ชีวิตของข้าราชการมีหลายอย่างที่เราไม่สามารถที่จะเลือกในส่งที่ตนเองชอบใจและถูกใจได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องคน เรื่องสถานที่ ตลอดจนเรื่องสิ่งแวดล้อม และเรื่อง....อีกมากมาย
เรื่องงาน ไม่สามารถเลือกงานตามที่ตนเองถนัดได้ เรียนจบมาอีกด้านหนึ่ง แต่พอมาทำงานจริง ๆ ความรู้ที่เรียนมาแทบจะไม่ได้ใช้ในการปฎิบัติงาน ยิ่งเป็นงานเกี่ยวกับตัวเลข สถิติต่าง ๆ แล้ว คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบ สาเหตุก็คงจะเข็ดหลาบมาตั้งแต่เป็นนักเรียน นักศึกษาาแล้ว ไม่ค่อยมีคนชอบเรียน สาเหตุก็คือยากและไม่ชอบใช้ความคิด เมื่อมาปฎิบัติงานจริง ๆสิ่งที่เราไม่ชอบ มักจะเจอเสมอ และต้องมารับผิดชอบอีกด้วย ก็จำต้องทำ ไม่มีสิทธิเลือก เพราะมันคือหน้าที่ที่เราจะต้องรับทั้งความผิด และความชอบ
เรื่องคน ข้าราชการทุกคน ไม่มีสิทธิเลือกนาย ไม่มีสิทธิเลือกลูกน้องและไม่มีสิทธิเลือกเพื่อนร่วมงาน แต่อาจจะมีข้อยกเว้นเป็นบางคน แต่ก็จะมีน้อย การทำงานจึงต้องมาปรับตัว ปรับใจ ปรับทัศนคติกันใหม่เสมอ
เรื่องสถานที่ทำงาน บางคนต้องการย้ายไปอยู่ที่ภูมิลำเนาตัวเอง แต่อาจจะไม่ได้ย้ายตามประสงค์ บางคนต้องการไปอยู่จังหวัดที่ตนเองชอบ ก็ไม่อาจได้ตามประสงค์ เพราะอยู่ที่ดุลยพินิจของผู้บังคับบัญฃา
เรื่องสิ่งแวดล้อม ก็ไม่สมารถเลือกได้เช่นกัน บางคนอาจจะชอบอยู่ตามชายทะเล หรือตามเชิงเขา แต่จะมีสักกี่แห่งที่มีสำนักงานตั้งอยู่ตามที่เราต้องการดังความปรารถนาดังกล่าว
...ชีวิตข้าราชการแม้จะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่มีสิทธิเลือกได้ แต่เราก็สามารถเลือกที่จะเป็น เลือกที่จะทำ และเลือกที่จะบังคับให้ตนเองชอบได้...
หลังจากออกนิเทศงานมีน้องๆหลายคนอยากให้เป็นหัวหอกในการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้แต่ด้วยข้อจำกัดของทัศนะเพื่อนร่วมงานทำให้เนื้อหาบทความต่างๆที่เคยเขียนไว้ในwebของหน่วยงานต้องถูกถอดออกช่วงนั้นผมตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะฝืนทำไปทำไมเพราะประสบการณ์สอนไว้ว่าอะไรที่คิดใหม่หรือคิดก่อนพี่ๆต้องพบกับแรงเสียดทานอย่างมากมายถ้าทนได้จนมีคนเข้าใจในสิ่งที่เราทำก็เสมอตัวแต่ถ้าพลาดพลั้งสิ่งที่คิดนั้นไม่สมบูรณ์ก็ถูกเยาะเย้ยถากถาง จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากออกไปนิเทศงานน้องๆแล้วมีเสียงถามถึงเนื้อหาความรู้ มุมมองที่ต่างไป ทำให้เกิดกำลังใจอีกครั้งพร้อมทั้งมีคำตอบให้ตนเองแล้วว่า ทำไปทำไม หรือทำไมต้องทำ ก็เลยคิดจะใช้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้กับน้องๆ(ในนามของส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับราชการ)อีกสักครั้ง ด้วยความรู้สึกที่ว่าตนเองก้าวถึงจุดนี้แล้วและแม้จะหวังในความก้าวหน้าต่อไปอีกแต่ก็ไม่ถึงขนาดขั้นทุรนทุรายสมควรที่จะสนับสนุนช่วยเหลือพี่ๆน้องๆชาวสาธารณสุขบุรีรัมย์ให้มีความสุขในการทำงานผลที่ได้ก็น่าจะเกิดกับพวกเราทุกคนและสุดท้ายประโยชน์สุขก็จะเกิดกับคนบุรีรัมย์ต่อไป
ชีวิตที่เลือกได้ นับว่าเป็นโอกาสแล้วนะคะ
แม้บางอย่างเราเลือกไม่ได้
แต่เราก็เลือกความถูกต้องทั้งคิด พูด และทำ
ขอบคุณข้อคิดดีๆ เตือนสตินะคะ
เจริญพร โยมศรีกมล
เรียนรู้อย่างหนึ่ง แต่มาทำงานอีกอย่างหนึ่ง
ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเช่นนี้แหละคุณโยม
เจริญพร
สวัสดีค่ะดีจังที่ดิฉันทำงานเป็นองค์กรเล้กๆนะคะ
แวะมาอ่านค่ะ