ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ครับ
สองสามวันก่อน..ฉันได้รับการบ้านจากพี่เซ็กซี่ เธอส่งแผ่นหนังดีวีดีมาให้ และทั้งๆ ที่ฉันเคยกำชับว่าไม่สันทัดกรณีกับหนังจีนรวมไปถึงแปลเพลงจีนไม่เป็น เธอก็ไม่สนใจแถมยังบอกว่า.. "พี่เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ต้อมก็แค่หาเวลาดูหนัง..ฟังเพลง แล้วเขียนตามความรู้สึกของตัวเองเท่านั้นเอง" ในตอนนั้นเธออุบไว้ไม่ยอมบอกชื่อเรื่อง พอแกะซองที่เดินทางมาถึงก็ร้องอ้าวเลย เป็นหนังรักโรแมนติกที่อยู่ในใจของใครต่อใครหลายคน (รวมทั้งฉันด้วย) นั่นคือ Comrades : Almost a Love story 3650 วัน รักเธอคนเดียว หรือที่ใครๆ รู้จักกันในชื่อ "เถียนมีมี่" และในกล่องหนังดีวีดีมีกระดาษ post it สีม่วงแผ่นเล็กๆ ที่เขียนด้วยลายมือคุ้นตาแปะไว้ ก็นี่ล่ะ..มันเป็นเหตุผลที่ฉันต้องทำการบ้านชิ้นนี้ เพราะพี่เซ็กซี่เป็นพี่สาวที่ฉันรักนี่นา ตรงมุมกระดาษแผ่นสุดท้ายเขียนไว้ว่า.. "งานเสร็จมา..รางวัลไป"
ค.ศ.1986 หลี่เสี่ยวจิน (รับบทโดย หลี่หมิง) หนุ่มคนซื่อที่มาจากเทียนซิน..แผ่นดินใหญ่ มีความตั้งใจที่จะมาทำงานเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อจะได้มีเงินกลับไปแต่งงานกับแฟนสาวที่ชื่อ "เสี่ยวถิง" ที่รออยู่บ้านนอก เขาเขียนจดหมายถึงแฟนสาวสม่ำเสมอเพื่อเล่าความเป็นไปของเขาในเมืองใหญ่ ต่อมาเขาได้เจอกับหลี่เฉียว (รับบทโดย จางมั่นอวี้) ผู้หญิงที่ทำงานและหาเงินเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิมเมื่อตอนที่เขาไปต่อคิวซื้อแมคโดนัลด์เป็นครั้งแรกในชีวิต แล้วมิตรภาพระหว่างเขากับเธอก็เริ่มต้นขึ้น...
เมื่อต้องจากแผ่นดินใหญ่มาแสวงโชคโชคในฮ่องกงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งผู้คน..สำเนียงภาษา..และวิถีชีวิต ทั้งเขาและเธอก็อยากจะมีใครสักคนอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ฉันชอบตอนที่เขากับเธอนั่งคุยกัน แล้วเขาก็บอกว่าจริงๆ แล้วก็รู้ว่าเธอมาจากแผ่นดินใหญ่เช่นเดียวกับเขา และก็ยังหลอกเขาตั้งหลายเรื่อง
เขา : จะหลอกผมอีกนานเท่าใด?
เธอ : ทำไมคุณไม่หยุดฉันล่ะ รู้แล้วก็ยังให้หลอกอีก
เขา : ถึงคุณหลอก..ผมก็ยอมให้หลอก เพราะกลัวคุณไม่ยอมคบผมไง นอกจากนี้..ผมก็ไม่มีอะไรจะทำด้วย ผมไม่อยากเสียเพื่อนเพียงคนเดียวที่มีในฮ่องกงไป"
เธอ : จริงๆ แล้วคุณก็เป็นเพื่อนคนเดียวของฉันเช่นกัน
ช่วงเทศกาลตรุษจีน วันหนึ่งที่หลี่เสี่ยวจินไปช่วยหลี่เฉียวขายเทปเพลงของเติ้งลี่จวิน เพราะฟ้าฝนที่กระหน่ำตกลงมาก็เลยทำให้ขายเทปเพลงไม่ได้เลย รวมทั้งในเมืองใหญ่อย่างฮ่องกงนั้น..การที่ใครสักคนจะฟังเพลงของเติ้งลี่จวินก็จะถูกมองว่ามาจากแผ่นดินใหญ่ที่เปรียบเสมือนบ้านนอก เมื่อกลับไปทานมื้อค่ำที่ห้องพักของเขา..พวกเขาได้ปล่อยให้หัวใจเพริ่ดไปกับความต้องการของตัวเอง แล้วในวันต่อมา เมื่อมีโอกาสเขาก็แวะไปหาเธอถึงที่ทำงาน
เขา : ผมไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับเรื่องเมื่อคืน?
เธอ : เมื่อคืน..ก็ฝนตกฟ้าคะนองไง คนเหงาสองคนมาเจอกัน มาแบ่งปันความอบอุ่นให้กันและกันแค่นั้นเอง อืม..โทรกลับบ้านหรือยัง?
เขา : โทรแล้ว
เธอ : กลับบ้านไปนอนพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้คุณต้องทำงานแต่เช้านี่
ค.ศ.1987 หลี่เสี่ยวจินเริ่มใช้ชีวิตและมีความสัมพันธ์ร่วมกับหลี่เฉียวมากขึ้นในขณะที่การเขียนจดหมายถึงแฟนสาวก็ห่างหายไปบ้าง เขาได้งานใหม่เป็นพ่อครัวฝึกหัดและมีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่ฝ่ายหลี่เฉียวเองก็ประสบปัญหาเมื่อหุ้นตกและเงินเก็บหมดไป เธอไปทำงานนวดเพื่อต้องการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง และที่นั่นเธอได้เจอกับ "พี่เป้า" มาเฟียใหญ่ที่มาใช้บริการ และด้วยความปากกล้าและถ้อยคำพูดตรงๆ ของเธอทำให้มาเฟียรายนี้เอ็นดูเธอมิใช่น้อย
วันหนึ่งหลี่เสี่ยวจินชวนหลี่เฉียวไปเลือกหาซื้อสร้อยแขนให้แฟนสาวในร้านหรู เขาซื้อสร้อยสองเส้น เส้นหนึ่งมอบให้เสี่ยวถิง อีกเส้นนั้นมอบให้เธอ
เธอ : คุณให้ของที่เหมือนกันกับผู้หญิงสองคนได้ยังไง เสี่ยวถิงกับฉันไม่เหมือนกัน เธอเป็นแฟนคุณ..แต่ฉันเป็นแค่เพื่อน ใช่..เราเคยนอนด้วยกัน แต่ว่าอีกเส้นให้เธอ..เส้นนี้ให้ฉัน หมายความว่าไง
เธอขอให้เขาทบทวนความสัมพันธ์ที่มี และบอกให้เขาอย่าลืมเป้าหมายของตัวเองที่อุตส่าห์มาจากแผ่นดินใหญ่เพื่ออะไร ถ้าวันหนึ่งแฟนสาวเขารู้จะต้องเสียใจ และเขาก็คงจะต้องรู้สึกไม่ดีหากแฟนเขาเองก็มีใครอยู่เหมือนเช่นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาเช่นกัน
ค.ศ.1990 หลีเสี่ยวจินทำงานเก็บเงินจนสามารถพาเสี่ยวถิงมาอยู่ในฮ่องกงได้ และจัดงานแต่งงาน หลี่เฉียวมาแสดงความยินดีกับเขาในฐานะเพื่อน (เธอแต่งงานกับพี่เป้าที่เป็นหัวหน้ามาเฟียเช่นกัน) ความเป็นอยู่ของเธอก็ดีขึ้น เธอเปิดร้านสตูดิโอสำหรับงานแต่งงาน และเมื่อทราบว่าแฟนสาวของเขายังไม่สามารถหางานทำได้ในเมืองใหญ่ก็ช่วยจัดการเป็นธุระให้เป็นครูสอนเต้นบัลเล่ต์ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง
วันหนึ่ง..หลังจากที่ส่งแฟนสาวของเขาไปทำงาน เธอก็ขับรถโดยมีเขานั่งอยู่ข้างๆ มาเรื่อยๆ มีเพียงเสียงเพลง Goodbye my love ของนักร้องคนโปรดของทั้งคู่เปิดคลอเบาๆ โดยไม่มีเสียงสนทนาใดๆ แล้วพอสายตาของเขาก็มองไปเห็นเติ้งลี่จวินกำลังแจกลายเซ็นต์อยู่ข้างถนนก็รีบเปิดประตูวิ่งลงไปขอลายเซ็นต์เหมือนเด็กน้อย เธอยิ้มและมองตามไปด้วยสายตาที่แสนเศร้า..นั่นคือ "ผู้ชายที่เธอรักและผูกพัน" พอเขาเดินกลับมาหา..เธอก็ตัดใจบอกให้เขากลับบ้านเองและบอกว่าตัวเองมีธุระจะรีบไปทำ เมื่อเขาเดินจากไป..เธอก็ได้แต่มองตามไปด้วยนัยน์ตาที่ปวดร้าว แต่พอเขาหันกลับมามองที่เธออีกครั้ง..โลกทั้งใบก็เหมือนมีแค่เขากับเธอ เขาเดินกลับมาหาเธอและมอบจุมพิตแสนหวานให้โดยไม่สนใจผู้คนมากมายและการจราจรอันวุ่นวายรอบๆ ตัว พวกเขาพ่ายแพ้ต่อความรู้สึกของตัวเอง แล้วจะทำอย่างไรต่อไป..ในเมื่อต่างคนก็ต่างมีครอบครัวแล้ว
หลังจากออกมาจากโรงแรม เขาเดินมาส่งเธอถึงหน้าบ้าน และเธอพบว่า "พี่เป้า" กำลังถูกตำรวจตามจับตัวและจะต้องหนีออกไปจากเกาะฮ่องกง เธอโทรตามหาลูกน้องคนสนิทของสามีจนเจอและขอร้องให้เขาพาไปเจอสามี หลี่เสี่ยวจินตามไปเป็นเพื่อนเธอที่ท่าเรือ เธอบอกขอให้เขารอเธอ..เธอจะกลับมา แต่แล้วเมื่อเธอได้เจอกับสามี เธอก็ทิ้งเขาไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าพี่เป้าจะแกล้งตวาดใส่เธอและขับไสไล่ส่งเธอด้วยคำพูดแรงๆ
สามี : เด็กโง่ มีผู้ชายหน้าตาดีๆ กว่าฉันตั้งเยอะ.. กลับไปบ้าน อาบน้ำนอน ตื่นเช้ามาก็ออกไปหาผู้ชายดีๆ ซะ
ฝ่ายหลี่เสี่ยวจินที่รอเธอท่ามกลางฝนตก.. เมื่อแน่ใจว่าเธอไม่กลับมาอีกแล้วก็กลับบ้านและบอกความจริงเรื่องระหว่างเขากับหลี่เฉียวให้แฟนสาวรู้ พวกเขาหย่ากันในที่สุด และเมื่อป้าโรซี่ของเขาตายโดยทิ้งมรดกจำนวนหนึ่งให้เขา หลี่เสี่ยวจินได้มอบมรดกนั้นให้กับแฟนสาว
ค.ศ.1993 หลี่เสี่ยวจินไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกา เขาทำงานเป็นพ่อครัวกับเจ้านายเก่าที่เคยรับเขาเข้าทำงานเป็นพ่อครัวฝึกหัดเมื่อครั้งที่อยู่ที่ฮ่องกงอีกครั้ง ฝ่ายหลี่เฉียวกับสามีก็หนีตำรวจมาอาศัยอยู่อเมริกาเช่นกันด้วยความบังเอิญ ระยะเวลาเกือบสองปี..เธอกับพี่เป้าย้ายที่อยู่มาได้หกเมือง
วันหนึ่งที่เธอกับพี่เป้าออกมาซักผ้าที่ตู้หยอดเหรียญ พี่เป้ารอเธออยู่ที่ข้างนอกและระหว่างนั้นก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นผิวสีทำร้ายและยิงตาย ระหว่างที่ต้องยืนยันศพในโรงพยาบาลนั้น เธอขอให้เจ้าหน้าที่พลิกศพเขาดูรอยสักข้างหลัง ที่นั่นมีรูปรอยสักมิกกี้เม้าส์ตัวเล็กๆ อยู่ท่ามกลางรอยสักมากมายที่มีอยู่เดิม พี่เป้าสักมิกกี้เม้าส์ตัวนี้เพื่อต้องการเรียกรอยยิ้มจากเธอเมื่อตอนที่ได้เจอกันช่วงแรกๆ ฉากนี้เป็นฉากเศร้าสะเทือนใจธรรมดาของใครๆ แต่ไม่ใช่ฉัน..เพราะฉันรู้สึกเศร้ามาก
ระหว่างที่นั่งรถไปกับเจ้าหน้าที่ หลี่เฉียวเห็นหลังผู้ชายคนหนึ่งขี่จักรยานส่งอาหารในเมืองใหญ่และทันใดนั้นเองเธอก็เปิดประตูรถวิ่งตามเขาออกไปท่ามกลางการจราจรคับคั่งของเมืองนิวยอร์ก เธอเรียกชื่อเขา..ซึ่งไม่ได้ยินเสียงเรียกหาของเธอ
ค.ศ.1995 หลี่เฉียวได้กรีนการ์ดและทำงานเป็นไกด์ ส่วนหลี่เสี่ยวจินก็กำลังทำกิจการร้านอาหารร่วมกับเจ้านายเก่าไปได้ด้วยดี และท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองนิวยอร์ก..เขาและเธอต่างก็เดินไปตามถนนเสมือนขาดชีวิตจิตใจ ชีวิตที่มีแต่ความเหงาและโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ที่ทุกอย่างต้องรีบเร่งและแข่งกับเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข่าวการตายของนักร้องสาวเติ้งลี่จวินได้แพร่สะพัด ทั้งช่องข่าวจากโทรทัศน์และวิทยุก็ล้วนแต่พูดถึงเธอคนนี้ เสียงเพลงของเติ้งลี่จวินดังในทุกหนแห่งที่มีประชากรชาวจีนอาศัยอยู่ หลี่เฉียวเดินไปหยุดอยู่ที่ร้านขายโทรทัศน์เก่าๆ แห่งหนึ่งและหันไปมองข่าวในจอโทรทัศน์อย่างตั้งใจ นักร้องคนโปรดของเธอกับเขา เป็นเวลาเดียวกันกับที่หลี่เสี่ยวจินก็เดินมาจากอีกทางและหยุดดูข่าวนักร้องสาวที่เคยขับขาน "บทเพลงของเรา".. เสียงเพลงดึงดูดให้เขากลับสู่ห้วงความรู้สึกที่มีใครอีกคนซุกซ่อนอยู่ในหัวใจเสมอมา
เมื่อหลี่เฉียวหันหน้าออกจากร้านนั้นเพื่อที่จะเดินต่อ.... ทันใดนั้นเธอก็ชะงักกับภาพของอดีตคนรักที่ยืนอยู่ตรงเบื้องหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาก็รู้สึกตัวและมองไปยังสายตาอีกคู่นั้นเช่นกัน ราวกับจะไม่เชื่อว่าภาพที่เห็นตรงหน้านี้คือความจริง หลังจากที่พลัดพรากจากกันมานานหลายปี สายตาที่มีแต่ความคิดถึงและโหยหา ในที่สุด..คนรักก็มายืนอยู่ตรงหน้า
จากนั้น ภาพย้อนไปให้คนดูได้เห็นจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ.1986 อีกครั้ง ว่าจริงๆ แล้วทั้งเขาและเธอก็บังเอิญนั่งรถไฟจากแผ่นดินใหญ่มาเกาะฮ่องกงในเที่ยวเดียวกัน นั่งที่นั่งติดๆ กัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตลอดระยะเวลากว่า 3650 วันนั้นเป็นปฏิหาริย์ที่ซาบซึ้งตรึงใจ นับจากจุดเริ่มต้น..ความรู้สึกผูกพัน..รักกัน และเมื่อต้องพลัดพรากจากกันไกล ในที่สุด.. "คนที่ใช่" ก็มายืนอยู่ตรงหน้า
เมื่อได้รัก "ใครคนหนึ่ง" เราอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเพราะเหตุผลมากมาย ไม่สำคัญว่า..เราจะอยู่ไกลกันสักเพียงไหน ฉันอาจจะเอื้อมมือไปไขว่คว้าเธอไม่ได้ แต่ก็รู้ว่าในหัวใจมีเธออยู่เสมอ เธอยังอยู่ตรงนั้น..ก็เหมือนกันที่มีฉันอยู่ตรงนี้ จริงหรือที่ความรักก่อให้เกิดปฏิหาริย์ และจากภาพยนต์เรื่องนี้..ฉันก็ยังมีความหวังว่าสักวันหนึ่งคนที่ฉันรักจะกลับมายืนอยู่ตรงหน้าบ้างเหมือนกัน
ภาพยนต์เรื่องนี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนต์หนังรักโรแมนติกที่หวานซึ้งตรึงใจชาวจีน เป็นผลงานเด่นของ ปีเตอร์ ชาน ผู้กำกับภาพยนต์ชาวฮ่องกง และเรื่องนี้ได้รางวัลตุ๊กตาทองในเทศกาลภาพยนต์ฮ่องกง (Hongkong Directors Guild) ครั้งที่ 16 จำนวน 9 รางวัล ได้แก่.. Best Picture / Best Director / Best Actress / Best Supporting Actor / Best Screenplay / Best Cinematography / Best Art Direction / Best Art Direction / Best Costume Design / Best Original Music Score
เติ้งลี่จวิน.. เจ้าของบทเพลงประกอบภาพยนต์เรื่องนี้
รายละเอียดของหนังเรื่องนี้มีความหมายมาก ทั้งดารานำแสดง เนื้อเรื่อง และเพลงประกอบที่ขับร้องโดย เติ้งลี่จวิน จึงทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้ตราตรึงใจและมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากเป็นพิเศษ จนเพลง "เถียนมีมี่" และเพลง The Moon Represents My Heart เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของภาพยนต์เรื่องนี้เลยทีเดียว ฉันชอบน้ำเสียงและท่วงทำนองบทเพลงของนักร้องสาวคนนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจความหมายตามเนื้อร้องภาษาจีน หากแต่ก็เข้าใจว่า..ต้องมีความหมายที่สวยสดและงดงาม
ขอขอบคุณ youtube ในเพลง เถียนมีมี่
ขอขอบคุณ youtube ในเพลง Goodbye my love
ขอขอบคุณ youtube ในเพลง The Moon Represents My Heart
ขอขอบคุณรูปภาพเติ้งลี่จวินและเนื้อเพลง จาก เวบโอเคเนชั่นดอทเน็ต
ขอขอบคุณภาพประกอบหนัง จาก เวบ http://www.thaidvd.net
ขอขอบคุณพี่เซ็กซี่ที่ทำให้ได้กลับมาชมภาพยนต์รักหวานโรแมนติกเรื่องนี้อีกครั้ง
หนาวมากมาก..ดูแลสุขภาพด้วยจ้าน้องสาว..ง่วงก็พักอย่าฝืนนะจ้ะน้องต้อมคนดี
หนาว..ว..ว มากค่ะ หนาวๆๆ มือต้อมเย็นเฉียบเลย ^^ ขอบพระคุณนะคะที่แวะมาทักทายกันเป็นคนแรกเลย
กำลังจะเข้านอนเหมือนกันค่ะ....อิๆๆ
กอดๆๆๆๆ ก่อน
กอดๆๆ กอดๆๆ แล้วไปเอ่เอ๊กันค่ะ ^^ หนาวมากๆๆ หนาวเสียยิ่งกว่าตอนเราไปนอนบนดอยอีกแน่ะ
หนาว..ว..ว มากจริงๆ นะคะ และถ้า "ความอบอุ่น" หาซื้อได้ง่ายๆ ใน 7-11 ก็ดีสิคะ จะได้ซื้อสักโหล ^^
ต้อมไม่อยากเป็นเหมือนในหนังเลยค่ะ ที่กว่าพระเอก-นางเอกจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็ยาวนานหลายปี ฮือๆๆ ต้อมแก่กันพอดีงี้
ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมต้อมค่ะ ^^ ลพบุรียังหนาวเลย แล้วที่ที่ต้อมอยู่นี่จะหนาวขนาดไหม ฮือๆๆ หนาวค่ะ หนาว..ว..ว
น้องจ๊ะ
นึกออกแล้ว เรื่องนี้ เคยดู แต่เฉยๆ มาอ่านเรื่องวิเคราะห์นี้แล้ว เห็นสมควรไม่เฉยๆ ต้องกลับไปค้นหามาดูอีกใช่มั้ย แต่มีความรู้สึกว่าเรื่องมันเดินช้านะ แล้วก็มีความเศร้า(ใจ)ด้วยใช่หรือเปล่า (เมื่อคืนอินเทอร์เน็ตบ้านไม่เป็นใจ เลยไม่ได้อ่านเรื่องใหม่ตั้งแต่เมื่อคืนนิ...)
ก็..เป็นหนังรักโรแมนติกที่เขาว่ากันว่าดีที่สุดอีกเรื่องเลยนะ ^^ สำหรับน้องจ๊ะน่ะ ชอบตรงที่..ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แล้วจากตรงนี้ไปของพวกเขาก็จะมีแต่ความสุขไง
จะดูไหม? จะส่งไปให้ดู สนใจป่าวจ๊ะ?
..ผู้หญิงที่ทำงานและหาเงินเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิมเมื่อตอนที่เขาไปต่อคิวซื้อแมคโดนัลด์เป็นครั้งแรก แล้วมิตรภาพระหว่างเขากับเธอก็เริ่มต้นขึ้น...
อืมม์...เอ๊..!!!....ไปยืนต่อคิวซื้อไก่ผู้พันอยู่บ่อยๆ ไม่เห็นว่าจะเป็นเหมือนในหนังเลย...
อิๆๆ
นึกออกแล้วจ๊ะ เรื่องนี้มีให้บริการที่ทำงานพี่ด้วยล่ะ แต่ป่านนี้วีซีดีคงเยินหมดแล้ว เพราะเอาต้นฉบับออกบริการ แถมมันนานเกิน(ไป)แล้วนิ...
อิจฉาพระเอกเรื่องนี้ไหม อิอิ นางเอกเรื่องนี้สวยเนอะ เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อนะ ยังเขียนไม่จบเลย วุ่นๆ ยุ่งๆ กับงานประจำอยู่ อิอิ
"ข้าวพันธุ์กลมกลิ้ง" ของท่านหัวหน้ากะพี่กั๊ต..ต้อมชิมแล้ว..ว..ว อร่อยๆๆ
รู้แล้วล่ะว่าทำไมไม่เจอเหมือนในหนัง เพราะ "ไก่ผู้พัน" ไม่ใช่แมคโดนัลด์ตามท้องเรื่องนี่ อิอิ พูดงี้ เดี๋ยวมีฟ้อง ผบ.ที่บ้าน มีหวังท่านหัวหน้าอดทั้งปิ่นโตและไก่ผู้พัน
พี่สาวคนนั้นได้รับหนังสือ "เมื่อหมอเป็นมะเร็ง" แล้ว ฝากขอบคุณพี่จ๊ะด้วย ^^ ว่าแต่อยากดูหนังเรื่องนี้ไหม.. น้องจ๊ะมีให้ยืม อิอิ สนใจไหมจ๊ะ?
น้องจ๊ะ
ตามมาอ่านต่อแล้วจ๊ะ.....^^ พี่ไม่ชอบเรื่องเศร้าพลัดพราก มันเศร้าตาม และเหนื่อยกับการดูฉากที่ต้องรอคอย บางตอนมันเงียบๆ เหงาๆ และอึดอัด(ใช่ไหมนะเรื่องนี้นะ...ก็เคยดูตั้งนานมากแล้วนี่นา แต่ยังไม่อยากดูอีกหรอกจ๊ะ ไว้อยากเมื่อไรจะขอยืมนะ)
โมแมนติคจัง...หนาวๆรักษาสุขภาพนะคะ
ว๊า! เราก็อุตส่าห์ตั้งใจเขียน พี่จ๊ะกลับไม่ชอบเสียนี่ T_T ไม่เป็นไร.. งั้นจัดให้การบ้านของพี่จ๊ะ เร็วๆ นี้จ๊ะ
อืม ใช่ หนังเรื่องนี้บางฉากบางตอนมันอึดอัดนะ แต่ดีหน่อยที่ตอนสุดท้าย..ทั้งเขาและเธอก็ได้กลับมาเจอกัน
หง่ะ เศร้าเลย ..
มาเสียค่าปรับและคัดไทยเสียดีๆ คุณครูสอนภาษาอังกฤษนี่นะ ฮึ่มๆๆ โมแมนติคจัง
แอนห่มผ้าหนาๆ นะ จะได้ไม่เป็นหวัด ^^
สวัสดีค่ะ
ตามกลิ่นมา เจอแล้วอยู่นี่เอง
ตามกลิ่นพี่จ๊ะ มาใช่ไหม??????? ต้องใช่แน่ๆ เลย
ช่างเล่าได้ละเอียดดีจริงๆนะคะ
ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าชม สมกับที่ได้หลายรางวัล พี่ไม่ค่อยได้ดูหนังเรื่องๆแบบนี้นัก ดีที่มีคุณต้อมมาเล่าให้ซาบซึ้งค่ะ
พี่เคยฟังเพลงเถียนมีมี่หลายครั้ง เพราะมาก
ปกติต้อมไม่ชอบดูหนังรักเศร้าๆ เพราะไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกหดหู่ เคยดูหนังเรื่องนี้มาบ้าง แต่ในครั้งนี้เป็นไฟล์ทบังคับจากพี่เซ็กซี่ค่ะ เพราะเป็นอีกหนึ่งเรื่องโปรดของเธอ พี่เซ็กซี่เป็นนักดูหนังตัวยง (แผ่นซีดี-ดีวีดี วางกองๆ เต็มฝาห้อง)
ถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่า "พระเอกมีแฟน" มาก่อนที่จะเจอนางเอกแล้วล่ะก็ ต้อมจะชอบมากกว่านี้ค่ะ และที่เล่าเสียละเอียดเพราะพี่เซ็กซี่บอกว่าให้ตั้งใจดู (และมีรางวัลให้..ถ้าเขียนได้ถูกใจเธอ)
เพลงเถียนมีมี่นั้นเป็นฉากที่นางเอกร้องตอนซ้อนท้ายจักรยานพระเอกน่ะค่ะ เป็นฉากที่คุ้นตาใครๆ แต่ต้อมเลือกที่จะไม่เล่าถึง อิอิ
ต้อมชอบเพลงสุดท้ายค่ะ.. ^^ ขอบพระคุณพี่นุชนะคะที่แวะมาตามคำชวน
สวัสดีครับ ผมชอบดูหนังจีนแบบมังกรหยก กำลังภายใน แบบโบราณๆ ขอบคุณที่แวะไปที่บันทึกครับ
ติดตามทริปปายของท่าน ^^ แต่รูปคนข้างๆ ท่านมีให้ดูแค่นิ้ด..ด..ด เดียวเองนะคะ มีแต่รูปน้องๆ อิอิ
ชอบดูมังกรหยกเหมือนกันค่ะ ^^
หา "มังกรหยก" มาดูที่บ้านเร็วๆ เข้า ^^ และต้อมนอนคนเดียวซะที่ไหน มีผ้าห่มตั้ง 6 ผืนแน่ะ ฮึ!
น้องจ๊ะ จ๊ะ
ยังไม่ได้ชมเลยครับ หนูต้อม เนปาลี :)
คิดถึง..ง..ง จริงๆ นะ แต่มีใครบางคนเห็นแก่กินมากกว่าคุยกับน้อง ฮือๆๆ
และ ..ฉันก็ยังมีความหวังว่าสักวันหนึ่งคนที่ฉันรักจะกลับมายืนอยู่ตรงหน้าบ้างเหมือนกัน จริงๆ นะคะ รู้สึกแบบนี้จริงๆ ไม่งั้นก็คง "ไม่โสดเป็นเพื่อนพี่ๆ" อย่างนี้หรอกนะ อิอิ จริงไหม???????
ตามไปปลดล็อกความคิด สู่ชีวิตสดใส และอีกหนึ่งประสบการณ์ ช่วยกันอย่างไรในกรณีจี้จับตัวประกัน รวมไปถึงจะต้องมีการเดิน และกล้วยน้ำหว้า ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ความอ้วนได้เป็นอย่างดี เสียแล้วล่ะมั้งจ๊ะ อิอิ
ว่าแต่ก่อนทานกล้วย ขอทานเค้กก่อนได้หรือเปล่า???????
สนใจชมไหมคะ..มีให้ยืม อิอิ ^^ เช้านี้หนาวสุดๆ ไปเลยค่ะ แถวๆ นี้
น้องจ๊ะ
เลือกระหว่างเค้กและกล้วย ขอเป็นเค้กกล้วยหอมก็แล้วกันนะจ๊ะ เมื่อคืนก่อนไปทานข้าวกับเพื่อน ลูกสาวโทรมาขอให้ซื้อเค้กที่อร่อยมาก(โคตรแพง) ที่ริมปิงสาขาแอร์พอร์ท มัวทานข้าวเพลิน เลยเวลา ร้านปิดไฟแล้ว แต่เคาะเรียก ขอซื้อเค้ก ไม่งั้นพี่คอขาดบาดตายแน่ น้องคนขายก็บอกว่า "เมื่อพี่กล้าขอ ผมก็กล้าขายให้ครับ" เยี่ยมจริงๆ และแล้วก็ได้เค้กไปให้สาวน้อยละลายเรียบในพริบตา 3 ชิ้น 195 บาท โคตรแพงแต่อร่อยอ่ะ (ขอให้นานๆ ซื้อทีก็แล้วกันเนอะ)
น้องต้อมคะ
พี่มาอ่านสองรอบแล้วค่ะ
ชอบหนังเรื่องนี้เช่นกันค่ะ
ถ้าเรารักใครอย่างจริงจัง จริงใจแล้ว....เขื่อไหมคะ เขาไม่เคยห่างหายไปจากใจเราหรอก....
เขาก็คงอยู่ชั่วนิรันดร์....จ้ะ
(^___^)
"เมื่อพี่กล้าขอ ผมก็กล้าขายให้ครับ" << เยี่ยมจริงๆ กับยอดคุณแม่คนนี้ น่าจะถ่ายคลิปตอนทำตาเว้าวอนกับคนขายให้น้องจ๊ะดูด้วย คงจะได้อรรถรสมากกว่านี้
3 ชิ้น/195 บาทเหรอ??????? น่าสนใจ..จองๆๆ ^^
เขื่อไหมคะ << มาให้ปรับเสียดีๆ แวะรับเต่าน้อยไปดูแลด้วย ^^
ค่ะ ถ้าเรารักใครอย่างจริงใจ เธอคนนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน ก็ยังอยู่ "ในหัวใจ" ของเรานี่เอง ^^ ค่ะ..ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ ชอบตรงที่มี "ความรัก" และท้ายที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันครั้ง
คนเหงาย่อมเข้าใจคนเหงา
ช่างหาเวลาส่งบันทึกนี้มาให้อ่านพอเหมาะจริง ๆ นะ
ชอบจัง...ไม่เคยดูเรื่องนี้ แต่น้องเล่ามาเห็นภาพ เห็นบรรยากาศ
แต่ถ้ามาเห็นคนอ่าน...จะเห็นน้ำตาซึมกับความรักที่เป็นอมตะ....
หารักแบบนี้ได้ที่ไหนบ้างเนี่ย....บอกตามคิวนะ...น้าอึ่ง พี่นารี แล้วน้องต้อมทีหลัง เพราะเป็นเด็ก
เดี๋ยวไปหาดูมั่ง.....
ความรักแบบนี้..น่าจะให้คนน้องได้ก่อนนะ เอางี้ดีไหม เรียงตามลำดับ น้องต้อม พี่นารี น้าอึ่ง เพราะเป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง ไหนๆ ก็รอมานาน..รออีกหน่อยจะเป็นไรไป อิอิ
อยากดูเรื่องนี้ไหม?....จะส่งไปให้ดูก็ได้นะ แต่รอต่อคิวเจ้ได้เปล่า? กำลังส่งให้เจ้คนสวยวันนี้น่ะ
น้องตัวกลม
โดนใจจัง....
เมื่อได้รัก "ใครคนหนึ่ง" เราอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเพราะเหตุผลมากมาย ไม่สำคัญว่า..เราจะอยู่ไกลกันสักเพียงไหน ฉันอาจจะเอื้อมมือไปไขว่คว้าเธอไม่ได้ แต่ก็รู้ว่าในหัวใจมีเธออยู่เสมอ เธอยังอยู่ตรงนั้น..ก็เหมือนกันที่มีฉันอยู่ตรงนี้ จริงหรือที่ความรักก่อให้เกิดปฏิหาริย์ และจากภาพยนต์เรื่องนี้..ฉันก็ยังมีความหวังว่าสักวันหนึ่งคนที่ฉันรักจะกลับมายืนอยู่ตรงหน้าบ้างเหมือนกัน ...
สบายดีมั๊ย...^๐^
เย้ๆๆ พี่ยาหยีกลับมาแล้ว ^^ คิดถึงจัง..แต่ไม่ได้โทรหาเพราะช่วงนี้เข้าสู่โหมดประหยัดตังค์ อิอิ กอดหน่อย วันนี้ so seng มากเลย
อืมนะ ชอบทั้งหมดที่พี่ยาหยียกมานั่นล่ะ รู้ไหมว่าเพราะอะไร? เพราะรู้สึกแบบนั้น..จึงเขียนออกมาจากใจไงล่ะ เฮ้..ว่าแต่พี่ยาหยีรอใครเหรอ??????? อิอิ
มาส่งหนมค่ะ น้องสาว
น้องจ๊ะ
อย่าเซ็งมากเลย ชีวิตก็เป็นแบบนี้นะ พี่ก็เฮ้อแล้วก็ยิ้มแล้วก็เฮ้อ อ่านเมลไปแล้วก็อึ้งออกอาการ สะดุด แต่----แล้วก็เฮ้อ ๆ ๆ
ไปนั่งชิงช้า กันดีกว่า จะได้หายเซ็ง
ขนมน่าทานจังค่ะ ^^ ฝีมือพี่หนูรีสุดยอดไปเลย ต้อมอยากทำขนมเก่งมั่งจังค่ะ ว่าแต่ "กรอบเค็มเคลือบคาราเมล" ยังไม่ลืมนะคะ อิอิ
สะดุดเพราะใครอ่ะ?....ถ้าเป็นฝีมือน้องจ๊ะล่ะก็ขอโทษ งั้นจะนั่งเฮ้อๆๆ เป็นเพื่อนนะจ๊ะ
บ่ต้องมาแซวต้อมเลย ก่อต้อมเป๋นคนโรแมนติกนี่เจ้า ^^ ความรู้สึกหวานๆ ก่อต้องเขียนออกมาหวานๆ ก่อคงเหมือนอา(จารย์)จ๊ะนั่นล่ะเนอะ ตี้ดูหนังไปก่อกึ้ดหื้อตั๋วเก่าเป๋นนางเอกในเรื่อง อิอิ
หนังเรื่องนี้ทำหื้อหลายๆ คนมีความหวังเจ้า ว่า..สักวันหนึ่ง คนตี้เคยฮักกั๋นจะกลับมายืนอยู่ตรงหน้า รวมทั้งต้อมโตยเจ้า
บันทึกนี้สมควรได้รางวัลนักๆ ก่อเจ้า ^^
น้องจ๊ะ จ๊ะ
ไปดูที่นี่กัน ศาสตร์ดูดวงตำราอียิปต์โบราณ - เทพเจ้าอียิปต์ 11 องค์ ว่าตรงไหม ยกเว้นอยู่สองสามบรรทัดสุดท้ายนะ...
อ.ขจิตมาฟ้องพี่ที่บันทึกแล้วชิงช้านะจ๊ะ...
หวัดดีจ้ะน้องต้อม
แวะมาดูหนังรอบดึกด้วยคน อิอิ...ฝันดีนะจ้ะ คิดถึงนะ
สวัสดีเจ้าคุณต้อม เฮ้อ พี่ไม่ได้ปฏิบัตฺธรรมดังตั้งใจ แผนต่างๆที่วางไว้ก็ต้องพลิกผันหมด บุญมีแค่ครึ่งทาง ตอนอยู่เชียงใหม่ก็ไม่สบายแทบทุกวัน เลยไม่อยากโทรหา ทำอะไรที่ง่ายๆเท่าที่ทำได้ค่ะ
ยังไม่เห็นมีบันทึกใหม่ หวังว่าคงแค่งานยุ่ง แต่สบายดีนะคะ
เมื่อไรจะกลับมานะ...
หวัดดีจ้ะ...น้องต้อม
หายเงียบไปเลยนะจ้ะ...คิดถึงนะ...ขอให้มีความสุขกับทุก ๆ วัน จ้ะน้องสาว
หายไปนานเลยเพราะติดภารกิจยุ่งๆ และอารมณ์แปรปรวนค่ะ ^^ แต่ระลึกถึงพี่ๆ เหมือนเดิม อิอิ
ตำแหน่ง..ยุวฑูตตัวกลมดีเด่น ประจำปี 2551 มีรางวัลเป็นขนมฮื้อก่อเจ้า??????? ถ้ามี..ก็ขอฮับตำแหน่งนี้ในปีต่อๆ ไปโตย อิอิ
วันนี้วันหยุด จะดูหนังเรื่องอะไรคะ? ดูเผื่อต้อมบ้างเน้อ ^^
สวัสดีปี๋ใหม่เมืองล่วงหน้านะเจ้า ^^
สวัสดีปี๋ใหม่เมือง ขอให้มีสุขภาพดีตลอดปีและตลอดไปนะคะ
ถ้าวันนี้ไม่ยุ่งๆ จะขึ้นบันทึกเพลงหวานๆ ให้ได้อ่านกันค่ะ ^^ คิดถึงพี่นุชมาก..ก..ก เพราะไม่ได้คุยกันนานเลยนะคะ
ความรักเกิดขึ้นได้ทุกวันนะคะ ^^ ขอบคุณที่แวะมาทักทายกัน
คิดถึงจัง คิดถึงมาก..ก..ก ^^ จะได้เจอพี่หล้าแล้วๆๆ ตื่นเต้นๆๆ และเชียงใหม่ร้อนมากๆๆ
ที่เชียงใหม่ร้อนมากๆๆ ค่ะ ร้อนจน..ต้อมอยากจะเป็นบ้าเชียวนะเนี่ย อิอิ ^^
ที่กรุงเทพฯ ตอนนี้ไม่ค่อยร้อน ที่เชียงใหม่ มีคนเพิ่งกลับมา เขาว่า ร้อนพอดูเชียว ใช่ไหมคะ
ที่เชียงใหม่ร้อนสุดๆ ไปเลยค่ะ แต่ค่อยยังชั่วที่เมื่อวานตอนค่ำๆ ฝนตกให้ดินเปียกๆ ได้มั่ง ไม่งั้นคงจะร้อนอบอ้าวมากกว่านี้
สวัสดี ครับ คุณเนปาลี
วันนี้ มานั่งดูหนัง ซะที...
เผื่อความคิด ดี ดี จะผุดเข้ามาในชีวิต บ้าง
คุณ เนปาลี สบายดี นะครับ
สวัสดีปี๋ใหม่นะเจ้า ^^ ขอฮื้อมีความสุขนักๆ คิดเงินฮื้อได้เงิน คิดทองฮื้อได้ทองเน้อ อ้าย
ต้อมสบายดีค่ะ วันหยุดนี้ใช้เวลาอยู่กับหนังสือกองโตๆค่ะ ^^