รายงานการพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โดย
อมร สุโข
ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
โรงเรียนบ้านไร่บ้านไฮ่
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนคร เขต 2
อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพกลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษาค้นคว้า : นางอมร สุโข
ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านไร่บ้านไฮ่
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนคร เขต 2
อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
ปีที่พิมพ์ : 2551
บทคัดย่อ
ฟฟฟฟฟฟฟการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อ หาประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หาค่าดัชนีประสิทธิผลของหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนบ้านไร่บ้านไฮ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนคร เขต 2 อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ (1) หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 (2) แบบทดสอบย่อย กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก ซึ่งมีจำนวน 7 ชุด ๆ ละ 10 ข้อ (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือกมี 1 ชุด จำนวน 20 ข้อ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งมี 1 ชุด จำนวน 10 ข้อ ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า
1. หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 84/85.38 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าพัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลหนังสือส่งเสริมการอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา (สุขศึกษา) มีค่าเท่ากับ .7388 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 73.88
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) โดยรวมอยู่ที่ระดับเหมาะสมมากที่สุด
ฟฟฟฟฟฟฟ โดยสรุปการพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน ชุดการสร้างเสริมสุขภาพกลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (สุขศึกษา) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทำให้นักเรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเรียนรู้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น คือ ผู้เรียนเกิดความคิดจินตนาการ ฉลาดมีไหวพริบ เกิดความสนุกสนาน ความบันเทิงตอบสนองความต้องการความอยากรู้อยากเห็น ทดแทนสิ่งที่เด็กขาดหายไปช่วยส่งเสริมการอ่านปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็ก เด็กเกิดความเข้าใจความเป็นจริงของชีวิต เสริมสร้างประสบการณ์เสริมสร้างทักษะการอ่านสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่าน เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุขทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง และบรรลุตามความมุ่งหมายของหลักสูตร
เก่งจังเลยค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะว่าที่ ครูชำนาญการพิเศษ
กำลังวางแผนการทำผลงานอยู่พอดี แต่ ยังคิดไม่ออก
ยินดีด้วยค่ะ..จะติดตามผลความคืบหน้าอีกนะคะ..
nongnarts
เยี่ยมไปเลย ขอให้ผ่านฉลุยสมความตั้งใจนะคะ
เก่งจังเลยค่ะ...อยากได้มาไว้ใช้ที่โรงเรียนคงจะดีนะ
เป็นผลงานที่ดีจริงๆ ขอนำไปใช้ที่โรงเรียนบ้างนะคะ
ขอขอบคุณคุณครูทุกท่านนะคะที่เป็นกำลังใจให้ จะเก็บทุกความคิดเห็นเป็นกำลังใจตลอดไปค่ะ