ระหว่างทางกลับบ้านจะผ่านไฟแยกแดงประมาณ ๘ จุด และแต่ละจุดโดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็นรถจะติดนานมาก นี่ไม่นับวันที่ฝนตก เนื่องจากในเกาะภูเก็ตมีรถเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่พื้นที่ถนน พื้นที่เกาะมีเท่าเดิม ไม่มีมาตรการใด ๆ ออกมาควบคุมรถที่เพิ่มขึ้นทุกวัน
ขณะที่รถติดไฟแดงอยู่นั้น นอกจากจะคอยดูไฟข้างหน้าว่าเมื่อไรจะเขียวแล้ว ฉันก็กวาดสายตาไปเรื่อยตามข้างถนนสองข้างทาง มองดูนั่นดูนี่ที่มันเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ก็เกิดสนใจอาคารหลังหนึ่งห่างจากถนนประมาณ ๕๐ เมตร ซึ่งก่อสร้างมาหลายเดือนแล้ว ฉันผ่านทุกวันและเห็นการก่อสร้างก้าวหน้าขึ้น จนใกล้จะเสร็จเป็นอาคารที่สวย ทันสมัย ติดกระจกรอบด้าน รูปทรงก็แปลกตา ฉันสงสัยอยู่ในใจว่าอาคารหลังนี้เจ้าของเขาจะเปิดกิจการอะไร เพราะรูปแบบอาควรไม่เหมือนอาคารทั่วไป และวันนี้ฉันก็ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้ จนกว่าเขาจะขึ้นป้าย
แต่สิ่งที่ฉันเห็นขณะที่ติดไฟแดงวันนี้ จนทำให้อดอมยิ้มในภาพที่เห็นไม่ได้ คือ หน้าอาคารหลังดังกล่าว เห็นชายคนหนึ่งใส่เสื้อคอกลมสีขาว สวมกางเกงขายาวสีกากี อายุอานามประมาณไม่เกิน ๓๕ ปี น่าตาจัดว่าดี สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นช่างไฟฟ้า หรือช่างแอร์ที่มาติดตั้งอุปกรณ์ ในอาคารหลังนี้ นั่งยอง ๆ ป้อนข้าวเหนี่ยวให้ลูกหมาอายุประมาณเดือนเศษ ๆ สองตัวกระดิกหางงับก้อนข้าวเหนียวที่เขาป้อนให้ที่ละคำ และที่อดขำไม่ได้คือเห็นว่าเขากลิ้งข้าวเหนียวเป็นก้อนกลม ๆ ใส่ปากตัวเองเคี้ยวหน้าตาเฉย และกลิ้งข้าวหนียวก้อนต่อไปป้อนเจ้าหมาน้อยสองตัวสลับกันไปมา เมื่อสังเกตเจ้าหมาสองนั้น ดูแล้วไม่น่าจะเป็นหมาที่เขาเลี้ยง น่าจะเป็นลูกหมาข้างถนนแถว ๆ นั้นเพราะมันดูมอมแมม ขนเป็นซังกะตัง กว่าหมาที่มีเจ้าของทั่วไป
สัญญาณไฟเขียวมาพอดีฉันก็เคลื่อนรถออกอย่างช้า ๆ ทิ้งภาพน่าประทับใจไว้ตรงนั้น แต่ภาพนั้นมันทำให้ฉันยิ้มได้จนถึงบ้าน...
สวัสดีค่ะคุณจินตนา
เข้ามาอ่านสิ่งที่ประทับใจของคุณจินตนาค่ะ
อ่านแล้วก้อเกิดประทับใจเช่นกันค่ะ
สำหรับตัวเองหลายๆ สิ่งที่ประทับใจ
ก้อนำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณณัชชา
ทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราล้วนสวยงาม เพียงเรามองให้สวยงาม เอื้ออาทรและแบ่งปัน สังคมนี้น่าอยู่ขี้นเยอะค่ะ