เป็นมหกรรมสุขภาพที่ใหญ่มากงานหนึ่งในปีนี้ ผมได้มีโอกาสไปเล่าเรื่องในงานนี้ด้วยเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ในงานนี้ อาจารย์ประเวศ ได้กล่าวปาฐกถา "สร้างคุณค่าความเป็นคน สร้างสุขภาพชุมชนให้เข้มแข็ง" ไว้น่าสนใจโดยมีในตอนหนึ่งของปฐกถาที่ว่า
การสร้างสุขภาพทชุมชนนั้นเริ่มต้นที่การเคารพคุณค่าของความเป็นมนุษย์ การพัฒนาใดๆ นั้นต้องพัฒนาขึ้น ไม่ใช่พัฒนาลง (พัฒนาจากรากฐาน คือชุมชนมากกว่าที่คิดจากเบื้องบน) จึงยั่งยืนและมั่นคง เปรียบได้กับเจดีย์ที่ต้องมีฐานกว้างเพื่อให้ยอดได้สูงตระหง่าน สัตว์ร้าย 3 ตัวที่คอยกัดกินคุณค่าความเป็นมนุษย์ได้แก่ ตัญหา(อยาก)-มานะ(เอาชนะ)-ทิฐฐิ(ถือตนเป็นใหญ่) แก้ได้โดยสติ หากหลุดพ้นได้จะเป็นอิสระ นั่นคือความเป็นคนอย่างแท้จริงจะบังเกิด
อุปสรรคการพัฒนาที่สำคัญคือ "รอยต่อฟ้าจรดดิน"(ไม่มีทางบรรจบ) องค์กร เงิน และนิยาม หากถือสิ่งเหล่านี้เป็นแกนหลักในการคิด จะไม่สามารถไปต่อได้เลย
หากเอากระทรวงทบวงกรม เป็นจุดตัวตั้ง ในประวัติศาสตร์ระบบราชการไทยน้อยครั้งที่จะสำเร็จ เนื่องจากระบบราชการแข็ง ไม่ยืดหยุ่น ไม่เอื้อต่องานในชุมชน
เงิน เป็นอีกอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาผิดทิศทาง (โยนเงินลงมาแล้วคิดว่าจะใช้อย่างไรให้หมดเป็นปัญหาที่เราเห็นกันจนชินตา) ควรให้เงินเป็นเพียงปัจจัยหนุนในการทำงาน
นิยาม เรามักจะนิยามงานหนึ่งว่ามีของเขตดังนี้-ต้องรอให้ชัดเจนถึงจะทำงาน-นอกขอบเขตงานตนก็ไม่สนใจไม่ทำ ทำให้ขาดการเชื่อมโยง (โลกนี้ไม่มีอะไรที่ลอยอยู่เดี่ยวๆ ต้องมีการเชื่อมต่อและเปลี่ยนแปลงเสมอ นิยามหนึ่งในเวลาหนึ่งอาจถูกต้อง แต่เวลาผ่านไปนิยามนั้นคงต้องเปลี่ยนไป)
ทางแก้ "ต้องสละแนวคิดเชิงอำนาจ" แล้วเริ่ม interactive learning through action คือ เรียนรู้จากฐานรากผ่านการลงมือทำ (ทำไปเรียนไป) โดยเน้นคุณค่าความเป็นคน (ทุกคนมีศักยภาพและคุณค่าในตัวเอง) ร่วมมือกันเป็นชุมชนผู้ปฏิบัติ รวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างมีเป้าหมาย (ยุทธศาสตร์แสงเลเซอร์) และเข้าหาองค์ความรู้ผ่านงานวิจัยในพื้นที่
ช่วงท้ายหลังปาฐกถาอาจารย์ประเวศ อาจารย์โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ มาชี้แจงภาพรวมงาน อาจารย์พูด 2 ประโยคโดนใจผมคือ
"ระบบราชการมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งในการทำลายความคิดสร้างสรรคของคนทำงาน"
"นวัตกรรมเป็น indicator ของการมีชีวิตอยู่ขององค์กร"
ถึงตรงนี้ผมคงทิ้งไว้ให้ท่านผู้อ่านได้ลองขบคิดจากปฐกถาสั้นกับ 2 ประโยคของอาจารย์ประเวศ และอาจารย์โกมาตร
แล้วพบกันใหม่เมื่อผมว่างครับ
ขอบคุณที่นำสาระดีๆมาถ่ายทอดค่ะ
ชอบมากโดนใจค่ะประโยคแรก แต่ประโยคหลังยังไม่ลึกซึ้ง
"ระบบราชการมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งในการทำลายความคิดสร้างสรรคของคนทำงาน"
"นวัตกรรมเป็น indicator ของการมีชีวิตอยู่ขององค์กร"
ระบบราชการเป็นบล็อกที่ผู้คิดๆว่าได้มาตราฐานง่ายแก่การตรวจสอบ ติดตาม และพัฒนา...หากแต่จริงๆแล้ว พบว่า มันไม่เป็นดังที่เข้าใจ ทุกพื้นที่ในบล็อกนั้นๆมีช่องโหว่ มีทางไหล มีที่พัก มีหลุมหลบภัย มีเวทีสำหรับผู้ที่ถูกคัดเลือก มีช่องว่างระหว่างใจ มีความดี ที่มักเดินสวนทางกับความชอบ ความชอบที่ผู้มีอำนาจกำหนดขึ้นมา บนฐานของความพอใจ การวางตัวไว้แล้วด้วยหลักเกณฑ์ ที่จัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ของคนในองค์การนั้นๆ และผู้มีอำนาจที่พาไป แอบแฝง เบี่ยงเบน ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์ยังมีเจ้าตัวร้ายทั้งสามตัวสิงอยู่ จนกลมกลืนเป็นร่างเดียวกัน
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณ คุณอำนวย และkrutoi ที่แวะมาครับ
เคยมนุษย์คนหนึ่งพูดกับผมว่า "คนที่พูดว่าเงินไม่สำคัญต่อการทำงานนั้น เพราะตอนนี้เค้ามีกินมีใช้ไม่เดือดร้อน ลองเค้ากลายมาเป็นคนจนหาเช้ากินค่ำซิจะรู้ว่าเงินมันจำเป็น"
สวัสดีครับ
ด้วยความเคารพรัก
งาน นี้ ผมก็ได้ไปครับ คนเยอะมากๆ
สวัสดีครับ ขอบคุณที่แวะมาครับ