๖๗.บัวบก แก้ปวดหัวจากความดันโลหิต


อาการปวดหัวที่เกิดจากความดันโลหิตสูงมีคนเป็นกันเยอะ เป็นแล้วจะปวดทรมานมาก ปวดจนหูตาลายไปหมด ทำงานทำการอะไรไม่ได้เลย ต้องกินยาระงับปวดที่แพทย์ผู้รักษาจ่ายให้อาการจึงจะทุเลาลงและหายได้

          พักนี้แป๋มมักพบว่าคนรอบข้างจะมีอาการปวดหัวกันมากซึงสาเหตุก็มีแตกต่างกันไปค่ะ  ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง  พี่ๆเพื่อนครูส่วนใหญ่มักเป็นโรคโลหิตสูงอยู่แล้ว  และอาการปวดหัวที่เกิดจากความดันโลหิตสูงมีคนเป็นกันเยอะ เป็นแล้วจะปวดทรมานมาก ปวดจนหูตาลายไปหมด ทำงานทำการอะไรไม่ได้เลย ต้องกินยาระงับปวดที่แพทย์ผู้รักษาจ่ายให้อาการจึงจะทุเลาลงและหายได้
          คุยกับคุณยายได้ความว่าในอดีตหรือสมัยโบราณหยูกยาหายาก โดยเฉพาะ ตามชนบทที่อยู่ห่างไกลตัวเมือง ผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวจะเดินทางไปพบหมอตามสุขศาลา หรือแพทย์โรงพยาบาลในเมืองลำบากมาก ต้องใช้เวลานานครึ่งค่อนวันไม่ทันการณ์กับโรคที่เป็นอยู่ ดังนั้น สมุนไพรจึงเป็นทางเลือกที่ชาวบ้านในยุคนั้นนิยมใช้แพร่หลาย โดยให้หมอยาพื้นบ้านเจียดยาไปกินหรือใช้ทำให้หายได้ ซึ่งสมุนไพรที่ใช้รักษาอาการปวดหัวเนื่องมาจากสาเหตุของความดันโลหิตสูงมีหลายสูตร แต่ที่นิยมใช้กันมากเพราะได้ผลดี มีส่วนประกอบในการทำยาหาได้ง่าย ได้แก่ สูตร "บัวบก" นั่นเอง

          คุณยายท่านได้เล่าถึงวิธีการทำ คือ ให้เอา "บัวบก" ทั้งต้นรวมรากแบบสดๆ จำนวน 100 กรัม ล้างน้ำให้สะอาด ตำละเอียดคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาวครึ่งลูก เติมน้ำตาลพอให้ได้รสหวานดื่มรวดเดียวจนหมด ในขณะที่มีอาการปวดหัวที่เกิดจากสาเหตุความดันโลหิตสูง จะช่วยให้อาการดีขึ้นและหายได้ ซึ่งสูตรดังกล่าวใช้กับอาการปวดหัวจากสาเหตุอื่นไม่ได้

          บัวบก หรือ ASIATIC PENNYWORTTIGER HERBAL CENTELLE ASIATICA (LINN) URBAN อยู่ในวงศ์ UMBELLIFERAE เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีสรรพคุณเฉพาะคือ น้ำต้มใบสดดื่มรักษาโรคปากเปื่อย ปากเหม็น เจ็บคอ ร้อนใน กระหายน้ำ ลดไข้ ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย ใช้เป็นยาภายนอกรักษาแผลเปื่อย แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โดยใช้ ใบสด 1 กำมือ ล้างน้ำให้ สะอาดตำละเอียดคั้นเอาน้ำทาบริเวณแผลบ่อยๆ ใช้กากพอกด้วยก็ได้ แผลจะสนิทและเกิดแผลเป็นชนิดนูนน้อยลง  สารที่ออกฤทธิ์คือ กรด MADECASSIC กรด ASIATICOSIDE ซึ่งช่วยสมานแผลและเร่งการสร้างเนื้อเยื่อ ระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองและลดการอักเสบ ซึ่งมีรายงานการค้นพบฤทธิ์ฆ่าเชื้อราอันเป็นสาเหตุของโรคกลาก ปัจจุบันมีการพัฒนายาเตรียมชนิดครีม ใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้ดีด้วย นอกจากชื่อ "บัวบก" แล้ว ยังมีชื่อเรียกอีกคือ ผักแว่น และ ผักหนอก (อีสาน)

          ประโยชน์ทางอาหาร ใบและเถากินเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย แกงเผ็ด ลาบ ก้อย ซุบหน่อไม้ น้ำคั้นจากใบสดทำเป็นเครื่องดื่ม ที่รู้จักกันดีและนิยมดื่มกันแพร่หลาย ได้แก่ "น้ำใบบัวบก" เชื่อกันว่าดื่มแล้วแก้ช้ำในดีนัก

ส่วนใหญ่ผู้ขายชอบทำขายในช่วงฤดูร้อน ตักใส่แก้วขายดื่มแก้กระหายทำให้จิตใจชุ่มชื่นดีมากค่ะ.

ขอบคุณข้อมูลจาก  นายเกษตร 

คำสำคัญ (Tags): #บัวบก
หมายเลขบันทึก: 245414เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2009 01:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 01:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ขอบคุณครับ...แต่ก่อนนึกว่าใช้แก้ช้ำในอย่างเดียว...

สมัยเด็กๆ พอพันคำเดินมาที่ปากซอยถนนพันคำ จะพบร้านของอาซิ้มคนหนึ่ง ทำน้ำใบบัวบกใส่โหลแก้วใบใหญ่ๆขายตอนบ่ายๆ พันคำมักไปซื้อมาดื่มอร่อยดี สมัยเด็กๆจึงไม่ค่อยช้ำ

นอกจากนั้นใบสดยังใช้เป็นผักที่ทานกับน้ำพริกปลาทูได้ด้วยนะคะ  แป๋มทานบ่อยๆค่ะ

โถ...มิน่าละคะ  คุณพันคำมารวบยอดความช้ำในวัยหนุ่ม (น้อย) นี่เอง..อิอิ...หยอกนิดนะคะ

เรื่องราวในทางภูมิปัญญา เป็นเรื่องทรงคุณค่ามาก  ตอนนี้ผมกำลังเขียนหนังสือเรื่อง "ความทรงจำไม่รู้จบ" ...เรื่องทั้งหมดเป็นการเขียนถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเห็นมาในท้องทุ่งและบ้านเกิด

...

แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจต่อชีวิตและการงานนะครับ

ตอนนี้ผมกำลังพักฟื้นความคิดครับ...

เดียวคงได้คุยกันมากขึ้น

รักษาสุขภาพ, และรักษาความฝัน ดุแลความฝันให้ดีๆ นะครับ

ผมเป็นกำลังใจให้

 

ชื่อหนังสือ "ความทรงจำไม่รู้จบ" เรื่องราวเกี่ยวกับอดีตที่ท้องทุ่งและบ้านเกิดของคุณแผ่นดิน....แป๋มนึกภาพ.ตามถ้อยคำเหล่านี้  ก็ได้รับกลิ่นอายแห่งท้องทุ่ง  ที่แป๋มประทับใจในบรรยากาศมาตลอด......

คุณคือยอดปราชญ์  และนักคิดที่ถือสันโดษ  สมถะและถ่อมตัว  น่ายินดีแทนบุคคลรอบข้างที่ได้สัมผัส "ตัวตน" และซึมซับ "คุณค่า" จากบุคคลที่ทรงคุณค่าของประเทศชาติ....

ขอบคุณทุกถ้อยคำที่ฝากมาให้.....ขอบคุณค่ะ

ในฐานะเป็นเภสัชกรจะมีมุมมองที่หาเหตุผล
คือหาเหตุผลมาสนับสนุนการนำเสนอของคุณครูแป๋มครับ
เพราะปกติแล้วเรารู้จักใบบัวบกมาช้านานแล้ว
แต่รู้กันทั่วไปในสรรพคุณทางยาของน้ำใบบัวบกดื่มลดไข้ รักษาโรคปากเปื่อย ปากเหม็น เจ็บคอ ร้อนใน กระหายน้ำ ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย

คนโบราณรู้ในสรรพคุณทางยา ซึ่งจะใช้ใบสดตำละเอียดแล้วนำไปพอกบริเวณที่เป็นแผลเปือยในช่องปาก แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ช่วยในการสมานแผลสามารถทำให้แผลที่เกิดลายนูนลดน้อยลง ยังแก้อาการอักเสบบวมฟกช้ำดำเขียว ซึ่งสรรพคุณแก้ฟกช้ำดำเขียวนี้พูดกันต่อๆมาเพี้ยนกลายเป็นคำแก้ช้ำในไป

จากการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์พบว่ามี สารออกฤทธิ์ คือ กรด Madecassic ยังมีกรด Aslatic และ Aslaticoslde ซึ่งสามารถ เร่งเนื้อเยื่อ และ ระงับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการ เกิดหนอง และ ลดการอักเสบ รวมทั้งยังมีฤทธิ์ ฆ่าเชื้อรา ได้อีกด้วย

รศ.ภก.ดร.เอกรินทร์ สายฟ้า ผู้อำนวยการแผนงานวิจัยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ รศ.ภญ.ดร.มยุรี ตันติสิระ และคณาจารย์อีก 17 ท่าน จึงร่วมกันจัดทำ “โครงการศึกษาฤทธิ์และความเป็นพิษของสารสกัดมาตรฐานบัวบก” เพื่อวิจัยข้อมูลต่างๆของบัวบกหาปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณสารสำคัญ

รศ.ภญ.ดร.มยุรี ตันติสิระ เผยว่า หลังจากนั้นนำวัตถุดิบบัวบกที่ได้มาคัดคุณภาพเข้าสู่กรรมวิธีการสกัดสารสำคัญ ตั้งแต่ เลือกสายพันธุ์บัวบก แหล่งที่ปลูก และนำผลผลิตตั้งแต่ รากไปถึงก้านใบที่ออกตามฤดูกาล ทดลองตรวจหาสารออกฤทธิ์รวมไปถึงการตรวจสภาพปริมาณแสง สภาพดิน และปริมาณน้ำอีกด้วย


เมื่อทราบผลแล้วก็นำไปทดสอบกับสัตว์ ทดลอง โดยใช้หนูที่ถูกทำให้เป็นแผล ปรากฏว่าสารดังกล่าวมี ฤทธิ์เร่งการสมานแผล ทั้งในบาดแผลกรีดด้วยของมีคมและแผลไฟไหม้ เมื่อนำไปทดลองแก้ไขสภาวะการบกพร่องของ การเรียนรู้ และ ทางความจำ อย่างชัดเจนในสัตว์ทดลอง ในปริมาณรวมกันไม่ต่ำกว่า 80% จากการทดสอบด้วยการป้อนสารสกัดในขนาดสูงติดต่อกัน 90 วัน ปรากฏว่าไม่มีหนูทดลองตาย อีกทั้งยังมีการเจริญเติบโตเป็นไปตามปกติ และเมื่อผ่าตัดดูเนื้อเยื่อก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่ามีความปลอดภัยในระดับสูง

แต่หลักฐานการหาสารที่เกี่ยวข้องกับสรรพคุณลดความดันโลหิตนี้ยังไม่มีใครวิจัย
ครั้นเมื่อไปดูสรรพคุณทางยาของใบบัวบกจะพบข้อหนึ่งที่ว่า เป็นยาขับปัสสาวะ ฤทธิ์ในการขับปัสสาวะนี้เองคือตัวที่ทำให้ความดันโลหิตลดลง ปัจจุบันมีตัวยาที่เป็นยาขับปัสสาวะที่วงการแพทย์นำมาใช้เป็นยาลดความดันโลหิตหลายตัว ทุกวันนี้ผมก็ยังให้ยาขับปัสสาวะกับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงอยู่ และใช้ได้ผลดีด้วย

เหตุผลนี้จึงนำมาสนับสนุนฤทธิ์ในการรักษาอาการความดันโลหิตสูง

ปัจจุบันเราจะหาใบบัวบกได้ยาก
วิทยาการทางการแพทย์ก็ก้าวหน้า
เราแสวงหาวิธีการที่ดีที่สุดสะดวกที่สุด
คือการใช้ยาแผนปัจจุบันซึ่งสามาระปรับขนาดให้เหมาะสมกับผู้ป่วยได้

********************************

น้ำใบบัวบก

 

  

ส่วนผสม

- ใบบัวบก 10 กรัม (หั่น 5 ช้อนคาว )
- น้ำเชื่อม 15 กรัม ( 2 ช้อนคาว )
- น้ำเปล่าต้มสุก 240 กรัม ( 16 ช้อน )

วิธีทำ

นำใบบัวบกล้างให้สะอาด นำไปใส่เครื่องปั่น ใส่น้ำครึ่งส่วน ปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ ใส่น้ำที่เหลือ คั้นน้ำให้แห้ง นำน้ำที่ใด้ใส่น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ

      คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตาและมีสารแคลเซี่ยม
มากเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีวิตามินบี 1 สูงกว่าผักหลายๆชนิด
     คุณค่าทางยา แก้ช้ำใน ทำให้หายฟกช้ำใด้ดี แก้ร้อนในกระหายน้ำ ลดอาการปวดศรีษะข้างเดียว บำรุงสมองบำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย เมื่อล้าได้ดี แก้ความดันโลหิตสูง ถ้าดื่มทุกวันเพียง 1 สัปดาห์ ความดันโลหิตที่สูงจะลดลง นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ทำลายเซลมะเร็ง ลดการอักเสบและรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำใส้ ช่วยการใหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว ช่วยขับปัสสาวะ

เจริญพร โยมครูแป๋ม

อาตมาเห็นว่ายุคนี้คนส่วนใหญ่เป็นโรคเกี่ยวกับ

ระบบการไหลเวียนของเลือดกันมากขึ้นทุกปี

แต่อาตมาเชื่อในเรื่องธรรมชาติบำบัด

ซึ่งอาตมาปฏิบัติมาเป็นเวลานานและได้ผลจริงๆ

เจริญพร

ขอขอบคุณท่านสุวัฒน์นะคะ 

          อุตส่าห์นำข้อมูลมาเพื่มเติมและยังอธิบายความสัมพันธ์ของข้อมูล  ได้อย่างดีเยี่ยม...
          ส่วนสูตรน้ำบัวบกนั้น  วิธีการก็ไม่ยุ่งยากอะไร  หวังว่าคงชื่นใจกับน้ำบัวบกเย็น  ที่มีแต่ประโยชน์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กันนะคะ

มีสาระดีได้ความรู้ อ่านแล้วชอบมากคะ อยากทำน้ำใบบัวบกทานเองคะ

เพิ่งทราบคะว่าใบบัวบกมีประโยชน์มากมาย ขอบคุณมากคะที่นำความรู้มาเผยแพร่

ขอบคุณ คุณครูอุษาและคุณครูเมธินี ที่เห็นประโยชน์ของบัวบกค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท