ขอบคุณแทนทุกคนที่ท่าน รองฯขวัญ ได้แจ้งให้ผู้อื่นทราบ ผมขอเล่าประสบการณ์เสริมที่เกิดขึ้นกับผม จนผมตกใจแทบตายให้ฟัง เพื่อเป็นวิทยาทานแก่กันทุกผู้ทุกนาม..............
ปลายเดือน พ.ย.51 ผมคุยกับผู้ใหญ่ที่นับถืออย่างสูง โดยเล่าให้ฟังว่าผมชอบเป็นสิว เป็นแล้วหาย หายแล้วเป็น สงสัยเลือดลม น้ำเหลืองไม่ดี หรืออาจขาดความสมดุล เนื่องจากการทำงานที่ไม่ได้ออกกำลังกาย..............ผู้ใหญ่ท่านจึงเล่าให้ฟังว่า ตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่2เสร็จสิ้นใหม่ๆ ข้าวยาก หมากแพง หยูกยาหายาก ประกอบกับปักษ์ใต้สมัยนั้นห่างไกลปืนเที่ยงเสียเหลือเกินต้องช่วยเหลือตัวเองโดยอาศัยภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่อยู่ได้ก็อยู่ไป ที่ทนไม่ไหวก็ตายกันเป็นเบือ รักษาถูกก็นับว่าโชคดี รักษาผิดก็เป็นวิทยาทานให้คนอื่นๆ.....................ท่านเล่าต่อไปว่า.......มีคนจีนคนหนึ่งอาศัยและทำงานอยู่กับเตี๋ยของท่านเป็นโรคอะไรไม่ทราบ แต่ มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มทั้งตัว ผุ พอง คิดว่าน่าจะไม่รอด...
เตี๋ยท่านไปเอาต้นชุมเห็ดที่ขึ้นตามชายนามาทั้งต้นรวมถึงรากมาสับแล้วตากแห้ง หลังจากนั้นก็นำมาต้ม นำมาให้กิน เช้า เย็น เวลาผ่านไปไม่ถึงเดือนก็หายเป็นปกติ...
ในส่วนของผมน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ลองทำกินดูก็ได้
........... ขนาดป่วยหนักยังหาย แค่คิดว่าไม่ค่อยดี เรื่องเล็ก...
ผมตัดสินใจทำกิน และ แบ่งปัน ให้เพื่อน ร่วมทานด้วย โดยคิดว่าจะทำให้ผิวพรรณดี เนื่องจากคิดว่าชุมเห็ด จะไปปรับความสมดุลของร่างกาย ถ้าผิดพลาดก็คงจะไม่เป็นอะไร
เพราะมันเป็นแค่สมุนไพร.............
ผลปรากฎว่าผมเกิดการแพ้ผิวหนังพอง คัน ทั้งตัว ผมตกใจมากเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นซึึ่งปกติผมจะแพ้ง่าย แต่ครั้งนี้ เป็นมากเกินกว่าที่เคยเป็น ผมจึงไปหาหมอ พอหมอดูหมอรู้ได้ทันทีเลยว่าผมไปกินยาหม้อ โดยที่ผมไม่ได้บอก สัญนิษฐานได้ว่าคนอื่นก็คงจะเป็นมาก ไม่อย่างนั้นหมอจะรู้ได้อย่างไร พูดอย่างไม่ลังเล
ผมใช้เวลารักษาผิวหนังอยู่เดือนกว่าจึงหาย แต่สภาพผิวหนังก็ยังด่างอยู่เล็กน้อย
หมดเงินไปเกือบหมื่น ที่เรียนมานี้ก็เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆได้ระมัดระวัง
1.อย่าคิดว่าไม่เป็นไร
2.อย่าทดลองอะไรง่ายๆ
3.ต้องสอบถามผู้รู้ที่รู้จริงเท่านั้น
4.ถ้าไม่เข้าใจ หรือสงสัย กลับไปอ่านขอ้1.ใหม่ แล้วท่านจะปลอดภัย
........ด้วยความรักและปราถนาดี เพื่อเป็นวิทยาทานและกุศลกรรม.........
ดร.ทินโน ขวัญดี
www.drtinno.com