๓๙. แม้สุข..ทุกข์..ก็ไม่หวั่น


ลักษณะของมีกายและจิตอบรมดีแล้ว

         

              คนเราประกอบด้วยกายและจิตใจ  สองส่วนนี้จะต้องมีความสัมพันธ์กัน และเกิดความสมดุล  ความสุขจึงจะเกิด หากเราพัฒนาแต่ทางร่างกายด้วยการบำรุงอาหาร กินดี อยู่ดี มีบ้าน มีรถ และมีเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ  ก็เพียงทำให้ร่างกายได้รับความสะดวกเท่านั้น

               ส่วนจิตใจก็ต้องการอาหารเช่นกัน หากไม่ได้รับการบำรุง พัฒนา ยังมีความโลภ โกรธ หลง ไม่รู้จักพออยู่ แม้มีทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ก็ไม่อาจทำให้เรามีความสุขได้  เราจำเป็นจะต้องมีการอบรมทั้งกายและจิตไปพร้อมกันด้วย

 

                มีปัญหาว่า บุคคลที่ได้รับการอบรมทางกายและจิต กับ บุคคลที่ไม่ได้รับการอบรม  จะมีความแตกต่างกันอย่างไร ?

 

                 ในเรื่องดังกล่าว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เคยตรัสไว้เกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการอบรมกายและจิต ไว้มีใจความโดยสรุปว่า

                 ... ปุถุชนในโลกนี้ เมื่อได้รับความสุขแล้ว ก็มีความยินดี หลงระเริงในสุข และติดอยู่ในสุข ทำให้ความสุขเข้าครอบงำจิตใจ  แต่ต่อมาเมื่อความสุขดับหายไป ยามเกิดความทุกข์ขึ้นมาแล้ว ก็เศร้าโศกเสียใจร้องไห้ รำพัน ลำบากใจ ตีอกชกตัว เสียอกเสียใจ และ คร่ำครวญ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะปุถุชนเหล่านี้มิได้อบรมกายและจิตใจมาก่อน

 

                  ส่วนปุถุชนคนใด เมื่อมีความสุขมากระทบแล้ว  ก็ไม่ยินดีหลงใหลในสุข ไม่ให้ความสุขนั้นครอบงำจิตใจ ไม่ติดในความสุขนั้น  แม้ต่อมาเมื่อความสุขดับหายไป ยามเกิดความทุกข์มากระทบก็ไม่ยินดียินร้าย ไม่ตีโพยตีพาย ไม่ร้องไห้รำพัน ตีอกชกตัว และไม่ให้ความทุกข์นั้นมาครอบงำจิตใจได้  ทั้งนี้เพราะปุถุชนเหล่านี้ได้อบรมกายและจิตดีแล้ว...(มหาสัจจกสูตร มัชฌิมนิกาย)

 

 ... ผู้ที่ได้รับการอบรมกายและจิต มาดีแล้ว ย่อมไม่หลงติด ไม่แสดงอาการขึ้น ๆ ลง ๆ  และไม่หวั่นไหว ยามมีความสุข และความทุกข์มากระทบตน ด้วยประการฉะนี้...

คำสำคัญ (Tags): #สุขและทุกข์
หมายเลขบันทึก: 248439เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2009 17:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ผู้ที่ได้รับการอบรมกายและจิต มาดีแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว ไม่แสดงอาการขึ้น ๆ ลง ๆ  และไม่หวั้นไหว ยามมีความสุข และความทุกข์มากระทบตน ด้วยประการฉะนี้

คงอีกนานกว่าจะทำได้..ยากน่าดูนะคะ

  • สวัสดีครับครูแอด
  • เราทุกคนก็ต้องฝึกกันต่อไป
  • ขอบคุณ

พยายามนะคะ..อยากจะพยายามฝึกตนเองให้ได้แม้จะไม่ได้เต็มร้อยก็ขอให้มีบ้างขอบคุณค่ะ

เจริญพร โยมศรีกมล

จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำสุขมาให้

สุขและทุกข์ของคนเรา เกิดจากตัวเราเองทั้งสิ้น

จิตปรุงแต่งขึ้นมาเอง

เจริญพร

สวัสดีครับท่าน .....ช่วยเตือนสติได้มากเลยครับ  ฝากชุดนี้ให้ที่บ้านด้วยครับผม

สวัสดีค่ะ

  • ฝึกความอดทนต่อภาวะความกระทบทั้งภายในและภายนอก
  • ทำให้มีความเข้มแข็งและไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดค่ะ
  • เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา

มาชม

ทุกสิ่งอิงอาศัยกันและกันนะครับ

  • นมัสการพระคุณเจ้า
  • สาธุ
  • สวัสดีคุณหนุ่มกร
  • สักวันคงต้องซื้อให้เช่นกัน เจ้านายที่บ้านชอบด้วย
  • ขอบคุณ
  • สวัสดีครูคิม
  • เห็นครูคิมแล้ว เป็นคนนิ่งดีเช่นกัน
  • ขอบคุณ
  • สวัสดีท่าน UMI
  • ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม

อื้มค่ะ

ฝึกจิต

มีสุข

ขอบคุณที่ไปเม้นให้นะคะ

  • ขอบคุณสำหรับธรรมะดีๆค่ะ
  • มีความสุขมากๆนะคะ

 

สวัสดีคะเข้าอ่านธรรมด้วยความปิติคะ

ปกติก็ไม่เป็นคนประเภทนี้อยู่แล้วคะ

 ... ปุถุชนในโลกนี้ เมื่อได้รับความสุขแล้ว ก็มีความยินดี หลงระเริงในสุข และติดอยู่ในสุข ทำให้ความสุขเข้าครอบงำจิตใจ  แต่ต่อมาเมื่อความสุขดับหายไป ยามเกิดความทุกข์ขึ้นมาแล้ว ก็เศร้าโศกเสียใจร้องไห้ รำพัน ลำบากใจ ตีอกชกตัว เสียอกเสียใจ และ คร่ำครวญ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะปุถุชนเหล่านี้มิได้อบรมกายและจิตใจมาก่อน

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท