ฉันไม่ใช่ชาวนาอรหันต์ ฉันไม่ใช่เกษตรอินทรีย์
แต่เป็นเกษตรที่คอยรับใช้เศรษฐกิจทุนนิยมโดยแท้ ๆ
จึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะไม่ปลูกพืชเศรษฐกิจนิยม
แล้วคุณว่าฉันผิดหรือไม่???
เพียงอยากสะท้อนเสียงจากมุมหนึ่ง
ในฐานะผู้ลงมือปฏิบัติจนมองเห็นปัญหา
ที่ไร่บนโคกสูง ที่นาขาดแหล่งน้ำ
ทำได้เพียงแค่คอยฟ้า รอฝน
ต้นทุนที่มีก็น้อยนิด จึงต้องหยิบยืมมาทำกิน
โง่เขลา เบาปัญญา ยิ่งนัก
จึงดิ้นไม่หลุดจากวงล้อเศรษฐกิจเสรีนิยม
????
ม่านหมอกท้องฟ้าพอเพียง
ตราบใดที่กระแสทุนนิยมที่ผูกขาดยังคงไหลรี่เข้ามาไม่รู้จบ
เบี้ยที่ถูกเดินหน้าให้ถูกกินเรียบก็คือเกษตรกร
ณ วันที่ผมบันทึก เป็นวันนี้ท้องฟ้าครึมฟ้าครึมฝนในยามหน้าแล้ง
จึงอดคิดที่จะเปรียบเทียบบรรยากาศอย่างนี้กับชีวิตชาวไร่ชาวนาไม่ได้
เหมือนชีวิตการทำเกษตรมันไม่เคยสดใสได้นานสักกะที
ทุกข์ทั้งกายทุกข์ทั้งใจ มีบ้างในบางวันต้องนั่งเมากลึม ๆ
พอให้ได้นั้งทอดอารมณ์ปล่อยความคิดให้ลอยล่องไปในยามค่ำ
เฝ้าคิดวนเวียนล่องลอยอยู่ในจิต เพียงปัญหาสองอย่างคือ
1. คิดถึงปัญหาในอาชีพที่ทำ
คือการคิดถึงปัญหาจากปีที่ผ่านมาและคิดเพื่อที่จะหาทางแก้ไขในปีต่อไป
2. ปัญหาที่ต้องแบกรับภาระของผู้นำครอบครัว
เพราะทุกชีวิตในครอบครัวต้องกินต้องใช้และอยู่ให้ได้ในสังคม
ทุกสังคมย่อมมีการแข่งขัน สังคมในเมืองหรือสังคมในชนบทจึงไม่แตกต่าง
นับวันความเป็นอยู่ของเกษตรกร จึงต้องดิ้นร้นแข่งขันกันให้มากขึ้น
**************
ภาระผูกพัน
ครั้นคิดจะห้ามลูกไม่ให้เรียนก็คงจะไม่ดีนัก
เงินที่ส่งไปให้จะไม่พอใช้บ้างหรือป่าวก็ยังไม่รู้
หวังที่จะเห็นลูกเป็นเจ้าคนนายคนนั้นคงไม่คาดหวัง
ความรู้ความสามารถที่เล่าเรียนไปจะเก่งกาจสู้เขาได้แค่ไหนก็ยังไม่รู้
ครั้นจะบังคับไม่ให้ลูกเรียนเพื่อให้มาทำนาอย่างพ่อก็คงทำไม่ลง
เพราะอาชีพอย่างพ่อมันทุกข์หนักทั้งกายและใจ
ไม่มีความเห็น