* "พระ " หมายถึง ผู้ประเสริฐ ผู้ยอดเยี่ยม เพราะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติดีดีอยู่ในตัวและ
ประกอบความดีต่อผู้อื่น โดยมิได้มุ่งหวังการตอบแทน ทำด้วยดวงใจอันเปี่ยมล้นด้วย
ความรัก ความปารถนาดีและความสงสารเป็นมูลฐาน
* "ความเป็นพระ" อย่างที่ว่ามานั้น มิใช่จะมีเฉพาะกับนักบวชในศาสนาใดศาสนาหนึ่งตาม
ความเข้าใจของคนทั่วไปเท่านั้น ความจริงเราท่านทุกคนต่างก็เคยประสบพระหรือพระผู้
ประกอบด้วยคุณงามความดีดังกล่าวมาแล้วทุกคน และมิได้พบที่ในป่า ถําลำเนาไพรหรือ
ดินแดนบุญสถานนักบวชอื่นใดเลย หากพบกันอยู่ที่บ้าน มีอยู่ในบ้านเรานั่นเอง มิต้องไป
หาที่อื่นเสียให้ยากเลย
* คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธหรือคัดค้านว่า "พ่อแม่ " ไม่ได้เป็นพระ เหตุที่ท่านทั้งสองได้นามว่า
เป็นพระนั้นเพราะท่านมีความเป็นพระ คือ คุณธรรมความดีอยู่ในตัวและได้ปฏิบัติภารกิจ
อันเป็นหน้าที่ของตัวอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งในด้านจิตใจก็เปี่ยมล้นด้วยความรัก ความ
ปรารถนาดีและความสงสาร อันเป็นเหตุจูงใจให้ท่านได้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เสียสละ ยอมเป็นผู้
ให้ อยู่ตลอดมา แน่แล้ว พ่อแม่ คือ พระในบ้าน
* ตามปกติเรามักจะแสวงหาพระ ไปกราบไหว้พระกันตามวัด ตามถำ ตามป่าหรือแม้อยู่บน
ยอดเขาก็ยอมไปกัน ด้วยความมุ่งมั่นว่าจะเป็นมงคลแก่ตัว แม้จะต้องไปค้างอ้างแรมกัน
หรือใช้เวลาเดินทางไปเป็นวันๆ เราก็ยังทนหอบหิ้วสังขารไปจนกระทั่งถึงท่านจนได้ พอ
ได้เห็นท่านได้กราบไหว้บูชาท่านแล้วก็กลับ เท่านี้ก็เกิดความอิ่มเอิบใจ หายเหน็ดเหนื่อย
แต่จะมีใครสักกี่คนเล่าที่นึกถึง พระในบ้าน กัน พระในบ้านที่ใจจดใจจ่อรอท่าที่บรรดา
ลูก จะมาหา มากราบไหว้บูชา หรืออย่างน้อยๆ มาให้เห็นหน้าก็ดีใจถมไปแล้ว
* สมาชิกทุกท่านค่ะ ถ้าท่านยังมีพระในบ้านอยู่ ก็อย่าปล่อยให้ท่านอดอยากปากแห้ง
ปล่อยให้ใจแล้งอับเฉาเศร้าใจอยู่ตามลำพัง เพราะปราศจากนำใจของลูกๆ มาหล่อเลี้ยง
ให้ชุ่มชื่น พ่อแม่ที่รอนำใจจากลูกๆ นั้น อาจยิ่งกว่า " ข้าวคอยฝน " อย่างที่เรา
เปรียบเทียบกันเสียอีก ท่านคงมิใช่เป็นผู้หนึ่งในจำนวน " โดยมาก " นั้น
ครูเมืองปายเขียนบันทึกใน G2K หลายคนนะคะ ทันสมัยมากค่ะ ตามมาอ่าน
* สวัสดีค่ะ คุณ แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช ที่ตามมาอ่านบันทึกของ
ครู เมืองปาย ขอบคุณมากค่ะที่ชม