แบบรายงานผลการดำเนินงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
"การปฏิบัติการสอนชุมนุมนาฏศิลป์โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ"
โรงเรียนกุดบงพิทยาคาร อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
*************************************
1. ชื่อผลงาน "การปฏิบัติการสอนชุมนุมนาฏศิลป์
โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบร่วมมือ"
2. ผู้จัดทำผลงาน
นางจารุวรรณ ชิตตะเสน
โรงเรียนกุดบงพิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองคาย เขต 2
3. ประเด็นปัญหาหรือสิ่งที่ต้องการพัฒนา
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไป
เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรม
และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ให้มีประสิทธิผลจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดบทบาทหน้าที่ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ปรับปรุงและเลือกปฏิบัติได้ตามความเหมาะสมและความพร้อมของสถานศึกษา
จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชานาฏศิลป์ พบว่ามีกลุ่มนักเรียนที่มีปัญหาขาดทักษะการปฏิบัตินาฏยศัพท์ ทำให้เกิดปัญหาในชั้นเรียน เพราะนักเรียนกลุ่มนี้ไม่สามารถเรียนตามทันเพื่อนร่วมชั้นได้ และส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชานาฏศิลป์อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ดังนั้น ทางกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงหาวิธีจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการ พี่สอนน้อง เพื่อนสอนเพื่อน ที่นำมาแก้ปัญหาทักษะการปฏิบัติของนักเรียนกลุ่มนี้ เพื่อให้มีการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน ให้นักเรียนมีการพัฒนาเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ และมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
4.วัตถุประสงค์
5. หลักการแนวคิด หรือทฤษฎี ที่นำมาใช้แก้ปัญหา
5.1 ) การจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีของกาเย่ คือ การจัดขั้นตอนการเรียนรู้จากง่ายไปหายาก
โดยดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1) สร้างความสนใจให้กับผู้เรียน
2) แจ้งจุดประสงค์ให้ผู้เรียนทราบว่าต้องการให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อะไร
3) กระตุ้นให้ผู้เรียนประมวลความรู้จากความรู้เดิมเพื่อถ่ายโยงไปสู่การเรียนรู้ใหม่ ๆ
4) เสนอสาระการเรียนใหม่
5) วางแผนออกแบบแนวทางการจัดการเรียนรู้หรือสร้างกระบวนการเรียนรู้
6) ผู้เรียนลงมือปฏิบัติตามแนวทางการจัดการเรียนรู้
7) ให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนเพื่อการปรับปรุงพัฒนาการทำงาน
8) ประเมินผลการเรียนรู้
9) ส่งเสริมความคงทนในการเรียนรู้และการถ่ายโยงการเรียนรู้
ทฤษฎีดังกล่าว ผู้เรียนจะเรียนรู้ได้ดีหากได้มีโอกาสเรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจ และมีโอกาสแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง จะสร้างความหมายของสาระการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผู้สอนจึงต้องดำเนินการ
อย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดีได้ ซึ่งจากปัญหา ของนักเรียน ทำให้เป็นปัญหาในการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน จึงต้องได้รับการแก้ไข โดยอาศัยชุดการเรียนเพื่อพัฒนาทักษะทางการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นรูปแบบการสอนให้ผู้เรียนลงมือฝึกปฏิบัติตามแนวทางการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีการพัฒนาได้เรียนรู้เต็มตามศักยภาพและมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
- การเรียนรู้แบบร่วมมือ " The New Circles of Learning : Cooperation in the Classroom and School ของ David W. Johnson, Roger T. Johnson และ Edythe Johnson Holubec " ซึ่งเป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่นักเรียนทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการเรียนรู้สูงสุดแกตนเองและแก่กันและกัน ทำให้เกิดการพึ่งพาอย่างสร้างสรรค์ และนักเรียนเกิดความมั่นใจและมีกำลังใจที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายเดียวกันกับเพื่อนร่วมชั้น
5.2) การเรียนรู้ตามทฤษฎีของไทเลอร์ (Tylor)
- ความต่อเนื่อง (continuity) หมายถึง ในวิชาทักษะ
ต้องเปิดโอกาสให้มีการฝึกทักษะในกิจกรรมและประสบการณ์บ่อยๆ
และต่อเนื่องกัน
- การจัดช่วงลำดับ (sequence) หมายถึง
หรือการจัดสิ่งที่มีความง่าย ไปสู่สิ่งที่มีความยาก
ดังนั้นการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ ให้มีการเรียงลำดับก่อนหลัง
เพื่อให้ได้เรียนเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- บูรณาการ (integration) หมายถึง การจัดประสบการณ์จึงควรเป็นในลักษณะที่ช่วยให้ผู้เรียน ได้เพิ่มพูนความคิดเห็นและได้แสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกัน เนื้อหาที่เรียนเป็นการเพิ่มความสามารถทั้งหมด ของผู้เรียนที่จะได้ใช้ประสบการณ์ได้ในสถานการณ์ต่างๆ กัน ประสบการณ์การเรียนรู้ จึงเป็นแบบแผนของปฏิสัมพันธ์ (interaction) ระหว่างผู้เรียนกับสถานการณ์ที่แวดล้อม
6. ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
6.1 ขั้นเตรียมการ
6.1.1วิเคราะห์หลักสูตร
6.1.2วิเคราะห์ผู้เรียน
6.1.3สำรวจความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชน
6.1.4ปรับพื้นฐานของผู้เรียนและจัดกลุ่มผู้เรียน
6.1.5กำหนดกิจกรรม รวมทั้งแบบประเมินกิจกรรม
6.1.6จัดกิจกรรมการเรียนรู้ และประเมินผลกิจกรรมว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนการจัดการเรียนรู้หรือไม่ ถ้านักเรียนไม่ผ่านวัตถุประสงค์ต้องปรับปรุงและซ่อมเสริมแล้วประเมินอีกครั้ง รูปแบบที่ใช้ในการสอนแบบสาธิต พี่สอนน้อง และเพื่อนสอนเพื่อน
6.1.7รายงานผลการจัดกิจกรรม
6.2 ขั้นดำเนินงาน
1.การคัดเลือกนักแสดง รับสมัครนักเรียนที่สนเข้าร่วมกิจกรรมชุมุมนาฏศิลป์ โดยคัดเลือกนักเรียนที่มีความสนใจ ความรับผิดชอบ มีพรสวรรค์ในด้านนาฏศิลป์ รู้จักพัฒนาฝีมือตนเอง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ
2.ขั้นตอนความพร้อมและสร้างความตระหนักให้เกิดความรักในศิลปวัฒนธรรมไทย
3.ขั้นฝึกปฏิบัติ
3.1 ให้ผู้เรียนชมวิดีทัศน์การแสดงชุดนั้นๆ เพื่อสังเกตท่าทาง ลีลาการร่ายรำ ลักษณะการแต่งกาย และเพลงดนตรีของเพลงนั้นๆ
3.2 ฝึกปฏิบัติโดยดูท่ารำจากวิดีทัศน์ ครูสาธิต พี่สอนน้อง และเพื่อนสอนเพื่อน จนสามารถปฏิบัติได้ อย่างสวยงามและแม่นยำและความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมไทย
3.3 ฝึกหัดการทำผม แต่งหน้า แต่งกาย เพื่อให้สามารถทำทรงผม แต่งหน้า และแต่งกายได้อย่างสวยงาม และสามารถช่วยเหลือ หรือแนะนำผู้อื่นได้
6.3 ขั้นสรุปผลและประเมินผล
6.3.1ประเมินผลจากการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน
6.3.2 นักเรียนประเมินตนเอง
6.3.3 ครูประเมิน
6.3.4ผู้ปกครอง ชุมชนประเมิน
วิธีการประเมินผล
1.สังเกตการณ์เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนของผู้เรียน
2.การจัดการแสดงในห้องเรียน นอกห้องเรียน และในชุมชนต่างๆ
เครื่องมือวัดผลประเมินผล
ผลการประเมิน
1.นักเรียนสามารถปฏิบัติท่ารำได้
2.นักเรียนสามารถแสดงการฟ้อนรำบนเวทีในโรงเรียนและชุมชนได้
3.นักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน มีความพึงพอใจในการจัดการแสดงของนักเรียนทุกครั้ง
7. ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน
7.1.นักเรียนสามารถปฏิบัติท่ารำได้
7.2.นักเรียนรู้จักการทำงานร่วมกัน รู้จักการแบ่งหน้าที่อย่างรับผิดชอบ และรู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ
7.3.นักเรียนมีความกล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
7.4.นักเรียนมีความรักและเห็นคุณค่าของนาฏศิลป์อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทย
7.5.รายงานผลการจัดกิจกรรมต่อทางโรงเรียนตามขั้นตอน
8. ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น
8.1 นักเรียนที่เข้าร่วมชุมนุมได้รับการพัฒนาไม่ต่อเนื่อง เนื่องจากมีกิจกรรมหลังเลิกเรียนบ่อยครั้ง
8.2 ครูมีภาระงานเร่งด่วน ไม่สามารถไปควบคุม ดูแลได้อย่างสม่ำเสมอในบางกรณี
9. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
9.1 ความร่วมมือของผู้บริหาร ครูผู้รับผิดชอบ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการและผู้ปกครอง
9.2 การเตรียมชุดการแสดงและกิจกรรมให้เหมาะสมกับผู้เรียน
9.3 การติดตามและประเมินผลนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่องทั้งในห้องเรียนชุมนุมและห้องเรียนปกติ
10. ความภาคภูมิใจและบทเรียนที่ได้รับ
10.1 เกิดความร่วมมือกันระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครองนักเรียน
10.2 นักเรียนมีความกล้าที่จะแสดงออกในทางที่ถูกต้อง
10.3 นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนในรายวิชานาฏศิลป์
ได้อ่านแล้วเป็นแนวทางที่ดีค่ะ....
สู้ๆน่ะคะหนูเป็นกำลังใจให้คะ
I Love You คะ
ได้อ่านเนื้อหาทั้งหมดแล้วใช้ได้ นำไปเป็นแนวทางในการสอนนักเรียนได้เป็นอย่างดี
ขอเป็นกำลังในให้