ปัญหาโลกไม่แตก กุ้ง หอย ปู ปลา เงือก


เรื่องน่ารู้จริง ๆ นะ

มารู้เรื่องที่น่ารู้ เรื่องที่รู้แล้วทำให้เกิดความสนใจใคร่รู้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องปลานอนหลับหรือไม่ อะไรกันแน่นั้น วันนี้ได้อ่านเจอสาระความรู้นี้จากเวป ๆ หนึ่ง ก็เลยนึกอยากนำมาให้ได้รับรู้กันเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ อ่านดูนะคะ น่าสนใจจริง ๆ ค่ะ

ปลาก็ต้องนอนหลับ  ปลาก็ต้องนอนหลับด้วยเหมือนกัน เคยเห็นปลาเงินปลาทองนอนเงียบอยู่ที่ใต้ก้นตู้เลี้ยงปลา โดยที่มันยังต้องลืมตาอยู่ เพราะปลาไม่มีเปลือกตา ปลาต่างๆ จึงไม่สามารถจะหลับตาได้ ปลาเงินปลาทองนอนในเวลากลางคืน เว้นปลาบางพวก อย่างปลาหมู ที่นอนในเวลากลางวัน 
  ทำไมปลาจึงมีเกล็ด  เพราะเนื้อตัวของปลานั้นอ่อน ปลาจึงต้องมีเกล็ดไว้ป้องกันร่างกาย เกล็ดปลาก็คือผิวหนังส่วนหนึ่งของปลา ถ้าขอดเกล็ดปลาออกหมด ก็เท่ากับว่าเราได้ถลกหนังปลาออกหมดแล้วนั่นเอง 
   ทำไมปลาฉลามจึงทำร้ายคน  ปลาฉลามกินปลา กินหมึก และกินสัตว์อื่นๆ ในทะเล ปลาฉลามบางชนิดรักสงบมาก ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่มนุษย์เลย แต่บางชนิดเช่นปลาฉลามขาว และปลาฉลามโบนิโต จะทำร้ายคนเพราะเป็นปลาฉลามที่มีฟันมาก ปกติมันกินปลาใหญ่เป็นอาหารแต่มันเห็นมนุษย์ มันก็นึกว่าเป็นปลาใหญ่ที่เป็นของบางอย่างที่พอกินได้ 
   ปลาบินจะบินได้จริงหรือ  ปลาบิน หรือปลานกกระจอก จะบินฝ่าขึ้นไปในอากาศได้จริงๆ ถ้ามีศัตรูขับไล่ทำร้ายมัน มันจะรีบว่ายน้ำให้เร็วที่สุด แล้วทะยานตัวขึ้นให้พ้นน้ำ พร้อมกับกางครีบอกที่ใหญ่มากข้างลำตัวออก มันก็จะบินผงาดขึ้นฟ้าได้เหมือนเครื่องบิน ขณะที่มันพุ่งตัวขึ้นพ้นน้ำแล้ว ก็ยังแพนหางให้แผ่ออกเพื่อกำกับระดับการบินของมันได้อีกด้วย 
   ทำไมปูจึงเดินไปข้างๆ  เป็นการง่ายที่คนเราจะขยับขาไปข้างหน้า หรือเดินถอยหลัง ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเป็นระบบการทำงานของร่างกายลูกสะบ้าหัวเข่าของคน ก้าวงอไปข้างหน้า จึงทำให้เราเดินไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย แต่ขาปูทำงานในระบบให้เดินไปข้างๆตัวมัน และต้องเดินไปพร้อมๆ กัน ไม่เหมือนลูกสะบ้าหัวเข่าของเรา ขาของปูโก่งงอไปข้างๆ ทำให้มันต้องเดินข้างๆ 
   ทำไมตัวเสฉวนจึงต้องเปลี่ยนบ้าน ตัวเสฉวนจะต้องอาศัยอยู่ในเปลือกหอย แต่เมื่อตัวของมันเติบโตขึ้น เปลือกหอยไม่ได้โตไปตามตัว ดังนั้นมันจึงต้องไปหาเปลือกหอยที่โตกว่าเพื่ออาศัยอยู่ เสฉวนเป็นสัตว์จำพวกเดียวกันกับปูและกุ้งด้วย และดังที่รู้ ปูและกุ้งมีเปลือกแข็งเพื่อคุ้มครองตน แต่เสฉวนมีส่วนท้องที่อ่อนนุ่ม ปราศจากเปลือกแข็ง จึงต้องอพยพไปอยู่ในเปลือกหอยเพื่อป้องกันตน 
   ทราบไหมว่ากุ้งว่ายน้ำได้อย่างไร  เมื่อกุ้งตกใจ บางครั้งมันก็จะว่ายน้ำถอยหลังหนีไป โดยวิธีใช้หางของมันพุ้ยน้ำเข้าหาตัว แต่ถ้ากุ้งเปลือกขาวจะว่ายน้ำไปข้างหน้า มันก็จะใช้ขาพุ้ยน้ำออกจากตัว กุ้งหัวแข็ง และกุ้งเปลือกขาว ว่ายน้ำไปข้างหน้าได้คล่องแคล่วมาก แต่กุ้งมังกร และกุ้งหัวแข็ง บางชนิด ที่ว่ายน้ำไม่คล่องก็มี 
   กุ้งก้ามกรามใช้ก้ามทำอะไร  กุ้งก้ามกรามใช้ก้ามของมันเพื่อจับเหยื่อ เช่น ลูกอ๊อด และปลา ถ้าปลามีตัวใหญ่กว่ามัน กุ้งก้ามกรามก็จะตัดตัวปลาออกเป็นท่อนเล็กๆ ด้วยก้ามกับขาอื่นๆ ของมันช่วยด้วย เพื่อที่มันจะได้กินเหยื่อนั้นได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ากุ้งก้ามกรามจับปลาตัวเล็กๆ ได้ มันก็จะกินโดยไม่ต้องหยุดพักเพื่อใช้ก้ามตัดตัวปลา 
   หอยจะเจริญเติบโตได้อย่างไร สัตว์น้ำพวกมีเปลือกแข็งห่อหุ้มตัวเติบโตได้อย่างไร หอยก็เติบโตได้อย่างนั้น เพราะหอยเป็นสัตว์มีบ้านของตัวเอง มันจะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากเปลือกไม่ได้ โดยธรรมชาติเปลือกหอยเติบโตตามตัว แต่มีขนาดใหญ่กว่าตัวหอย บนเปลือกหอยมีเส้นบอกตามอายุหอย ถ้าเราศึกษาและรู้จักนับวงเส้นบอกอายุ เราจะบอกได้ว่า หอยแต่ละตัวมีอายุกี่ปี 
   หอยเดินด้วยอะไร  หอยมีตีนเดินได้หลายแบบ ตีนของหอยกาบเดี่ยวต้องใช้เมือกลื่นหล่อใต้พื้นในขณะเดินอยู่ตลอดเวลา ส่วนหอยมือเสือ หอยตลับ และหอยลาย หรืออื่นๆ จำพวกหอยเหล่านี้ มีตีนเดินแคบเป็นรูปขวาน มันใช้ตีนขุดลงไปในพื้นเลนหรือทราย 
   ทราบไหมสัตว์จำพวกหอยก็มีตา  หอยพิลึกๆ ชนิดหนึ่งเข้าไปเกาะอยู่กับหินแล้วก็เลยขยับไปไหนไม่ได้ ถ้าเรามองเข้าไปดูข้างในเวลามันอ้าปาก ก็จะเห็นจุดกลมๆ สีฟ้ารอบๆ ตัวมัน ซึ่งก็คือตา เล็กๆ นั่นเอง แต่มองเห็นรูปร่างของสิ่งทั้งปวงอะไรไม่ได้ รู้แต่เพียงสว่างหรือมืด 
   ทราบไหมว่าเม่นทะเลก็เดินได้  เม่นทะเลพวกนี้มีหนามแหลมเป็นขามากมายนั้น เรียกว่า ตีนหลอด เพราะมันมีทั้งหนามที่ยาวและหนามสั้น มันยึดตัวเองให้อยู่กับที่ได้ โดยวิธีใช้ตีนหลอดของมันเป็นเครื่องดูด เม่นทะเลจะใช้หนามและตีนหลอดเคลื่อนตัวไปยังที่ใดก็ได้ โดยเริ่มต้นจากการยื่นตีนของมันออกไปยึดหินไว้แล้วรั้งตัวเข้าไป จึงทำให้ขยับตัวไปได้ 
   แมงกะพรุนเกิดได้อย่างไร  แมงกะพรุนมีหลายชนิด ส่วนมากรูปร่างคล้ายร่มหรือระฆัง มันเกิดจากไข่ เวลาแรกฟักก็เกาะตัวอยู่กับหินหรือวัตถุอื่นในน้ำ แล้วค่อยๆ โตข้นเป็นรูปชามก้นตื้นๆ แล้วก็เริ่มมีลักษณะเหมือนดอกไม้ที่มีดอกติดซ้อนรวมกันอยู่ ดอกดังกล่าวจะร่วงหลุดไป ทีละดอก เริ่มว่ายไปมารอบๆ แต่ละดอกนี้ก็คือลูกแพงกะพรุนที่แท้จริง 
   เงือกมีตัวตนจริงหรือ  คนเรามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเงือกมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครที่จะเคยเห็นตัวตนของเงือกจริงๆ เลย มนุษย์อาจจะได้เค้าเรื่องจากเงือกโดยเริ่มมาจากที่ได้เห็นหมูน้ำ หรือ พะยูน หรือสัตว์ทะเลอื่นบางชนิด ซึ่งอุ้มลูกขอมันแบบเดียวกับหญิงอุ้มลูก 

ขอบคุณสาระความรู้ดี ๆ จาก http://www.geocities.com/rak_talay/knowledge.htm

คำสำคัญ (Tags): #เรื่องน่ารู้
หมายเลขบันทึก: 240355เขียนเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2009 21:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 23:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอบคุณมากครับสำหรับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยน่ารู้เหล่านี้ หวังว่าจะได้ความรู้และสาระดี ๆ อีก จะเข้ามาเยี่ยมชมบ่อย ๆ นะครับ

เด็กหญิงพรรณราย นาคชม ม.2/1

ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มาก เเต่น่าจะเเต่งblog ให้เก๋กว่านี้นะค่ะ

มีประโยชน์มากค่ะ

น่าสนใจดีค่ะ อะไรที่ไม่รู้ก็ได้รู้ ดีมากเลยค่ะ

ได้ความรู้ดีมาก ๆ เลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท