เวลาหนึ่ง สถานที่แห่งหนึ่ง จะมีบุคคลหนึ่ง ที่เหมาะสมต่อการดูแล ซึ่งอาจไม่ใช่แพทย์ พยาบาล ก็ได้
อยากเล่าบทเรียน เรื่องการทำงานเป็นทีมที่ผมได้เจอ เมื่อก่อนผมก็มองว่าต้อง สหวิชาชีพ ครับ แต่พอทำงานไปนาน ๆ พบว่าการติดที่วิชาชีพ และพยายามที่จะทำให้เกิด ทีมสหวิชาชีพ แบบจัดตั้งเนี่ย กลับเป็นกรอบกำแพงอันแน่นหนา
ผมลองสัมภาษณ์ กลุ่ม สะเดาหวาน แกนนำที่เป็นผู้ติดเชื้อ มีประวัติการหล่อหลอมมานับ 10 ปี ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV สามารถกลับมายืน มีชีวิตอีกได้และเป็นแกนนำ สามารถช่วยเหลือเพื่อนได้ ทำให้ผมเข้าใจเลยว่าทีมเราคือใคร
ที่คลินิก HIV เราจัด พื้นที่เฉพาะครับ มีแพทย์ พยาบาล เภสัชกร เจ้าหน้าที่ lab นักโภชนากร มีหมอเด็กด้วย คุณหมอ ก็ใจดี เภสัชก็ใจดี
เราก็อาจจะมองว่ามันก็ สหวิชาชีพแล้วนี่ แต่การดูแล ชีวิตมันอาจไม่เพียงพอ แค่นี้
ผมลองสัมภาษณ์ แกนนำผู้ติดเชื้อ คนหนึ่งที่เปิดเผยตัวได้ อุทิศตัวเพื่อการช่วยเพื่อน รวมตัวกันชื่อ กลุ่มสะเดาหวาน แกบอกว่า ไม่ว่าหมอจะให้ความรู้อย่างไร ก็ไม่ฟัง เพราะหมอไม่ได้เป็นเหมือนเรา หมอจะเข้าใจเราได้อย่างไร สุดท้าย คนที่เข้าใจมากที่สุดก็คือ คนที่เป็นเหมือเรา รู้ทุกข์ รู้สุข เดียวกัน
อ้อ ( ชื่อสมมุติ ) ติดเชื้อ HIV มาจากกรุงเทพ พอกลับมาบ้าน พ่อก็บวชไปแล้ว แม่เสียชีวิตแล้ว กลับมาอยู่กับ ญาติ ๆ ก็สร้างกระต๊อบไว้ นอนคนเดียว เพราะญาติกลัวกันหมด จนป่วยมารักษาที่ โรงพยาบาล สุดท้าย เรา plan ว่าจะดูแลแบบ end of life พยาบาลให้สวดโพชฌงค์ แล้ว ญาติก็เตรียมเต้นท์ รอจัดงานแล้ว ร.พ.ก็ให้กลับไปสงบที่บ้าน แต่เรื่องไม่จบครับ มีสะเดาหวาน แกนนำที่เป็นผูติดเชื้อ 2 คน ตามไป ช่วยดูแล อาบน้ำให้ จัดยาให้ ให้กำลังใจ จนค่อย ๆ ดีขึ้น ญาติจากเดิม รังเกียจ เห็นคนอื่นมาดูแล แตะเนื้อต้องตัวได้ ก็ ค่อย ๆ เข้ามาช่วยดูแล จนเธอกลับมายืนได้ มีชีวิตใหม่ได้ ในที่สุดจากผู้รับ ก็กลับมาอุทิศตัวเป็นผู้ให้
เธอบอกอย่างหนักแน่น ว่า “ ที่กลับมามีชีวิตได้ เพราะพี่สะเดาหวาน เขามาดูแล เขาเอา ใจ นำ ไม่ได้เอาความรู้นำ “ คนเหล่านี้ไม่มีความรู้หรอกครับ แต่ มีใจ เผอิญการดูแลที่ใช้ใจนำ มันเหมาะมากกับการดูแลชีวิตคน ผมชอบเอาเรื่องนี้เล่าให้คนฟัง วันหนึ่ง ทีมนำคุณภาพ รพ. ฟังแล้วบอกว่า อย่างนี้ต้องทำมาตรฐาน สะเดาหวานนะ ว่าควรรู้อะไรบ้าง
ผมกระซิบกับคนข้าง ๆ ว่า ตูจะเล่า ให้เห็นความงามเสียหน่อย ดันวกกลับไปมาตรฐานเสียชิบ มันมองไม่เห็นความงามของจิตอาสาเล้ย
มีผู้ป่วยคนหนึ่งชื่อป้า นิ่ม ( เป็นนามสมมุติ ครับ ) แกติดเชื้อโดยบังเอิญ แล้วก็กลับจากกรุงเทพมาอยู่กับ พ่อ พ่อก็สร้างกระต๊อบไว้อยู่คนเดียว ห่าง ๆ ครับ
จนแกป่วยมาก มา ร.พ.วาริน ก็เช่นกันครับ plan end of life แล้ว แล้วก็กลับบ้านตามระเบียบรัตน์ เอ๊ย ระเบียบ เฉย ๆ เรื่องของโรงพยาบาลก็มักจะจบเท่านี้แหละครับ ทำตามมาตรฐานแล้วนี่ แต่อย่างที่ผมว่า ชีวิตมันยังไม่จบ อ้อ สะเดาหวาน คนก่อนที่ผมเล่าให้ฟัง จากผู้รับมาเป็นผู้ให้บ้างครับ กับเพื่อนสะเดาอีก 2-3 คน ขี่มอร์เตอร์ไซค์ ตามไปดูต่อที่บ้าน ผมชอบบอกว่า เวลาเด็กแท้งออกมา ก็รู้อยู่ว่าอาจจะตาย แต่เราเห็น ดิ้น กะเด้ว ๆ เราก็ยังช่วยเลย พวกนี้ก็คงรู้สึกอย่างนั้น และเคยเป็นมาก่อน
จนต่อมา ติ๊ก กับ หนิงพยาบาล เจ้าหน้าที่ของเรา พากันมาตามดูต่อ เจ้าหน้าที่ pcu ชื่อ ยุ ก็มาดูด้วย
หลังจากกลับจากโรงพยาบาล นอนรอวันสุดท้าย อยู่คนเดียว อย่างนี้ที่บ้านแหละครับ
ยุ เจ้าหน้าที่ pcu ดูจะซาบซึ้ง กับการช่วยแล้วเห็นแกดีขึ้น ยุช่วยสอนให้ หลาน ห่าง ๆ ของแก กล้าที่จะดูแลแก วันดีคืนดี พวกเราที่เอ่ยทั้งหมด ก็พาแกมาอาบน้ำ แต่งตัว พาแกหัดยืน เดิน พาแกกินยา ที่สำคัญ พาแกกลับมามีชีวิต อีกครั้ง โดยไม่เคยกลับมาโรงพยาบาลอีกเลย เพราะการเยียวยาทั้งหมดอยู่ที่บ้าน กระต๊อบของแก
ตอนขอรูปภาพจากหม่ำ เจ้าหน้าที่ องค์กรแชร์ ผมดูรูปที่พวกเราพากัน อาบน้ำ ตัดผมแกแล้วคุ้น คุ้น เหมือนจะเคยเห็นที่ไหน นึกขึ้นมาได้ว่า เหมือนรูปที่ สำนักพุทธ ฉือจี้ ที่ไต้หวัน เลยครับ คนพวกนี้ ทำงานด้วย Mission to be a humane doctor. เยียวยา ที่ใช้ใจนำ ไม่ใช้ความรู้นำ
ล่าสุด แกก็กลับมาแบบนี้ครับ ปลูกผักกินเอง ใช้ชีวิตต่อได้ ผมเห็นแกหัวเราะตลอดการคุยครับ
อย่าเข้าใจผิดว่า ผมเป็นหมอคนเก่งที่ทำให้ป้านิ่มกลับมามีชีวิตใหม่ได้นะครับ ที่เล่ามาทั้งหมด ไม่มี ผมหรือหมอ คนอื่นมาเกี่ยวข้องรักษาอีก เลย หลังจากแกกลับไปนอนรอตายที่บ้านแล้ว
ที่เล่าได้เป็น วรรคเป็นเวร นี่ เป็นเรื่องที่ผม นั่งฟัง สะเดาหวานเล่าให้ฟังครับ ผมก็พยายามฟังแบบลึก ได้แต่ อื้อ อ้อ อือหื้อ อึม แล้วก็ขอรูปมาเล่าให้ฟังนี่แหละครับ
ผมเลย พบว่า ณ. เวลาหนึ่ง สถานที่แห่งหนึ่ง จะมีบุคคลหนึ่ง ที่เหมาะสมต่อการดูแล ซึ่งอาจไม่ใช่แพทย์ พยาบาล ก็ได้
ทีมของเรา ก็คือ ทุกคนที่เหมาะสม เพียงแต่เรา จะให้โอกาสเหล่านี้เกิดขึ้นหรือไม่ การเยี่ยมบ้านผู้ติดเชื้อ และการให้คำแนะนำ เราพบว่าบุคลากรที่ดีที่สุด ก็ สะเดาหวานนี่แหละครับ จนวันนี้ สะเดาหวานเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานการบริการที่เราต้องมีครับ
ภาพที่สะเดาหวานนั่งคุยกับเพื่อน เราไม่ค่อยได้เคยเห็น หมอไปนั่งคุยกับคนไข้ อย่างนี้หรอกครับ