมีปัญหา เวลาไปคนเดียว และมีปัญหา ก็ค่อนข้างจะยุ่งยากเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ทำตัวไม่ให้มีปัญหาดีกว่า นิ

... อ้อ ต้องบอกก่อนว่า การไปครั้งนี้ trip จะบินจาก กรุงเทพฯ ไป Frankfurt และ ต่อจาก Frankfurt ไปเวียนนา ... เราต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่เวียนนา

ไปถึง Frankfurt ก่อนลงจากเครื่องก็ชักเอะใจ ว่า ทำไมเขาไม่ยักแจกกระดาษ แบบที่ไปที่ไหน ก็ต้องระบุว่า นำสิ่งของอะไรมาบ้าง หรือเป็นโรคอะไรไหม ปานนี้ แต่ที่นี่ไม่แจก ... ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจจะออกเมืองที่นี่ เราตั้งใจไปออกเมืองที่เวียนนา ... แป่ว ว ว ... นี่ เป็นความเข้าใจผิด ครั้งที่ 1

เอาละ ถึง Frankfurt ก็ลงเครื่องเรียบร้อยดี ด้วยสัมภาระ เป้ 1 ใบ และกระเป๋าแบบเมืองไทย เพราะว่า หมออ้อยท้วงว่า พี่อย่าหิ้วกระเป๋า ที่มียี่ห้อเก๊ๆ ไปนะ เดี๋ยวไม่ผ่าน ตม. เพื่อความปลอดภัยไม่เอายี่ห้อไปเลยดีกว่า แบบว่า กลัว ... จะไปลำบากต่างแดน

ลงจากเครื่องบิน ก็เอาละสิ ดูตั๋วเครื่องบิน Frankfurt ไป เวียนนา ก็ไม่บอกด้วย ว่า Gate ไหนอ่ะ ... คุณสามีก็บอกไว้เหมือนกันให้ดูป้าย ป้ายก็บอกเหมือนกัน บอกว่า ไป Wien (ชื่อก็ไม่ใช่เวียนนาแล้ว แต่อาศัยไหวพริบ ว่าคงเป็นเวียน และเลขเครื่องอันเดียวกัน) แต่บอกแค่ Gate B B อะไรไม่บอก ... แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ หนอ ... ก็เดินตามเขาๆ ทั้งหลายไปก่อนละ เห็นป้าย tranfer center เอา ก็ไปทางนั้นก่อน อ้าว แล้วตรงนั้นมันมี ตม. ... ก็มาคิดดู แล้วเราจะต้องผ่าน ตม. ไหมเนี่ยะ ตอนนี้ เริ่มมองหาคนไทยแล้วละ อิอิ ไม่เจอ ???

ทำยังไงดี ก็หาถามใครดีหว่า ... เที่ยวบินต่อไป เราต้องไปเครื่องของ Lufthansa เอาละ เจอ Bar ของ Lufthansa ถามซะหน่อย ถามอะไรล่ะ เจ้าหลานน้อย (แอบถามหลานมาแล้วละ ว่า ถ้าเราอยากรู้เที่ยวบินนี้ จะถามเขาว่ายังไงดี หลานชายเป็นนักบิน เคยไปอังกฤษมาหลายปี) ก็ถามว่า เครื่องบินเที่ยวไปเวียนนา ไปที่ไหน ประมาณนี้ละ ... เธอก็ไม่ตอบ แต่บอกว่า ให้ไปถาม Information ข้างหน้าซ้ายมือ ... เออ ก็เธอไม่บอก ก็ต้องไปตามหา information ละ อ้าว นั่นมันใกล้ ตม. เขาเลย แต่ที่นี่เขาเรียกว่า Passport control ค่ะ

Information ก็บอกว่า ต้องไปผ่าน passport control ก่อน เราก็คิดว่า นะ ผ่านทำไม่ ก็เราไม่ได้ออก Frankfurt นี่ แต่เขาบอกก็ต้องไปตามเขาก่อนละ ... เอ้า เจอเจ้าหน้าที่กำลังไล่ให้คนเข้าแถวอยู่ เพราะว่า คิวหลายคิว ยาวและยุ่งมาก ถามเขาทำนองว่า เราจะไปเวียนนา ต้องมาผ่าน passport control ก่อนหรือ เขาก็บอกว่า เขาไม่รู้เรื่องนี้หรอก ให้เขาแถวไป ...

เอา เข้าแถว ก็เข้า กะว่าจะไปลองถามเจ้าหน้าที่ ตม. เลยละ ... พอถึงคิว ก็ถามเขา ว่า เราจะไปเวียนนา จะทราบเที่ยวบินได้อย่างไร (ก็เพราะว่า ตั๋วยังไม่กำหนดเที่ยวบินไง) เขาก็บอกว่า เที่ยวบินจะบอกก่อนเครื่องขึ้นประมาณ 1 ชม. ต้องรอดูป้าย และแถมด้วยซักเราใหญ่ ว่ามาทำอะไร จะอยู่กี่วัน ... แล้วก็ผ่านไป ... เออ แบบไม่รู้เรื่อง คิดแต่ว่า เราออกมาแล้ว แล้วเราจะไปขึ้นเครื่องไปเวียนได้ยังไงเนี่ยะ และเราต้องเข้ามาใหม่ไหม หนอ อ อ ...

ออกมาแล้ว ก็ทำยังไงดี หาป้ายต่อสิ หาให้ได้ว่า แล้วเครื่องที่จะไปเวียนนาน่ะ Gate B อะไร ... คราวดี มีป้ายบอกว่า เครื่อง LH3550 ไป wien gate B แต่ยังไม่บอกว่า B อะไรอีก ... ตานี้เราก็เดินหา B สิ โอโห B ของที่นี่อยู่ terminal 1 มีตั้ง 50 B ได้มั๊ง เอาโบชัวร์มาดู ก็มีตั้ง 3 ชั้น 1, 2 และ 3 เออ แล้วไปเวียนนา จะไปชั้นไหนล่ะ เดินไปเดินมา ก็ไปเจอ Passport control อีก ก็มองเห็นข้างในก็มี B เต็มไปหมด ข้างนอกก็มี ก็คิดเองว่า เออ เข้าข้างใน ก็คงคลุมข้างนอกด้วย (อิอิ แต่มิใช่เช่นนั้น ... กำลังจะหน้าแตกอีกแล้ว) ... ก็ เอาละ ลองดูว่าจะไป B ไหนดี ลองผ่าย passport control อีกรอบ ตานี้ เขาไม่ให้เข้าอ่ะ เขาบอกว่า ข้างในมีแต่เครื่องที่จะไปนอกเขตของยุโรป ในเครือยุโรปต้องด้านนอก ก็เลย ถึงบางอ้อ

... เราผ่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว ซึ่งที่นี่ เครือของยุโรป เขาให้ผ่านการควบคุมร่วมกันครั้งเดียวไปเลย ไม่ต้องผ่านหลายรอบ เป็นความสะดวกเสียอีกนิ ที่เราไม่รู้เรื่อง ... พอรู้เรื่องเหล่านี้แล้ว ก็ใจเย็นขึ้น ไปรอดูป้ายละ ว่า เมื่อไรจะบอกฉันสักที ว่า เครื่องไปเวียนนาน่ะ ประตูไหน เดินไปเดินมาซะจำสถานที่ได้แล้ว ก็พอจะเดาได้ว่า ต้องเป็นชั้น 2 แน่เลย เพราะเขามีป้าย wien flight ที่เราจะไป ที่อื่นไม่มี และก็จะมีป้ายรวม ดังนั้น เพื่อความแน่ใจ และมีสถานที่นั่ง ก็ไปรอที่ป้ายรวม รอไปเรื่อยๆ เป็นชั่วโมง ทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะว่าไม่มีอารมณ์ ... รอลูกเดียว (กลัว ต้องผจญภัยอยู่ที่เมือง Frankfurt ต่อ ถ้าหาทางไปไม่ได้ละ) จนนาทีทองมาถึง ประกาศเที่ยวบินไปเวียนนา พร้อมออกหมายเลย Gate ประตู ก็คือ B9 ละ ชั้น 2 ตามที่คาดเดาเลย และเขาก็ประกาศก่อนเวลาขึ้นเครื่อง 40 นาที

นี่ ป้ายประกาศรวม เมือง wien อยู่ด้านล่างๆ ข้างขวา มันก็จะเลื่อนไปเรื่อยๆ ตามรอบ

นี่ป้าย มี wien เหมือนกัน แต่จะอยู่ตรงบริเวณทางขึ้นไปชั้น 2

เป็นอันโล่งใจได้ ได้ไปเวียนนาเสียที ไปนั่งรอเลย ที่ Gate 9

ด่านต่อไป ก็ไปนัดเจอคุณสามีที่เวียนนา เขาบินมาจาก Copenhagen มาหลังเรา 2 ชม. นัดกันไว้ที่สายพานรับกระเป๋า ก็เอาอีกแล้ว ที่บริเวณนั้น มันไม่มีที่นั่งรอนิ จะนั่งพื้นรอ เขาก็ไม่ให้นั่ง ไล่เราออกมานอกบริเวณซะอีก ... แต่ก็ไม่ยากนัก เราก็ไปนั่งรอนอกบริเวณรับกระเป๋า ยังไงเขาก็ต้องเดินหาเราเอาหน่อย แล้วก็เจอกันเมื่อถึงเวลา

สรุปว่า งานนี้

  1. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน (ต้องเรียนรู้การสื่อสารให้มากขึ้น)
  2. ทางยุโรป เขาไม่ใช้ใบผ่าน ตม. แล้วนะ ... จากที่คุณสามีสรุป เขาบอกว่า ทางยุโรป เขาคงจะรู้ว่า ไม่มีประโยชน์ เพราะการกรอกใบเข้าเมือง เขาจะกรอกอย่างไรก็ได้ ก็ลดไปเสีย ประหยัดกระดาษ และ check ทางอื่นให้ละเอียดแทน ก็คือ การ X-ray นั่นเอง
    ... มาเห็นที่อื่นๆ ตาม เช่น ห้องน้ำที่โรงแรม เขาก็ไม่แจกแล้ว หมวกคลุมผม แต่จะทำที่อาบน้ำไม่ให้เปียกผมแทน (แล้วจะเล่าต่อไปนะจ๊ะ เรื่องนี้)
  3. การนัดพบกันในที่ที่ไม่เคยไปนี่ ลำบากเหมือนกันนะ ... ต้องอาศัยใจตรงกันมั๊ง
  4. อีกเรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ว่า ... ส่วนใหญ่คนทำงาน เขาทำตามหน้าที่ของเขา เขาก็จะรู้เรื่องของเขา แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องของคนอื่นๆ ส่วนอื่นๆ เลยนิ ... เรื่องนี้ที่โรงแรมก็เจอเหมือนกัน ที่ตอบได้แต่เรื่องของตัวเอง และไม่มีการส่งต่อ

เข้าเมืองเวียนนาด้วย "City Airport Train (CAT)" คนละ 9 euro ค่ะ เสียท่า คุณสามีซื้อตัวเรียบร้อย แต่หยิบตั๋วมาใบเดียว เลยต้องมาจ่ายเพิ่มอีกใบบนรถไฟ ... เราก็เลยจ่ายไปแล้ว 27 euro

เดี๋ยวทางเที่ยวจะตามมาค่ะ

ที่นี่ เขามีตู้ สำหรับคนช่างสูบบุหรี่ ให้เข้าไปสูบ อันควันกันในนั้นเลยนะ ... มีหลายตู้เหมือนกัน

 

คำสำคัญ (Tags): #เวียนนา#มีค.52
หมายเลขบันทึก: 248944เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2009 04:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ทำไมไม่ชวนเค้าไปด้วย

  • P
  • ไม่รู้นี่ ว่าอยากไป คราวหน้านะ
  • แต่คงอีกนานเลย เพราะว่า เข็ดความหนาว

กำลังจะไปเที่ยวเลยมาอ่านค่ะ แต่บินตรงคงไม่เจอเรื่องวุ่นๆ อย่างงี้ ^ ^

  • P
  • ใช่แล้ว ... เป็นประสบการณ์ ที่ไม่อยากไปเจออีกละค่ะ
  • เที่ยวให้สนุกนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท