12. ยาเส้นมวนกระดาษหนังสือพิมพ์


ยาเส้นหรือจะแรงเท่ายาก้อ....

     เย็นวันศุกร์ผมกลับจากประชุมกลุ่มโรงเรียนเกือบหกโมงเย็น เจอชินยืนอยู่หน้าบ้าน เขาทักผมก่อนว่า 

     "ครู...ได้หนังสือพิมพ์มาไหม" ผมงงแต่ก็ปฏิเสธไป เขาทำหน้าผิดหวังแล้วเดินจากไป ผมได้แต่สงสัยเขาถามหาหนังสือพิมพ์ทำไม จะว่าเขาชอบอ่านก็ไม่ใช่ หรือมีข่าวใหญ่อะไรรึเปล่า แต่...ถ้ามี ในที่ประชุมกลุ่มก็น่าจะมีใครพูดบ้าง ความสงสัยของผมอยู่ไม่นาน พอหลังอาหารเย็นผมก็เข้าใจ

      หลังจากล้างมือเหรียญคว้าถุงพลาสติกข้างฝาบ้านเดินมาหาผมที่นั่งเล่นอยู่ชานบ้าน

      "สูบยาไหม" เหรียญพูด เขาหมายถึงสูบบุหรี่ไหม เรื่องบุหรี่กับผมมันน่าแปลกนะครับ ตอนอายุ 14-15 ปี ช่วงหยุดเทอมร้อน ผมปั่นสามล้อรับจ้างเพื่อความสนุกสนาน ก็คือวัยรุ่นอยากลอง ทำให้มีเพื่อนมาก ได้เงินมาก็ซื้อบุหรี่สูบบ้าง ไปเที่ยวดูหนังบ้าง ดื่มเหล้าบ้าง บางวันสูบบุหรี่วันละซอง แต่พอเข้าเรียน ป.กศ. หยุดปั่นสามล้อก็หยุดสูบบุหรี่ เพื่อนที่สูบด้วยกันมันเลิกไม่ได้หรอก แต่ผมไม่ีมีปัญหาอะไร อยากเลิกก็เลิกดื้อๆ ไม่ติดเลย 

      เหรียญล้วงมือออกจากถุงมียาเส้นสีน้ำตาลแก่ติดมือออกมา มันพูดดังๆ พร้อมกับมองไปทางชิน ที่เพิ่งกินข้าวอิ่มกำลังล้างมือว่า "ชิน..หนังสือพิมพ์อยู่ไหน...เอามาให้หน่อย"

      ชินล้างมือเสร็จเดินเข้าไปในห้องแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ที่เหลือเพียงครึ่งหน้าออกมาให้

       เหรียญแทนที่จะขอบใจกลับดุว่า เป็นเด็กเป็นเล็กริสูบยา ผมเห็นด้วยเพราะตอนนั้นชินอายุประมาณ 15 ปี เมื่อได้หนังสือพิมพ์เก่า เหรียญก็ฉีกเป็นแผ่นขนาดสามนิ้วมือ แล้วเอายาเส้นโรยไปตามยาว มวนพอหลวมๆ แล้วใช้สองฝ่ามือม้วนให้แน่นขึ้น พอได้ที่ก็จุดไฟดูดพ่นควันโขมง 

      "กระดาษหนังสือพิมพ์มวนยาเส้น รสชาดมันดีกว่าใบตองและยาเส้นไม่ดับด้วย ลองดูไหมครู" เหรียญชวน

        ผมไม่รอช้าฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์เก่า แล้วมวนยาเส้นเหมือนที่เหรียญทำ แต่พอดูดควันเข้าไปในปากผมก็สำลัก ทั้งไอทั้งจาม จนน้ำหูน้ำตาไหล มันฉุนจริงๆ กรุงทองที่ผมเคยสูบที่ว่าสุดยอดแล้ว ยังห่างยาเส้นไกลลิบ 

      เหรียญและชินหัวเราะ "ค่อยๆ ดูด สิครู" ชินแนะนำผม "นี่เป็นยาเส้นธรรมดานะ แต่ถ้าเป็นยาก้อ ครูจะไม่แ่ย่ว่านี้หรือ"

      ยาก้อ...แรงกว่านี้อีก เขาเอาใบยาแก่จนเหลืองผึ่งแดดพอร้อน แล้วม้วนใบเข้าด้วยกันจนแน่น นำไปตากแดดอีกครั้งจนแห้งดี แล้วเก็บไว้ในกระทอ (ไม้ไผ่สานเป็นกระบอกขนาดกระติกน้ำร้อน แล้วรองพื้นและด้านข้างด้วยใบตอง) พอเวลาจะสูบก็เอามาหั่นเป็นฝอยแล้วมวนด้วยใบตองหรือกระดาษ

      ผมไม่ยอมสูบยานั้นอีก เหรียญ ชินและผมนอนคุยกันตรงชานบ้านนั้น ก่อนจะหลับเหรียญชวนผมไปเที่ยวภูเขา แกจะไปสวนพริกที่แกปลูกไว้ ผมรับคำ คืนนั้นผมหลับไปพร้อมทั้งวาดจินตนาการบนภูเขาว่าคงจะสวยงามมาก และวันพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกในชีวิตของผมที่ได้ปีนภูเขา

หมายเลขบันทึก: 240748เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2009 11:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2013 11:51 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สมัยเด็กๆเคยเห็นบุหรี่ที่พ่อสูบทำจากใบตองกล้วยแห้งค่ะ ถ้าชื้อมาสูบราคาคงแพง พ่อเลยปลูกต้นยาสูบเอง ใช้ใบตองกล้วยห่อสูบเอง แต่ตอนนี้พ่อเลิกแล้วค่ะ แต่ตัวดิฉันไม่เคยสูบค่ะ สูบแล้วกลัวเป็นเหมือนอาจารย์เปลวเทียนค่ะ

ฮ่า ฮ่า คุณดุจดาวคุยสนุกนะครับ ความจริงเขาก็ใช้ใบตองกล้วยแห้งนั่นแหละครับ แต่ถ้าคนที่ไม่ชำนาญจะมวนไม่ได้ ใบตองจะแตก หรือถ้าเก็บใบตองไว้ไม่ดี ก็จะกรอบ หนุ่มสมัยนั้นจึงหันไปใช้กระดาษมวนแทน

จนมีครั้งหนึ่งเด็กนักเรียนร้องไห้มาโรงเรียน ผมถามว่า ร้องไห้ทำไม แกบอกว่า พ่อแกเอาสมุดการบ้านที่แกทำเสร็จแล้วจะส่งผม พ่อแกฉีกเอาไปมวนยาเส้น เหลือเพียงเสี้ยวเดียว ฮ่า ฮ่า

ดีแล้วครับที่ไม่สูบ และก็ไม่ควรเข้าใกล้คนสูบบุหรี่ด้วยนะครับ......ผมก็ไม่สูบครับ....หุหุ

น่าสงสารและตลกเด็กนักเรียนอาจารย์จังนะคะ   เด็กกลัวครูยิ่งกว่ากลัวพ่อกะแม่อีกค่ะ    การบ้านทำแล้วโดนฉีกไปมวนยาสูบ    โดนเผาไปซะแล้ว    ทำอะไรไม่ทันแล้วร้องให้ดีกว่า   อิอิอิ   ความคิดของเด็ก  เรื่องใหญ่ของเด็กนะคะนั่นนะ   (แล้วอาจารย์ทำโทษเด็กไหมคะเนี่ย)  

 

อาจารย์เขียนตอบสนุกดีค่ะยังกะได้อ่านอีกบทใหม่ๆค่ะ ชอบจัง 

เพราะว่าอาจารย์มีเรื่องแทรกๆเยอะดีค่ะ

อย่าเบื่อตอบนะคะ 

ขอบคุณค่ะ

เด็กสมัยก่อนกลัวครูมากครับ ครูสมัยก่อนก็หลอกเด็กมากเหมือนกัน เช่น บอกว่าคืนนี้จะเดินไปแถวบ้านเด็กหญิงบัวบาน ครูต้องได้ยินเสียงอ่านหนังสือนะ แน่นอน...เด็กหญิงบัวบานอ่านหนังสือเสียงดังได้ยินไปห้าบ้านหกบ้านเลยทีเดียว....ฮิฮิ

ผมเคยทำโทษเด็กครับ....อีกไม่เกินสามบทคงจะถึงแล้ว.....คุณดุจดาวจะสงสารเด็กหรือครู อีกหน่อยคงได้เขียนครับ

ไม่เบื่อตอบแน่ครับ ถ้ามีคนเขียนให้กำลังใจอย่างนี้

ขอบคุณครับ

คุณเปลวเทียน คงจะเป็นเด็กไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ และรู้จักการเอาตัวรอดเป็นยอดดี  และชอบลองของใหม่ (อย่าคิดลึก) ของใหม่ในชีวิตก็คือ  การถีบสามล้อ นอกจากจะสนุกเป็นการหาประสบการณ์แล้ว ยังสามารถหาเงินมาใช้ส่วนตัวได้อีก โดยไม่ต้องไปรบกวนขอเงินพ่อแม่ ให้ท่านได้รู้ว่า ขณะนี้ลูกชายของท่านริ   ดูหนัง  เที่ยว  สูบบุหรี่  ถ้าสมัยนั้นมียาบ้าก็คงลองอีกใช่ไหมตะ คริ คริ 

สุรู้แล้วคะ ถึงคุณจะรักชั่ว ริสูบยา แต่คุณก็รักดี เลิก สูบมันได้  เก่ง ๆจริงๆ  ถ้าไม่เก่งจริง ก็ไม่อยู่ได้ถึงขนาดนี้หรอก ใช่ไหมคะ  ไปเป็นคนถีบสามล้อแล้ว  แปว วววว

แต่คุณก็เลิกได้เพราะรู้ว่า มันไม่ดี ส่วนเพื่อนคุณคนไม่รักดี เลิกไม่ได้ ดีที่เลิกคบก่อน ไม่เช่นนั้น ก็จะรวมอยู่ในพวกไม่รักดี เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำนะ

บทความนี้ได้รู้เรื่องการมวนบุหรี่ ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์จะสูบมันกว่า และรู้สึกจะฉีกง่ายด้วย  และรู้สึกว่าใบตองมวนบุหรี่ มันจะใช้เวลาละเมียดละมัย กว่าจะนำมาทำมวนไว้ทีละมวน ตากแล้วเก็บใส่กล่องไว้  พอถึงเวลาจะสูบถึงเอายาเส้นมวนเข้าไป ชีวิตสมัยก่อนก็ยังรูจักการใช้กระดาษหนังสือพิมพ์มาทำมวนยาเส้นแทน  เริ่มแล้ว วัตถุนิยมขั้นต้น แล้วก็คงพัฒนามาเรื่อยๆ สมัยก่อนกระดาษหนังสือพิมพ์ กว่าจะเข้าเมืองซื้อติดมือมาได้แต่ละเล่ม คงจะใช้คุ้มค่าน่าดูนะคะ  อ่านจนหมดทุกตัวอักษร แล้วเก็บไว้มวนบุหรี่

เรื่องสั้นๆ แต่คนเม้นท์ยาวกว่าแล้ว  ไปอ่านเรื่องอื่นต่อก่อนนะคะ หรือจะไปเขียนเรื่องใหม่ดี ทิ้งช่วงมานานแล้ว ไปดีกว่าคะบ๊าย บาย

 

ถ้าสมัยนั้นมียาบ้าก็คงลองอีกใช่ไหม

สงสัยคงจะลอง.... เพราะ.. มีอะไรแปลกๆ ขวางหน้าเป็นลองหมด กัญชาในทุกรูปแบบ เหล้าชนิดที่ผสมแปลกๆ แม้กระทั่งจีบกระเทย แหะ แหะ 

ขอบคุณที่เม้นท์ยาวครับ แต่.. ผมตอบสั้นคงไม่ว่ากัน

ฮ่า ฮ่า 

ขำ ลองจีบกระเทย คริ คริ  จะริหมดทุกอย่าง จริงๆเหรอสมัยนั้น คริ คริ

เพื่อความสุข สนุกสนานนะครับ ฮ่า ฮ่า วัยรุ่นอยากลอง หุหุ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท