ไปเป็นกรรมการกำกับห้องสอบ


ประสบการณ์ในการกำกับห้องสอบ

วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ 05.00น. เพื่อจะรีบตื่น อาบน้ำแต่งตัว ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการกำกับห้องสอบ  ในการสอบคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สำนักงาน กศน.

สาเหตุที่ต้องตื่นเช้าขนาดนั้น เพราะจะต้องเดินทางไปถึงสนามสอบ คือ ร.ร.มัธยมวัดมกุฏฯ ให้ทัน 07.00น. เพื่อเข้ารับการประชุมชี้แจงก่อนการปฏิบัติหน้าที่ ออกจากที่้พัก 05.50น. ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที ถึง ร.ร.มัธยมวัดมกุฏ เวลา 06.30 น. ก็พบกับเพื่อน ๆ ผู้บริหารด้วยกันที่จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ และผู้จะมาสอบทะยอยกันเดินทางมา 

คงเป็นวิธีการบริหารของแต่ละคนว่าในภาวะที่ไม่มีเวลา ว่าแต่ละคนจะดูแลตัวเองกันอย่างไร ทั้งการเดินทาง การรับประทานอาหารเช้า และอื่น ๆ แต่โดยรวมก็คงไม่แตกต่างกันสักเท่าไร  สำหรับตัวเอง ตื่นมาก่อนเข้าห้องน้ำก็เสียบกระติกน้ำร้อน  ก่อนออกเดินทางก็กดน้ำร้อนใส่กระบอกน้ำที่เก็บอุณหภูมิ พร้อมกับกาแฟซอง และขนมปัง ไปถึงที่้วัดมกุฏ พบ ผอ.กศน.เขตประเวศ นั่งดื่มกาแฟและขนมปังอยู่เหมือนกัน ก็เลยลงไปจัดการกับอาหารเช้าที่้เตรีัยมไปและนั่้งคุยเรื่องงานไปพร้อม ๆ กัน  เนื่องจากกรุงเทพฯ มีถึง 50 เขต ดังนั้น จึงค่อนข้างยุ่งยากที่บริหารจัดการ หรือจัดการประชุม ก็จะใช้วิธีการส่งเมล์แจ้งเรื่องงาน และสอบถามรายละเอียดกัน  เวลาพบกันจึงมักมีเรื่องสนทนาค่อนข้างมาก

หลังจากจัดการอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เราก็พากันขึ้นไปประชุมเตรียมความพร้อม  และรับข้อสอบเพื่อไปดำเนินการสอบตามกำหนดเวลา 

เป็นปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในการสอบผู้บริหาร กศน. ครั้งนี้  เนื่องจากมีการเปิดรับสมัครทั้งบุคลากรของ กศน.และบุคลากรจากหน่วยงานอื่นเข้ามาสอบด้วย  ดังนั้น  ครั้งนี้ จึงมีผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกจำนวนมากกว่า 1,000 คน  ต้องใช้ หัองสอบทั้งสิ้น  35 ห้อง  กรรมการคุมสอบ ซึ่้งเป็น ผอ.กศน.เขตและข้าราชการจาก สนง.กศน. มาคุมสอบ รวม 70 คน และกรรมการทีทำหน้าที่อื่น ๆ อีก  รวมทั้งสิ้น ก็เป็นร้อย

มีคน กศน.จริง สมัครเพียง 60 คน ที่เหลือ ประมาณเกือบ 1000 คน เป็นคนจากหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะจาก สพฐ.เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์  จึงน่าคิดว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ข้าราชการจากหน่วยงานอื่น จึงต้องการโอน หรือสอบคัดเลือกมาเป็นบุคลากรของ กศน. เป็นเพราะ กศน.กำลังอยู่ในสายตาของประชาชน รวมทั้งรัฐ ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ใช่หรือไม่ เป็นข้อคิด ที่ควรหาคำตอบไม่ใช่น้อย

บรรยากาศจึงค่้อนข้างชุนมุลเล็กน้อย เพราะใช้อาคารหลายอาหาร คนมาสอบจำนวนมาก และคนที่มาส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตั้งแต่ ซี 7 ขึ้นไป มีจำนวนมากที่เป็นผู้บริหารระดับรอง และหลายคนก็เป็นผู้อำนวยการ ร.ร.ในสังกัดของ สพฐ.  การขึ้นตึกหลาย ๆ ชั้นจึงเป็นปัญหาของผู้ใหญ่ แต่ทุกคนก็รู้ตัวกันดี จึงไม่ีได้ยินเสียงบ่น

ทุกคนเตรียมรับกับปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น หลาย ๆ อย่าง มีการวางแผน การคิดหาวิธีการแก้ไขกันไว้พร้อมเสร็จ  เพื่อป้องกัน และทำให้การปฏิบัติงานในครั้งนี้เป็นไปด้วยดี 

กรรมการประกาศให้ทุกคนเข้าห้องสอบเวลา 08.15 เพื่อเตรียมความพร้อมและชี้แจงรายละเอียด เมื่อถึงเวลา 08.30 น. กรรมการประกาศให้ลงมือทำข้อสอบได้  เหตุการณ์ทุกอย่างก็ดูจะเรียบร้อยไปด้วยดี  มีคนขาดสอบบ้างแต่ก็ไม่มาก  เมื่อถึงเวลา 08.45 กรรมการก็ประกาศหมดเวลาการเข้าห้องสอบสำหรับผู้มาสาย  (ระเบียบในประกาศบอกไว้ว่า ผู้เข้าห้องสายเกิน 15 นาที ไม่ให้สอบ) ปรากฏว่า สิ้นเสียงกรรมการไม่นานก็มีผู้เข้่าสอบเป็นผู้ชายคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาขอสอบ มิหนำซ้ำยังมาผิดห้องด้วย  กรรมการที่กำกับห้องสอบไม่สามารถอนุญาตได้ เนื่องจากเกินเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบ จึงได้แจ้งให้ไปติดต่อกับกรรมการกลาง  ตอนแรกเราก็ยังไม่รู้กันว่าบทสรุปออกมาเป็นอย่างไร  แต่เมื่อผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีหน้าที่ีในการพิจารณาข้อปัญหาดังกล่าว  ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานที่สอบ จึงได้ทราบว่า ไม่อนุญาตให้บุคคลดังกล่าวเข้าสอบเนื่องจากเกินจากเวลาที่อนุญาตให้สายไปแล้วถึง 9 นาที ได้ยินว่าจะมีการฟ้องร้อง สนง.กศน. ก็ว่ากันไป   แต่มาคิดดูอีกที คิดจะเป็นผู้บริหาร ยังบริหารเวลาไม่ได้เลย ขนาดจะมาสอบยังไม่การเตรียมตัวในการเดินทางให้มาทันไม่ได้  ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันนะ

มีห้องสอบทั้งหมด 35 ห้อง เราคุมห้องที่ 27 คู่กับท่าน ผอ.ธีรศักดิ์  กศน.เขตบางนา  ห้องที่คุมเป็น บุคลากรจาก สพฐ.ทั้ง 30 คน มิหนำซ้ำยังเป็นคนมาจากจังหวัดหนองคาย ทั้งหมด ได้ยินว่ามีผู้สมัครจากหนองคายทั้งสิ้น  58 คน  มากเป็นลำดัีบหนึ่งของประเทศ

ผู้เข้าสอบทุกคน ปฏิบัติตัวดีมาก ไม่สร้างปัญหาให้กับกรรมการคุมสอบ และด้วยความเป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงมีลักษณะสบาย ๆ พูดคุยดี อารมณ์ดี ไม่เครียด   ทุกคนใช้เวลาในการสอบกันอย่างคุ้มค่า จนนาทีสุดท้ายจึงส่งข้อสอบพร้อมกระดาษคำตอบกัน  (แต่จริง ๆ แล้วทราบว่าข้อสอบยากมาก ) ข้อสอบที่ใช้สอบมีทั้งหมด 4 ชุด ชุดละ 100 ข้อ ภาคเช้า 2 ชุด ภาคบ่าย 2 ชุด  ก็ 400 ข้อ หลายคนบอกว่า โหดมาก ของหน่้วยงานอีกมีเพียงชุดละ 60 ข้อ  กศน.มีถึง 100 ข้อ และยังมีตัวลวงที่แนบเนียนมาก  เป็นการทำข้อสอบที่ใช้เีครื่องตรวจกระดาษคำตอบตรวจ  ดังนั้น จึงต้องใช้ดินสอบ 2 บี ขึ้นไปฝนคำตอบในกระดาษ หลายคนไม่คุ้นเคย  ก็คลุกคลักเล็กน้อย 

เมื่อหมดเวลา ก็ต้องตรวจนับทั้งข้อสอบและกระดาษคำตอบ นำข้อสอบชุดแรกมาส่งกรรมการกลาง  หลังจากนั้นก็ดำเนินการสอบวิชาต่้อไป  หมดเวลาสอบ ชุดที่  2  พักเที่ยง กรรมการแทบจะทานข้าวกันไม่ทัน เพราะกว่าจะส่งข้อสอบชุดเก่า ทานข้าว รับข้อสอบชุดใหม่ แล้วก็รีบเดินไปที่ห้องสอบ ก็เกือบถึงเวลาสอบชุดต่อไป  ตอนบ่ายแดดจัด อากาศก็ร้อนขึ้น เล่นเอากรรมการหลาย ๆ นั่งกันไม่ติด (อายุก็มากด้วยกันทั้งนั้น)  แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่กันจนสิ้นสุดวิชาสุดท้ัาย 16.30 น. กว่าจะส่งข้อสอบชุดสุดท้ายเสร็จ และทะยอยกันกลับที่พักก็เย็นค่ำ  สำหรับตัวเองถึงที่พักที่ห้วยขวาง 18.35 น. เพราะแถว ๆ ดินแดง รัชดา ห้วยขวาง รถติดมาก ๆ ขอบอก

ก็สิ้นสุดภาระกิจไปด้วยดีอีกวันหนึ่ง  หลาย ๆ คนบอกว่าดีจังได้คุมสอบผู้บริหาร ไม่มาทำบ้างไม่รู้หรอกว่าดีหรือไม่   แต่ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีก็ต้องทำเพราะเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ  แต่สำหรับตัวเองสรุปแล้วดีค่ะ  ดีัมาก ๆ ด้วย เพราะได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ถือว่าสำคัญ  ไ้ด้มีโอกาสพบปะ รู้จักกับบุคลากรจากหน่วยงานอื่ีน ๆ ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนแนวคิด ทัศนคติกัน  ได้เรียนรู้การทำงานอีกรูปแบบหนึ่ง  สรุปแล้วดีจริง ๆ

คำสำคัญ (Tags): #ครู กศน.
หมายเลขบันทึก: 244304เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2009 11:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 05:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท