เพื่อน


เพราะเราเป็นเพื่อน

เมื่อวานนี้ แม่ต้อยตื่นนอนประมาณตีสี่ เพื่อที่จะขึ้นเครื่องบินไปจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในทุกๆปีแม่ต้อยจะต้องไปเยี่ยมศูนย์ความร่วมมือ

ทางวิชาการด้านการพัฒนาคุณภาพ หรือที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า” Hospital Accreditation Collaboration Center “ หรือ ชื่อย่อว่า”HACC”

ซึ่งทั้งประเทศจะมีอยู่ด้วยกัน ๖ แห่ง ได้แก่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมาและ ที่สงขลา และส่วนใหญ่ HACC นี้จะตั้งในคณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยในจังหวัดนั้นๆ

                           การที่มีศูนย์ความร่วมมือด้านการพัฒนาคุณภาพนี้ก็เพื่อให้ แพทย์ พยาบาล บุคลากรการแพทย์ที่มีความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาคุณภาพ ได้ใช้ข้อดีของการที่อยู่ประจำในพื้นที่และใกล้ชิดโรงพยาบาลได้มีโอกาสเข้าไปรับรู้และสนับสนุนรวมทั้งให้กำลังใจแก่โรงพยาบาลในพื้นที่ในลักษณะของเพื่อน ที่มีความเข้าใจกัน รับรู้และเห็นปัญหาพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือโรงพยาบาลที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

                           การที่แม่ต้อยได้มีโอกาสไปพบกับคณะแพทย์ พยาบาลที่HACC จังหวัดขอนแก่นอีกครั้งนี้ทำให้ได้พบเพื่อนร่วมงานเก่าๆหลายคน เรามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันอย่างอบอุ่น สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือ หลายๆคนต้องขับรถมาจากจังหวัดใกล้เคียง บางคนต้องลางานมา เนื่องจากงานส่วนใหญ่ทีมที่มาทำงานล้วนแล้วแต่มีงานหลักที่รับผิดชอบอยู่แล้ว การมาทำหน้าที่ เพื่อน ที่จะเข้าไปเยี่ยมโรงพยาบาลจึงเป็นงานอาสาสมัครเท่านั้น   บรรยากาศของการประชุมของเราค่อนข้างผ่อนคลาย และสนุกสนาน ผสมผสานกับความรู้ที่เรานำมาแลกเปลี่ยนกัน

                           หากเราตั้งต้นการทำงานโดยยึดหลักของความเป็น เพื่อน เราจะได้เพื่อนจริงๆตลอดเส้นทางการทำงาน ในเช้ามืดที่เราไปถึงจังหวัดขอนแก่น แม่ต้อยและทีมที่ไปจากกรุงเทพฯจึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากอาจารย์ พยาบาลที่มารับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และด้วยความห่วงใย พาไปทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ ก่อนที่จะบอกกับแม่ต้อยว่า บ่ายนี้ต้องขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้อยู่คุยด้วย เพราะต้องไปกรุงเทพฯ เนื่องจากมีญาติป่วยต้องรับการผ่าตัด วันนี้รอรับอาจารย์และอยู่คุยก่อน ส่วนตอนบ่ายจะเดินทางคะนี่เป็นการแบ่งปันเวลาที่มีให้สำหรับ เพื่อนที่ทำงานด้วยใจที่มีเป้าหมายเดียวกันจริงๆ

                           และด้วยแนวคิดการทำงานของ สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ( พรพ.)ที่ใช้แนวคิดความเป็น เพื่อน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือทีมในโรงพยาบาลน้อยใหญ่ทั่วประเทศที่มีความเหนื่อยยากจากภาระกิจการดูแลคนไข้นี้เอง ทำให้มีคนให้ความหมายของ  พรพ.

ว่า เพราะว่าเราเป็นเพื่อน

                           สำหรับแม่ต้อยเองนั้นคิดว่าการทำงานที่เราตั้งต้นด้วยความเป็นเพื่อนนั้นเป็นสิ่งที่สร้างความสุขในการทำงานได้ เพราะว่าเพื่อนกันเท่านั้นจึงจะมอบสิ่งที่ดีดีให้แก่กัน เพื่อนเท่านั้นจึงวางใจและเชื่อใจกัน และช่วยเหลือกันด้วยความจริงใจในสิ่งที่ ถูกต้องงดงาม และเพื่อนเท่านั้นที่จะเข้าใจกัน สามารถปลอบใจให้กำลังใจเมื่อความทุกข์  และชมชื่นยินดีอย่างจริงใจเมื่อเพื่อนเรามีความสุข

                           ในบางครั้งแม่ต้อยคิดว่า เราสามารถสร้าง เพื่อน ได้เสมอในทุกจังหวะชีวิต ในช่วงที่แม่ต้อยเดินทางกลับจากจังหวัดขอนแก่น ในเที่ยวบินนั้นคนแน่นมาก ตามปกติ แม่ต้อยจะเป็นนักอ่านหนังสือ จะอ่านในทุกเวลาที่ว่าง บนเครื่องบินก็เหมือนกันหากเป็นไปได้แม่ต้อยชอบจะเป็นคนแรกๆที่เข้าคิวขึ้นเครื่อง  เพราะเหตุผลเดียวคือเข้าไปหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน  แต่ว่าวันนั้นเนื่องจากคนแน่นมากจึงไม่มีหนังสือพิมพ์เหลือแม้แต่ฉบับเดียว แม่ต้อยนึกในใจว่าไม่เป็นไร วันนี้ขอนั่งหลับสักหน่อยเพราะเช้านี้ตื่นตั้งแต่ตีสี่ แต่ด้วยนิสัยชอบการอ่านหนังสือคงติดตัวมากกระมัง

เมื่อเข้าที่นั่งของตนเองแล้ว แม่ต้อยก็ค้นนิตยสารหน้าที่นั่งมาอ่าน( ทั้งๆที่อ่านแล้วจนจำได้  เพราะว่าอ่านหลายรอบ อิ อิ) ทันใดนั้นมีผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งที่นั่งแถวถัดไป เยื้องไปข้างหน้าคงสังเกตเห็นหรืออย่างไรไม่ทราบ เธอส่งหนังสือพิมพ์มาให้หนึ่งฉบับซึ่งเธอคงเตรียมมาอ่านยื่นให้แม่ต้อยแล้วบอกว่า นี่คะ หนังสือพิมพ์ อ่านเถอะคะ เดี๋ยวดิฉันจะอ่านที่เพื่อนหยิบมา แม่ต้อยพึมพำกล่าวคำขอบคุณเธอ พร้อมด้วยรอยยิ้ม นึกในใจว่า นี่คงเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งเป็นแน่ แม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆก็ตาม  ดังนั้นเมื่อถึงดอนเมืองก่อนลงจากเครื่องบิน เราจึงลาจากกันด้วยรอยยิ้มอีกครั้งและคำขอบคุณในสิ่งเล็กๆน้อยๆแต่น่าประทับใจของเธอ

                           ตัวแม่ต้อยนั้นมีเพื่อนตั้งแต่รุ่นอนุบาล จนถึงปัจจุบัน ก็นับว่ามากมายจนบางครั้งสับสนเหมือนกันว่า เพื่อนชื่อนี้ เขาเป็นเพื่อนเรารุ่นไหนกันนะนี่  หากใครที่มีเพื่อนหลากหลายก็คงมีอาการคล้ายคลึงแม่ต้อยกันเป็นแน่  และคราใดหากว่ามีงานเลี้ยงระหว่างเพื่อนๆ หากเป็นไปได้จะพยายามไปทุกครั้ง ล่าสุดนี้มีจดหมายจากเพื่อนกลุ่มหนึ่งของแม่ต้อยเชิญให้ไปพบปะสังสรรค์กัน เนื่องจากไม่ได้เจอกันมานานแล้ว( ๑ปี นานไหม) เขาเขียนมาดังนี้คะ

·       งานนี้ขอเชิญเพื่อนทุกท่านมาให้ได้ เชิญคู่สมรส บุตร ธิดา ด้วย ( เรียกว่าเชิญยกครัว กลัวมีเหตุอ้าง )

·       เรามีวงดนตรี ที่จะบรรเลงให้ความสุขสุดความสามารถ ( บางครั้งดนตรีนี่แหละที่ทำให้เราคุยกันไม่รู้เรื่อง เบาๆหน่อยก็จะดี คนจะคุย)

·       จะมีอาหารอร่อยที่สุดมาให้ลิ้มลอง ( น่าไปมาก เหตุผลขึ้น)

·       แต่งกาย สวย หล่อ ตามอัธยาศัย ( อายุปูนนี้แต่งอย่างไรก็ไม่หล่อ ไม่สวยแล้วจ้า)

 

·       มีของจับฉลาก  รับรองว่ามีของกลับบ้านทุกคน ( ฟังขึ้น ฟังขึ้น)

·       ใครสามารถพาเพื่อนมางานได้มากที่สุดมีรางวัลพิเศษ ( โอ้โฮ ทุ่มสุดขีด)

 

นี่เป็นความรู้สึกของเพื่อนที่มีต่อเพื่อนนั่นเอง เป็นสิ่งที่มีคุณค่า แค่อ่านจดหมายเชิญก็ได้เห็นความตั้งใจ ความปรารถนาดี ความรัก  ความเอื้ออาทรในนั้น       แล้วแม่ต้อยจะพลาดในการไปพบ เพื่อนได้อย่างไร

แต่ว่าตอนนี้  แม่ต้อย ได้พบเพื่อนใหม่อีกมากมายหลายคน ที่แม้ว่ายังไม่ได้พบตัวจริง ยังไม่ได้พุดคุยกัน อาจจะอายุน้อยกว่า อาจจะมากกว่า แต่แม่ต้อยรับรู้ถึงความอบอุ่น กำลังใจที่ให้ และ ความปรารถนาดี เสมอ

  เพื่อน คนนี้ คือ คนที่กำลังอ่านตอนนี้ไงคะ  และ แม่ต้อยขอขอบคุณมากๆในไมตรีจิตที่มอบให้คะ

                          

                          

                    

 

หมายเลขบันทึก: 238221เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2009 20:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีค่ะ มารายงานตัว ค่ะ

มาเรียนรู้ข้อคิดดีๆ พาให้สุขใจค่ะ

ชอบประโยคยาวนี้มากค่ะ "เพื่อนกันเท่านั้นจึงจะมอบสิ่งที่ดีดีให้แก่กัน เพื่อนเท่านั้นจึงวางใจและเชื่อใจกัน และช่วยเหลือกันด้วยความจริงใจในสิ่งที่ ถูกต้องงดงาม และเพื่อนเท่านั้นที่จะเข้าใจกัน สามารถปลอบใจให้กำลังใจเมื่อความทุกข์  และชมชื่นยินดีอย่างจริงใจเมื่อเพื่อนเรามีความสุข"

อ่านแล้วซึ้งใจคาว่าเพื่อน โดยเฉพาะเพื่อนคนนี้ คนที่กำลังอ่าน

ขอบคุณค่ะ

ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ขึ้นเครื่องไม่เหนื่อย ไม่เพลีย (เพราะนั่งหลับ) อิอิ

ขอบคุณครูต้อยมากคะ ที่ให้กำลังใจ ที่สำคัญคือ เราเป็นคู่แฝด " ต้อย" ไงคะ( แฝดแต่ชื่อ แต่อายุคงห่าง)

ยินดีคะ ขอบคุณในกำลังใจคะ ทักทาย ด้วยนะคะ หากเจอกันคะ

ติดตามอ่านบันทึกแม่ต้อย ของน้องพอลล่า ไปหลายบันทึก แล้ว

บอกได้คำเดียวว่า ... คุณแม่ต้อย มีลีลาการเขียนชวนติดตามมากค่ะ

...

นี่ขนาดแค่ไม่กี่บันทึกนะคะ มาประโยคสุดท้ายเรื่องเ พื่อน   เพื่อน คนนี้ คือ คนที่กำลังอ่านตอนนี้ไงคะ 

ปูล่ะอึ้ง อึ้ง ... เลยค่ะ แม้ชอบมากๆ แต่มิขอบังอาจเป็นเพื่อนนะคะ

....

มาอ่านบันทึกก่อนนอน ฝันดี ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณพี่แม่ต้อย ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ แม่ต้อย...

เขียนเก่งมากๆเลยค่ะ ที่ภูเก็ต สนุกมากเลยค่ะ

  ...เพื่อน “คนนี้ คือ คนที่กำลังอ่านตอนนี้ไงคะ  และ แม่ต้อยขอขอบคุณมากๆในไมตรีจิตที่มอบให้คะ...

 เรียนอาจารย์แม่ที่เคารพ   ผมมิบังอาจหรอกครับ ขออนุญาตเข้ามาเรียนรู้  และหวังว่าคงได้รับความเมตตาจากอาจารย์แม่  ครับผม

P

สวัสดีคะ น้องปู ทำให้มีกำลีงใจอีกมาเชียวคะ นี่ละคะ "เพื่อน" ที่คอยให้กำลังใจ แต่เอาเป็นว่าเป็น"น้อง" ดีกว่านะคะ
ขอบคุณน้องปูและยินดีที่ได้รู้จักคะ

P

พอลล่าคะ  ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ คิดถึงคะ

P

 น้องหนุ่มคะ ขอบคุณรูปที่สวยงามคะ นี่เป็นสัญญลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่นหรือเปล่าคะ

ตกลงไม่มีใครกล้าเป็นเพื่อนเลยสักคนนะเนี่ย..

เรียนอาจารย์แม่ ภาพในงานสืบสานวัฒนธรรมผู้ไท ตำบลนายูง อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี เมื่อ 26 ม.ค.52 ครับผม เรียนเชิญอาจารย์แม่ไปเป็นเกียรติกับพี่น้องผู้ไท ด้วยครับผม

http://gotoknow.org/blog/supanan007/238096

http://gotoknow.org/blog/supanan007/237664

แม่ต้อยอย่าลืมและไปงานเกษตรแฟร์ที่ม.ขอนแก่นนะคะ เผื่อจะเจอลมเพชรหึงค่ะ

P 

น้องทรายคะ น่าเสียดาย เขาชวนไปคะ แม่ต้อยชอบต้นไม้ด้วย แต่ว่ากลัวไม่ทันขึ้นเครื่องคะ( เพราะจะจองอ่านหนังสือพิมพ์ไงคะ 555)

น้องทรายคงไปแน่ๆเลย คนรักต้นไม้อย่างนี้

นำภาพ "เพื่อนๆ HACC_Srinagarind Hospital"มาฝากครับท่านพี่แม่ต้อย

คิดถึงแม่ต้อยค่ะ...เลยต้องมาติดตาม เลยได้เห็นอาจารย์หมู (อาภากร) ด้วยเลย...อ่านบันทึกนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นและได้กำลังใจในเส้นทางนี้มากขึ้นค่ะ..แม่ต้อย...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท