กังหันลมผลิตไฟฟ้าให้โรงเรียน


กังหันลมผลิตไฟฟ้าให้โรงเรียน

แคนนอน ติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้โรงเรียนบ้านหนองพลับ หัวหินเป็นแห่งแรก

   

 

 

 

 

 

บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด จัดพิธีส่งมอบกังหันลมผลิตไฟฟ้าในโครงการ พลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียวและห้องสมุดพลังงานสีขาว โดยแคนนอนให้แก่โรงเรียนบ้านหนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่จะนำกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมไปใช้ในห้องสมุดของโรงเรียน  

 

นายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยข้าราชการส่วนท้องถิ่น คณะครูและนักเรียน ได้ร่วมในพิธีรับมอบกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาด 1000 วัตต์ ตัวแรกของโครงการ พลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียวพร้อมอุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนการสอนสำหรับห้องสมุดของโรงเรียนด้วย  

 

มร.วาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัทแคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า โรงเรียนบ้านหนองพลับ เป็นโรงเรียนแห่งแรกในประเทศไทยที่แคนนอน ได้ทำการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ในโครงการ พลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียวซึ่งแคนนอนจะนำกังหันลมไปติดตั้งให้กับโรงเรียน 15 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อนำพลังงานสะอาดที่ได้จากกังหันลมไปใช้กับดวงไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในห้องสมุดที่แคนนอนจะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้สวยงามมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดหาหนังสือ สื่อการเรียนการสอน ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานที่จำเป็น ภายในห้องสมุดของทางโรงเรียน”  

 

โครงการพลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียวริเริ่มขึ้นเนื่องในโอกาสที่แคนนอนจะครบรอบ 15 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในปี 2552 ทั้งยังสอดคล้องกับปรัชญา เคียวเซซึ่งเป็นปรัชญาที่แคนนอนทั่วโลกยึดถือในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหมายถึงการพัฒนาและเติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อมๆ กับการสร้างสรรค์โลกและความสุขของมวลมนุษย์ โดยแคนนอนมีนโยบายดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยทุกผลิตภัณฑ์ยึดหลักการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ไร้สารพิษ ปลอดภัยต่อทุกชีวิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแคนนอนเองก็ตระหนักว่าพลังงานสะอาดจากกังหันลม จะเป็นพลังงานทดแทนอีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อประเทศไทย  

 

นายสมเกียรติ พาผล ผู้อำนวยการ Corporate Affairs Division กล่าวเสริมว่าโรงเรียนบ้านหนองพลับได้รับเลือกพิจารณาให้เป็นโรงเรียนที่แคนนอนติดตั้งกังหันลมเพราะตรงตามหลักเกณฑ์ ที่ระบุว่า จะต้องมีบริเวณกว้างขวาง ไม่มีอาคารเรียนบดบังทิศทางลม มีกำลังลมแรงตั้งแต่ระดับ 2.5 เมตร/ วินาที ขึ้นไป จึงเหมาะสม ในการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ทั้งนี้ยังมีห้องสมุดที่ใช้กำลังไฟสอดคล้องกับปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าจากกังหันลม ขนาด 1000 วัตต์ และนอกจากนี้ยังเป็นโรงเรียนที่กำลังพัฒนาและต้องการให้แคนนอนมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ ที่เป็นประสบการณ์จริง สำหรับนักเรียนและชุมชน” 

 

โรงเรียนบ้านหนองพลับจะเป็นโรงเรียนแห่งแรกในประเทศไทยที่จะได้นำกระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากกังหันลมไปใช้ในห้องสมุดพลังงานสีขาว โดยแคนนอนซึ่งการใช้พลังงานลมจากกังหันขนาด 1000 วัตต์ นี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่ากระแสไฟฟ้าให้แก่โรงเรียนบ้านหนองพลับได้เดือนละ 480 บาท (จากการประเมินค่ากระแสไฟฟ้าที่ ยูนิตละ 4 บาท) หรือ ปีละ 5,760 บาท ทั้งยังเป็นเสมือนสื่อการเรียนการสอนที่ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และเข้าใจวิธีการทำงานของกังหันลม  

 

กระบวนการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมโดยสรุปคือ กังหันลมจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ต้องมีความเร็วลมที่ 2.5 เมตร / วินาที เป็นเวลา 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะผลิตกระแสไฟฟ้า 1,000 วัตต์ จากนั้นจะสะสมกระแสไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ และส่งต่อไปที่เครื่องแปรกระแสไฟฟ้า จากกระแสตรง เป็นกระแสสลับ จ่ายไฟฟ้ากับหลอดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว และเครื่องใช้อุปกรณ์สำนักงานที่แคนนอนจะไปมอบเพิ่มเติมในห้องสมุดพลังงานสีขาว โดยแคนนอน”  

 

ข้อดีของพลังงานที่ได้จากกังหันลมผลิตไฟฟ้าคือ เป็นพลังงานสะอาด ไม่ทิ้งกากและมลภาวะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อหา มีระยะเวลาการให้พลังงาน 15-20 ชั่วโมงในหนึ่งวัน พลังงานลมยังเป็นพลังงานที่ไม่มี วันหมด ใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง ค่าบำรุงรักษาไม่แพง นับเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่ประเทศไทยควรพัฒนาอย่างยั่งยืน 

 

ภายในปี 2551 นี้แคนนอนจะติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้แก่โรงเรียนอีก 2 แห่งในภาคกลางคือ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 70 จังหวัดสมุทรสงคราม และ โรงเรียนเทศบาล 8 สวนสนชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และทุกโรงเรียนที่มีการติดตั้งกังหันลม ทางแคนนอนจะได้เข้าไปปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในห้องสมุด ให้สวยงามมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดหาหนังสือ สื่อการเรียนการสอน และอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานที่จำเป็นติดตั้งให้ด้วย  

 

แคนนอนกำลังสำรวจ เพื่อติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้แก่โรงเรียนในภาคต่างๆ อีก 12 แห่ง ให้แล้วเสร็จภายในปี 2552 รวมทั้งสิ้นเป็น 15 แห่ง ทั้งนี้แคนนอนจะได้ทำการคัดเลือกจากโรงเรียนระดับประถมถึงมัธยมในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนได้เข้าใจเรื่องพลังงานสะอาด พร้อมรณรงค์ให้คนไทยได้ตระหนักและหันมาใช้พลังงานทางเลือก  

 

มุ่งสนับสนุนกิจกรรมสำหรับวงการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง เพราะตระหนักว่าเยาวชนคือบุคลากรที่สำคัญ ในการพัฒนาประเทศ ดังนั้นโครงการพลังงานสีขาว เพื่อโลกสีเขียวเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ เป็นแนวทางในการลดภาวะโลกร้อน และสนับสนุนให้เยาวชนได้ตระหนักและศึกษาเรื่องพลังงานสะอาด อีกทั้งโรงเรียนที่ได้รับการติดตั้งกังหันลมเหล่านั้นยังเป็นแหล่งศึกษาเรื่องพลังงานทางเลือกสำหรับชุมชนอีกด้วยนายสมเกียรติกล่าวสรุป 

 

 

หมายเลขบันทึก: 236185เขียนเมื่อ 20 มกราคม 2009 02:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน 2012 10:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ที่นำมาแบ่งปัน

และขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่ทุกฝ่ายร่วมกันทำ

พลังงานจาก ลม และแสงแดด

เป็นแหล่งพลังงานสะอาด ที่ไม่มีวันหมด

และอยู่คู่โลกนี้มานาน

ดีครับที่หันมาให้ความสำคัญ กับ แหล่งพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน

เคยได้ข่าวเกี่ยวกับคนไทยคนหนึ่ง

ที่สนใจ วิจัย พัฒนา เรื่อง กังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า

รู้สึกจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ ม.บูรพา (ถ้าจำไม่ผิด)

รัฐฯ น่าจะส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการแลกเปลี่ยน เรียนรู้

องค์ความรู้ระหว่างคนไทย กับ บ.แคนนอน

เพื่อการพัฒนาที่ยิ่งๆ ขึ้นไป

น่าจะได้ประโยชน์กับทุกฝ่ายครับ

โครงการประกวดออกแบบสิ่งประดิษฐ์กังหันลมเทคโนโลยีลมต่ำเพื่อการสูบน้ำ ขยายเวลารับสมัคร ถึงวันที่ 30พ.ย.57
ดาวน์โหลดใบสมัคร ได้ที่ www.chai

ผมเองครับ ตอนนี้ลาออกจากราชการแล้ว


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท