แนะนำตัว


กายและจิตสัมพันธ์กัน

ท่านเคยถามตัวท่านเองบ้างไหมว่า?

***ทำไมเราจึงเจ็บปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดตามจุดต่างๆ ของร่างกาย หรือปวดไปหมดทั่วทั้งตัว***

     ส่วนใหญ่คนทั่วไป มักจะไม่สนใจหรือไม่หันกลับมามองดูที่ตัวเราว่า "เราใช้งานร่างกายของเราหนักมากเกินไปในบางขณะหรือเกือบตลอดเวลา"

     อาจจะเริ่มตั้งแต่ในวัยเด็กที่บางคนอาจจะต้องช่วยเหลืองานทางบ้าน เช่น หาบน้ำ ยกของ ส่งของ ฯลฯ ซึ่งในตอนแรกอาจจะมีอาการอ่อนล้า ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว แต่เมื่อทำเข้าไปเรื่อยๆ บ่อยเข้าก็กลายเป็นความเคยชิน ไม่มีอาการเจ็บปวดหลงเหลือ แต่ว่ามันไม่ได้หายไปจากตัวเรา มันยังเก็บเอาไว้เป็นเมมโมรี่

     พอเราโตเป็นผู้ใหญ่ เรียนหนังสือก็ใช้สมองในการเรียนรู้ เครียดในการสอบและแข่งขัน เมื่อเรียนจบก็ต้องทำงาน เริ่มเครียดในการแข่งขันในเรื่องงานเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้น เครียดในเพื่อนร่วมงาน แต่เมื่อพอได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า ก็ทำให้จิตรู้สึกสบายร่างกายก็ผ่อนคลาย ทำให้มีความรู้สึกอยากจะทำให้มากกว่านี้ เหมือนอย่างที่เขาว่า "สู้แล้วรวย" แต่เขาไม่ได้บอกว่า "สู้แล้วหายป่วย" ด้วย ร่างกายเราจึงสะสมอาการปวดเมื่อย เครียด สารพัดเหมือนบัญชีธนาคารที่มีดอกเบี้ยให้ด้วย

    เมื่อร่างกายเริ่มเหนื่อยล้า แต่ยังฝืนตัวเองเพื่อคำว่า "สู้แล้วรวย" ล่ะก็ สิทธิ์ที่จะพักผ่อนอย่างเดียวก็มีสูงเป็นเงาตามตัว อาการจะเริ่มจากความเครียดก่อนใครเพื่อน ตามมาด้วยนอนไม่หลับกระสับกระส่าย ฝันร้าย ตกใจตื่นขึ้นมาแล้วเหงื่อออกกลางฝ่ามือ  ปกติเป็นคนที่ไม่เคยว่าใคร ใจดี แต่กลับกลายเป็นคนขี้ใจน้อย ชอบเอาชนะ ขี้โมโห ใครพูดไม่เข้าหูจะหงุดหงิดง่าย ลมออกหู  และของแถมคือพยาบาทผูกใจเจ็บ ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ

    บางคนเกิดอาการปวดเมื่อยตามตัวก็ไปหาหมอนวดมาผ่อนคลายอาการปวด มันอาจจะรู้สึกดีขึ้นในตอนแรกหลังจากนวด  หลังจากนั้นก็อยากจะให้นวดอยู่ร่ำไป แต่ไม่หายจะยิ่งขอร้องให้หมอนวดทวีความแรง หรือลงนิ้วให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะว่ามันไม่สะใจหรือไม่โดนใจจอร์จ นวดแล้วก็จะสบาย แต่มันก็จะกลับมาเป็นอีก แต่จะหนักกว่าเดิม ทำให้ท่านต้องไปนวด จนกระทั่งร่างกายของท่านรับไม่ได้แล้ว คือ เจ็บระบมไปทั่วทั้งตัว จนไม่สามารถจับหรือแตะได้ เพราะมันเจ็บไปหมด

     แล้วอย่างนี้ท่านจะยังคิดว่า "ร่างกายของเรา" ไม่น่าทะนุถนอมอีกเหรอ

 

 

หมายเลขบันทึก: 244257เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2009 23:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม 2014 23:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

แวะมารับความรู้รอบดึกค่ะ

ขอบคุณค่ะ

เห็นด้วยครับ ว่าคำว่า "สู้แล้วรวย" อันตรายจริงๆ ผมเห็นหลายๆ คนเข้าใจความหมายของคำว่า "รวย" ผิด กลับกลายเป็นยิ่งทำงานก็ยิ่งทำร้ายตัวเองและทำร้ายครอบครัว สุดท้ายแล้วเหลือเพียงร่างกายที่ไม่สมประกอบ พร้อมจิตใจอ่อนแอ และตัวเลขหลายหลักที่อยู่ในสมุดบัญชีที่ไม่มีความหมายเพราะไม่สามารถใช้ซื้อสิ่งที่เขาสูญเสียไปได้ครับ

ขอบคุณบันทึกนี้ค่ะ  มาได้ดังใจเลย...

บางคน สู้เหนื่อยยากลำบาก เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต  หวังจะไว้ใช้เลี้ยงชีพเมื่อเลิกทำงานแล้ว  แต่กลับต้องมาใช้เพื่อรักษาชีวิต เท่ากับความเหนื่อยยากตรากตรำนั้นสูญเปล่าไป ซ้ำยังติดลบด้วยค่ะ.....

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท