ฝ่าหมอกควันไปเชียงดาว
วันหยุดที่ผ่านมา มีเหตุธุระที่ต้องไป อ. เชียงดาว จ. เชียงใหม่ บรรยากาศตอนนี้ต่างกับเมื่อตอนปีใหม่ เหมือนฟ้ากับดิน เส้นทางโล่งจนรู้สึกเงียบและเหงา เมื่อเทียบกับปีใหม่ แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือ ภาพของไฟป่าที่มองเห็นอยู่บนเขาเป็นจุดๆทั่วไป อันเป็นสาเหตุของควัน(ไม่ใช่หมอก) ทำเอารู้สึกไม่สบายปอดเอาเสียเลย แวะเมืองเชียงใหม่ 1คืน และตอนกลางคืนก็ไปหาขนมกิน แล้วเลยไป ไนซ์บาร์ซา อืม! มีคนเคยบอกว่าเชียงใหม่ใกล้จะเหมือนพัทยาแล้ว เพิ่งจะรู้สึกวันนี้เองเมื่อขณะที่เดิน เหมือนเป็นคนแปลกหน้าในหมู่คนขายของกับฝรั่ง เหมือนเป็นเมืองของฝรั่งมากกว่าเมืองของคนไทย เลยรีบกลับมานอน
เช้ารีบตรงไปเชียงดาวเลย ความจริงตอนปีใหม่ได้มาครั้งหนึ่งแล้วแต่ไม่ได้อยู่นาน เพียงผ่านๆ ครั้งนี้อยู่ที่เชียงดาว 1วันครึ่ง จนท.ที่ รร. เชียงดาวอินน์ที่ไปพักบอกว่ามาเชียงดาวไปเที่ยวถ้ำเชียงดาวก่อนเลย เพราะห่างจาก รร. ไม่มาก และถ้าจะขึ้นดอยหลวงก็ไม่ดีแน่เพราะมีไฟป่า ก็เลยไปถ้ำ ทั้งที่ไม่ค่อยชอบเที่ยวถ้ำ เท่าไหร่ ...แต่พอไปถึง สิ่งแรกที่รู้สึกคือ อึ้งๆ เพราะแท้จริง ถ้ำเชียงดาว เป็นถ้ำที่อยู่ใต้ภูเขาในดวงใจ คือดอยหลวงเชียงดาวนั่นเอง เมื่อเข้าตัว อ. เชียงดาวจะได้เห็นทิวเขาสูงใหญ่ทมึน นั่นคือดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งบัดนี้ได้ยืนตระหงานอยู่เบื้องหน้า ...โปรยกลิ่นอายความชื้นมาบางๆ แม้ในยามร้อนรนและมีควันไฟไปทั่ว...ถ้ำเชียงดาว ทำให้ความรู้สึกแอนตี้ การจัดการถ้ำเปลี่ยนไป เคยไปถ้ำที่อื่นๆแล้ว ไม่ประทับใจเพราะถูกตบแต่ง จัดวาง จนไม่เป็นธรรมชาติ ....หลังจากเสียค่าเข้า 20 บาทแล้ว ก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาให้ข้อมูลว่า การเข้าถ้ำต้องมีผู้นำทาง เพราะถ้ำมืดมาก เรานึกในใจว่า อีกแล้ว ไม่ต้องหรอก เราไปเดินดูเองได้ พี่ผู้หญิงบอกซ้ำว่าถ้าไม่มีผู้นำทางเขาจะไม่ให้เข้า เพราะอันตราย เขาเตรียม ผู้นำทางและตะเกียงเจ้าพายุไว้ให้ เสียค่าบำรุงจัดหาตะเกียง ให้กับกลุ่มชาวบ้าน 100 บาทนะ ...ไหนๆก็ไหนๆแล้วก็จ่ายไป และได้ผู้นำทางมา 1 คนคุยกันได้ความว่าเป็นชาวบ้านใกล้ดอยมารับงานพิเศษ ได้รายได้เป็น ทิป ที่นักท่องเที่ยวให้แล้วแต่ว่าจะได้เท่าไร แล้วก็พาเราเข้าถ้ำ ...ภายในถ้ำมืดมาก และเป็นถ้ำที่ยังมีชีวิต และเป็นธรรมชาตอยู่สูงมากพอสมควร เป็นถ้ำที่ใหญ่มากจริงๆสมคำร่ำลือ ... ใช้เวลาไปประมาณ 20 นาที ....เชียงดาวเป็นอีก อ. ที่มีเสน่มากๆ ของเชียงใหม่ เงียบ สงบ และเต็มไปด้วยมนต์ขลังของดอยหลวงเชียงดาว...ครั้งหน้าคิดว่าจะเข้าไปแอบชิดดอยหลวงเชียงดาวให้มากกว่านี้ โดยการเดินขึ้นดอย ...แล้วพบกันหนาวหน้า
คุณพี่ผู้นำทางเราเข้าถ้ำเชียงดาว กับเหล่า ตะเกียงเจ้าพายุ
บริเวณถ้ำมีต้นไม้ใหญ่หลายต้น พวกเฟิร์นยังหลงเหลืออยู่บ้างแต่ที่ทำให้ แฮปปี้มากคือพอแหงนขึ้นไปบนต้นไม้ก้เจอกับ เอื้องสาย ที่ออกดอกสพรั่งบนคบไม้ มีเอื้องคำประปราย สวยมากจริง ที่เชียงดาวช่วงนี้พบเห็นเอื้องสายและเอื้องคำได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะในป่า หรือบนต้นไม้ตามบ้าน แต่การที่ได้เห็นเขาบานในธรรมชาติเป็นความรู้สึกมีความสุขมากกว่า เสียดายที่เย็นมาก และมีหมอกควัน ปรับแสงไม่เก่ง มือก็ไม่นิ่ง ภาพจึงไม่คมชัดเท่าที่ควร
เอื้องคำบนคาคบทำให้ตื่นเต้น สวยน่ารักมาก มากกว่าเห็นที่บ้านหลายๆๆเท่าเลยที่เดียว
ความเห็น (4)
ภายในถ้ำมืดมาก และเป็นถ้ำที่ยังมีชีวิต และเป็นธรรมชาติอยู่สูงมากพอสมควร เป็นน้ำที่ใหญ่มากจริงๆสมคำรำลือ ...
ขอบคุณครับ ทำให้รู้จักถ้ำเชียงดาวครับ
ตามมาเที่ยวค่ะ.... พูดถึงกลุ่มควัน แล้วทำให้นึกถึง การเผาหญ้าข้างทางของชาวบ้าน รวมทั้งเผาซังข้าวในนาด้วย เวลาควันพิษมา ต้องรีบปิดหน้าต่างทั้งบ้านเลยค่ะ แล้วมาระบายอากาศทีหลัง.....
คุณ nulek สบายดีนะคะ
- หวัดดีจ่ะหนูเล็ก
- ปีนดอยหลวงเมื่อไร ชวนด้่วยนะ
- แทงคิ้ว :-))))
หวัดดดีค่ะ ..สบายดีตามสมควรค่ะ พยายามทำใจให้เตรียมรับลมร้อนไว้
เรื่องควันนี่คงท้าทายระบบและ มนุษยชาติไปอีกนานพอดูว่า จะจัดการอย่างไร
ต้นทุนการทำลายซังข้าว ด้วยไม้ขีดก้านเดียว กับรถไถกลบ มันต่างกันมาก
รู้ว่าโลกร้อน แต่รีสอร์ท บ้านจัดสรร ที่รุกล้ำธรรมชาติ และสร้างของเสียก็ผุดเป็นดอกเห็ด..
เราสร้างของเสียทุกวัน แต่ไม่ได้ปลูกต้นไม้ทุกวัน
มีคนเฝ้ามองไฟป่า แต่มีคนที่มีหน้าที่ขึ้นไปดับไฟป่าไม่กี่คน ดับกันไม่ทัน
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ...