วันๆหนึ่งเรามักคิดว่าจะได้อะไร..มากกว่าจะคิดว่าเสียอะไร....ความจริงแล้วร่างกายเราถูกเผาพลาญไปทุกขณะจิตทั้ง
เซลผิวหนัง...เม็ดเลือด....นำเหงื่อที่ถูกขับออกมาจากการสันดาบภายใน...ภาษาอะไรกับความคิดโลภ..โกธร...หลง....ที่มาสัมผัสทั้งหมดเราเป็นปุถุชน..เช้าขึ้นมาก็คิด 100 แปด ว่าจะได้อะไรจากการทำงาน คิดว่าจะค้มค่ากับเวลาใหม...เคยใหมที่คิดจะให้จะแจกจะแถมกับใครๆ การให้เป็นสิ่งประเสริฐ...พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้กว่า 2000 ปี ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้...ความสุขที่ได้ให้..ควาสมสุขที่ได้รับ...เป็นปิติที่สุดยอดของปรัชญา...แต่เรามักถูกครอบงำด้วยความโลภ..(อยากจะมีอยากจะได้) โกธร (หากไม่ได้อย่างใจตั้งไว้) หลง (มัวเมากับสิ่งที่มาสัมผัสแล้วถูกตาต้องใจให้มีความสุขจากการปรุงแต่ง ตามรสนิยม)...คิดทบทวนให้ดีเรานั้นเกิดมาอีกไม่นานก็จะจากโลกนี้ไปแล้ว..ผลิตผลของเราที่ทำไว้ทั้งดีและไม่ดี..ไม่หายไปไหนย่อมกลับคืนมาไม่นาน..สรรเสริญ...เยินยอ..หรือติเตียน..ย่อมหนีไม่พ้น..โลกธรรม 8...การทบทวนตรึกตรองด้วยความรอบคอบพิจารณาอย่างอดทน..จะได้คำตอบในตัวเราเอง..ว่าสิ่งไหนผิดไม่ควรทำอีก..หรือสิ่งใดดี..อยากจะทำอีกหลายๆครั้ง..อายุเป็นเพียงตัวเลข...พฤติกรรม...หรือการกระทำ...(กรรม) ต่างหากคือเครื่องชี้เจตนา...การพลัดพรากหรือการสูญเสียของรัก..ที่เป็นวัตถุ...สูญเสียผู้เป็นที่รักก็เกิดอาการนิวรณ์...ห่วงหาอาลัย....สูญเสียเงินตราก็ย่อมทุกข์ที่จะเสียดาย..ทุกข์ที่จะต้องไปหามาเพิ่มมากมายร้อยแปด...ความคิดที่มีหลายมิติ..เป็นคลื่นอีเลคตรอนที่วิ่งหมุนเวียนตลอดเวลา..ต้องควบคุมให้ได้..นั้นเราเรียกว่าชนะใจตนเอง..ควบคุมจิตมิให้ฟุ้งซ่าน0..ปล่อยวางมิใช่ปล่อยตาม...ยถากรรม.
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
สวัสดีครับ ท่านผอ.
เห็นด้วยกับสัจธรรมของชีวิต...แต่ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลนิดหน่อยนะครับ
" ภาษากวีเป็นภาษาที่ไพเราะน่าฟัง แต่เข้าใจย้าก ๆๆๆ
เพราะกวีคือพระเจ้าแห่งสิ่งที่แลไม่เห็น" จริงไหมครับท่าน
นพรัตน์สิงขร
สองคนยลตามช่อง...มองต่างมุมได้ครับรับได้..ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ..ต่างจิตต่างใจ...เข้าใจครับ..อาจไม่สบอารมณ์..หรือไม่เข้าใจ..แรงบันดาลใจที่เกิดจากความจริงแท้...ในตนเอง
สวัสดีค่ะท่าน ผอ.
รักษาสุขภาพนะคะ
แวะมาทักทาย ท่าน ผอ.ค่ะ
ขอภาระงานสำเร็จลุล่วง
เพราะยังไง...ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ขอมีกำลังใจดีๆ..ยิ้มสู้นะคะ
พักเหนื่อย พักสมอง เพื่อต่อเติมพลังบ้าง นะคะ
ขอบคุณค่ะ