ทำไมต้องเป็น..."การเดินทางของความคิด"


ถนนสายความคิดเป็นทางเส้นเดิม ที่มีตรอกซอกซอยเพิ่มมากขึ้น บางซอยไปได้ไกลขึ้น

ความตั้งใจเดิม คือบันทึกเพื่อสำรวจดูความคิด...ว่า...เปลี่ยนไปอย่างไร  เพื่อทำความเข้าใจกับตัวตนของตนให้มากขึ้น   ถ้าแม้แต่ "ตน"  ยังไม่เข้าใจ "ตน" แล้วจะมุ่งสู่ คำว่า "รู้แล้ว เข้าใจแล้ว" ได้อย่างไร  การศึกษา ตามดูความคิดของตน น่าจะบอกถึง ความเป็น "ตัวกู ของกู" ได้ดีที่สุด  มีข้อความหนึ่งของท่านพุทธทาส..."เป็นมนุษย์ เป็นได้ที่ใจสูง  เหมือนหนึ่งยูงมีดีก็ที่ขน..."  เป็นคำที่นึกถึงเสมอๆ

จากความคิด มาสู่การปฏิบัติ การกระทำ พบว่า  เมื่อคิดแล้วลงมือทำ ในขณะที่ทำ ความคิดมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ในทุกเรื่อง  เช่น  เมื่อเราคิดจะทำบ้านให้สุนัข เราวางความคิดในสมอง ร่างเป็นแบบ ไอเดีย แต่เมื่อลงมือทำ  ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ไม้ เหล็ก วัสดุก่อสร้าง แรงงาน ทำให้แบบร่างนั้น เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพื่อความแข็งแรง และประโยชน์ใช้สอย  ดังนั้น สุดท้ายได้บ้านของสุนัขจริง  แต่บ้านหลังนี้ถูกปรับแต่งให้ดีขึ้น จนเราพอใจในความเป็นบ้าน ที่เราได้ลงมือทำ 

นั่นคือ ... ความคิด--->การกระทำ--->พัฒนาความคิด--->เป้าหมายที่คิด

เดิมวางแผนไว้ว่า ... บันทึกนี้คือ ความคิด+การกระทำ+ผลสรุปของการทำและความคิดเห็น   ส่วนอนุทิน คือการปฏิบัติประจำวัน  แต่ด้วยความขี้เกียจ จึงกลายเป็น  อนุทิน คือ short note เขียนเมื่ออยากเขียน และบันทึกคือ มีเรื่องที่จะเขียน...เขียนได้ยาวจนลงในอนุทินแล้วคิดว่า "ยาวไป" จึงมาลงในบันทึกแทน  แต่เดิมจะทำบันทึกหลายเล่ม แยกการเดินทางของความคิดเป็นเล่มหนึ่ง และเรื่องทั่วไป สัตว์เลี้ยง พรรณไม้ เป็นอีกหนึ่งเล่ม พอมาเขียนจริงๆ ขี้เกียจอีกแล้ว  เลยเป็นบันทึกเล่มเดียวที่รวมทุกอย่าง แต่ ก็ยังตอบโจทย์ของคนเขียนอยู่  เพราะ ความคิดมันเดินทางไปกับทุกเรื่องราวที่พบ และมีการเปลี่ยน  :) แม้แต่พฤติกรรมการดื่มกาแฟยังเปลี่ยนเลย..เมื่อก่อนเห็นคนกินกาแฟดำ  ก็นึกในใจว่า "ขมจะตาย กินได้ไง" แต่พอน้ำตาล ครีมเทียมหมด มาคิดว่า "เอ๊ะ..ถ้าไม่ใส่ของพวกนี้ จะกินกาแฟไม่ได้เชียวหรือ " และพอเริ่มกินกาแฟดำ OK น่ะ เดี๋ยวนี้น้ำตาลใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้...ชีวิตมีความยืดหยุ่นขึ้น  กับทุกๆเรื่อง

นั่นคือ...ความคาดหวังต่ออะไรๆ ลดน้อยลง  เมื่อก่อนอาจมุ่งหวัง คาดหวัง ว่า...ที่สุด  คิดให้เยอะที่สุด ดีที่สุด  ตอนนี้  ความคิดที่สุดยังอยู่  แต่ความคาดหวัง..สบายๆ ทำได้แค่ไหน ก็แค่นั้น  ไม่กดดันตัวเอง และคนอื่น  ยอมรับในสิ่งที่ทุกคนเป็น..และพยายามเข้าใจ....ก็นี่แหละ  คือหนทางที่มุ่งจะก้าวไปของความคิด...."  รู้แล้ว เข้าใจแล้ว "  แล้วมันจะมีอะไรต่ออีกมั้ย?????

หมายเลขบันทึก: 236297เขียนเมื่อ 20 มกราคม 2009 14:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ยืดหยุ่นขึ้นทั้งความคิด และการใช้ชีวิต

ชีวิตก็สงบเสงี่ยมลง

สบายขึ้น ด้วยใจที่จัดระบบชีวิตให้ใหม่

เพื่อต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงที่เป็นอนิจจัง...

วันนี้วาเลนไทน์ ผ่านร้านดอกไม้ มีการจัดช่อดอกกุหลาบ

วางขาย แต่วันนี้วุ่นมาก เพราะคลีนิคมีหมาป่วยเยอะ

สงสัยเจ้าของมัวสนใจกุหลาบแดง น้องหมาถูกทอดทิ้งเลย

ประท้วงเจ้าของเรียกร้องความสนใจด้วยการป่วยซะเลย

ดังนั้นคืนนี้เจ้าของหลายคนต้องเฝ้าน้องหมาที่เข้าน้ำเกลือ

ซึ่งจะทำให้เจ้าของไม่มีเวลาไปสนใจอย่างอื่นเลย

(การเฝ้าน้องหมาให้น้ำเกลือนี่ เป็นการวัดความรักของเจ้าของได้ดี)

วันนี้ ยิ่งรู้สึกมากๆ ว่า

" การเดินทางของความคิด " เป็นเ หมือน "ทางเิดินของหอยทาก".

..เวลาหอยทาก เดินไปไหน จะแบกเปลือกหอย อันเป็นเสมือนบ้านของมันไปด้วย

ทำให้มองเ ห็นเส้นทางที่มันคืบคลานไ ป...

วันนี้เริ่มเรียนรู้ถึงการ "หยุดคิด"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท