ผลจากการเลือกบริโภคสื่อ


ใจมนุษย์เบื่อง่าย

หลายเดือนมานี้ตั้งแต่การเมืองที่ผันผวนไปมาพร้อมทั้งเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงทำให้จิดใจผมหดหู่เรื่อยๆ

ผมจึงทดลองปิดหูปิดตาจากการไม่ฟังข่าวการเมืองที่คาราคาซังไม่จบซักที พบว่ามีข้อดีดังนี้

  1. ผมไ้ด้รับอิทธิพลทางความคิดจากสื่อมากมาย โดยเฉพาะหนังสือ, หนังหลายๆ แนวที่ผมไม่เคยลองมาก่อน ทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตามากขึ้น
  2. ผมได้มีกองหนังสือเป็นภูเขาย่อมๆ ในห้อง ที่ขยันซื้อมามากขึ้น ทั้งๆ ที่พยายามลดโดยการเช่าเอาแล้ว แต่มันก็ไม่มีลดลงเลยครับเพราะว่าเสียดายหนังสือ ไม่กล้าทิ้งขว้าง ตอนนี้กำลังพยายามตัดใจขายส่วนหนึ่ง,บริจาคส่วนหนึ่งซึ่งดูรายการแล้วก็ช่วยได้น้อยอยู่ (ใจไม่กล้าพอ)
  3. ชีวิตมีเวลาสดชื่นขึ้นเยอะ

ข้อแรก ผมได้แนวทางนี้จากหลายๆ ท่านว่าให้เลิกบริโภคสื่อที่ทำให้ใจเรามัวหมอง แล้วหาสื่อที่ทำให้ใจเราผ่องแพ้วขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณทุกๆ ท่านมากเพราะมันช่วยผมให้หายเครียดวิตกกังวลไปเยอะจริงๆ เพราะผมได้คิดว่า แม้นผมจะวิตกกังวลน้อยหรือมากกว่านี้ประเทศก็ไม่ได้เจริญขึ้นมาได้แต่อย่างใด

ข้อสอง หนังสือธรรมะ เป็นหนังสือแนวที่ผมเปิดอ่านผ่านแล้วผ่านไปเพราะเนื้อหามันลึกล้ำจนผมไม่รู้เรื่อง (ปัญญาข้าน้อยยังด้อยอยู่) จนตอนหลังมาเจอเว็บต่างๆ ในอินเตอเน็ตแล้วพบว่า ธรรมะนี่เหมาะกับสื่อแนวนี้มากๆ เพราะเป็นอะไรที่แจกฟรี (ให้ทาน) ทุกคนอยู่แล้วและการลงผ่านสื่อนี้ทำให้มีการลิงค์ผู้เชี่ยวชาญสาขานี้มากขึ้น ทำให้ความรู้ข้อมูลด้านนี้ถูกเรียบเรียงจัดหมวดให้ค้นหาง่ายและคำอธิบายที่ฟังไม่เข้าใจจากอาจารย์ท่านหนึ่งกลับมาเข้าใจในอาจารย์อีกท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ เว็บที่ผมเข้าบ่อยๆ คือ

http://dungtrin.com/

http://larndham.net/index.php

ความรู้จากที่นี่ได้เปลี่ยนความคิดของผมไปมากทีเดียว โดยเฉพาะผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า ธรรมะเป็นอะไรที่ใกล้ตัวเรามากๆ และปัญหาทุกวันนี้ที่เกิดจากคนต้องเกิดจากใจ หากเราจะให้ใจคนเราดีเราจะต้องเริ่มจากมีีศรัทธาที่ถูกต้องก่อน (สัมมาทิฏฐิ) นั่นคือ ศรัทธาในพุทธศาสนาหรือในศาสนาของแต่ละคนนั่นเอง รวมทั้งที่นี่สอนให้ผมรู้ว่า ความสุขนั้นได้มาง่ายกว่าที่ผมคิดมาก

ข้อสาม หนังซีรี มีข้อดีกว่าหนังจบจบในโรงมากเพราะหนังที่จบในโรงมักจะต้องตัดห้วนๆ หรือต้องให้คนดูคิดตามเองซะเอยะเพราะไม่มีเวลามาปูพื้นเรื่องราวได้มาก กล่าวคือ สำหรับผมแล้วถ้าหนังซีรี่ดีก็จะดีมากๆ ไปเลยครับ เช่น เรื่อง อิมซังอ๊กและ Change ที่ผมดูซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่จูมงผมกลับไม่ค่อยอยากดูซ้ำแหะ คงเป็นเพราะปมของจูมงมันชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วไม่ต้องมาคิดต่อมากมั้ง ตอนนี้ใครคิดดูซีรี่ผมขอแนะนำว่าอย่าพลาดเรื่อง Change หนังแนวการเมืองที่คุณคาดไม่ถึงเมื่อพระเอกที่เป็นครูประถมมาเป็นนายกในเวลาชั่วข้ามเดือนเขาจะแก้ปัญหามรสุมทางการเมืองยังไง เป็นอีกเรื่องที่ทาง TITV จะนำมาฉายต่อจากเรื่องปัจจุบันที่เป็นแนวที่ผม....ไม่ชอบดูขอรับ เรื่องนี้ถ้าผมเขียนละเอียดจะไม่มันส์แต่สรุปว่า เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่า คนดีไม่ว่าอยู่ไหนก็เป็นคนดี และงานใดๆ ที่คนดีทำมันแม้นสถาพแวดล้อมจะสกปรกเพียงใดก็จะเป็นงานที่ดีไปได้ ขอรับ

ช้อสี่ แนวความคิดที่เปลี่ยนความคิดผมมากๆ คือ ใจมนุษย์เบื่อง่าย ต้องการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ชอบบริโภคอะไรที่ซ้ำซากจำเจ หากทำไม่ได้ก็ทุกข์ แต่ต่างกับการที่ผมอ่านหนังสือธรรมะที่ผมอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ไม่เบื่อ (หลายคนหาว่าผมกลายเป็นคนหมกมุ่นธรรมไปแล้ว) แน่นอนว่าผมไม่ได้อ่านหนังสือธรรมะอย่างเดียวสื่ออื่นที่ผมบริโภคมาก่อนหน้านี้ก็ยังบริโภคเหมือนเดิมเพียงแต่น้อยลงไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกเหมือนผมกำลังไดเอ็ตทางใจโดยไม่รู้ตัว เพราะมันเหมือนกับการคัดเลือกอาหารใจที่ดีเข้าไปและลดปริมาณอาหารประเภทไขมันจุกอก (อิอิ) ทีละน้อยๆ เพราะผมไม่นิยมหักดิบ (ว่าไป) ซึ่งมีคำกล่าวว่าธรรมะแทรกซึมอยู่ทุกแห่งหนเพียงแต่เราจะรู้เท่าทันหรือไม่ แม้แต่ละครนิยายน้ำเน่าของไทยเราที่เปิดทีไรต้องมีเสียงกรี๊ดๆ ชวนหดหู่ก็แฝงธรรมเช่นกัน แต่คนที่จะเห็นธรรมในนั้นได้คงต้องตบะแก่กล้าหน่อยหรือไม่มีอะไรจะดูในการเพ่งธรรมแล้วกระมังเพราะมันเห็นแต่กิเลสที่แผ่ออกมาอย่างน่ากลัว ชวนให้เราไหลไปตามกิเลสได้อย่างไม่รู้ตัว เอ่อผมก็อาจจะกล่าวเกินไป ละครจริงๆ ก็มีดีเยอะนะถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวละกันขอรับ หลังจากบริโภคอาหารใจดีๆ แล้วต้องมาออกกำลังใจกันหน่อยโดยการปฎิบัติ ที่ผมพยายามอยู่คือการนั่ง-นอนทำสมาธิทุกวันไม่ให้ขาดพยายามหาทางทำทานทุกวันโดยการพยายามนำเสนอธรรมะให้ทุกคนที่ใกล้ตัว มีสติระงับความโกรธ (ผมได้ความรู้จากพระอาจารย์มิตสุโอะ เควสโกในเรื่องนี้มากๆ ขอบคุณท่านมากๆ ขอรับ) ช่วยเหลือทุกคนเท่าที่ทำได้ ตอนนี้ผมทำได้เท่านี้ แต่ผมหวังอย่างยิ่งว่าถ้ทุกคนในที่ทำงานหรือทั่วโลกมีสติ ไม่โกรธซึ่งกันและกันการทำงานคงเต็มไปด้วยความสุขและเต็มไปด้วยธรรมแน่นอน

ปล. จริงๆ จะว่าไปแล้วหากผมอ่านหนังสือธรรมะแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในตัวผมก็คงเบื่อเช่นกัน คนเราต้องเปลี่ยนแปลงไปทุกวันอยู่แล้วไม่ว่าจะทางดีหรือร้าย ทางที่ต้องใจเราหรือไม่ต้องใจเรา หากมันสามารถเปลี่ยนไปในทางที่ดีเราคงมีความสุขกว่าใช่ไม๊ขอรับ

หมายเลขบันทึก: 241276เขียนเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2009 18:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 18:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

พยายามให้มีสติในชีวิตประจำวันจะทำให้เราทำงานสดชื่นขึ้นและเข้าใจโลกและตัวเรามากขึ้นค่ะ

อ่านหนังสือธรรมะและเข้าใจตัวเองมากขึ้นก็เป็นกุศลค่ะ

มาให้กำลังใจในการทำงานนะคะ

ว่างๆเขียนบล็อกบ้างก็คลายเครียดดีค่ะ

สวัสดีค่ะ

- แวะมาเป็นกำลังใจค่ะ

- เปิดใจ ปล่อยความเครียด ความทุกข์ จะได้ผ่อนลงค่ะ

- มีความสุขวันวาเลนไทม์นะค่ะ และทุก ๆ วันค่ะ

มาสวัสดีปีใหม่ครับ คุณจันทร์เมามาย

มีความสุขสมหวังดังตั้งใจไว้นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท