ขออนุญาติยกเอาปรัชญาการทำงานของครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ แห่งสำนักมหาชีวาลัยอีสานและคณะผู้ริเริ่มและพัฒนากระบวนการเฮฮาศาสตร์ ขึ้นมาโปรยที่หัวบันทึกเพื่อให้ตนเองระลึงถึงการทำงานในช่วงที่ผ่าน ครูบาฯมักสอนเสมอในการทำงานหากจะต้องรอให้พร้อมคงไม่ได้ทำอะไรกันแน่ ดังนั้นการทำงานบนฐานความไม่พร้อมจึงเป็นโจทย์สำคัญในการทำงานของคน เพราะไม่มีอะไรพร้อมไปซะทุกอย่างในโลก
ช่วงที่ผ่านมาสาละวนอยู่กับการทำบ้านหลังใหม่ ตามที่เคยเล่าไปแล้ว ว่าจะใช้เป็นที่อยู่ที่กินที่หลับที่นอนที่ทำงาน ที่พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลใหม่ เก่า สำหรับคนที่สนใจงานพัฒนาผ้าทอและเรื่องศิลปวัฒนธรรมของอีสานและที่อื่น ๆ
(สภาพบ้านเก่าในซอยหน้าเมือง 11 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนการบูรณะและซ่อมแซม เป็นบ้านเก่าสองชั้น ชั้นบนทำด้วยไม้แต่ผุมาก ส่วนด้านล่างก่อปูนและร้าวไปมากเช่นกัน)
(สภาพการแต่งแต้มสีเพื่อขับให้บ้านมีสีสัน ได้เพื่อน ๆ ที่ทำงานตกแต่งมาช่วยออกไอเดียและความคิดจนกระทั่งออกมาเป็นบ้านหลังน้อย ที่รอคอยท่านมาเยี่ยมเยือน)
แต่การทำงานก็ไม่ได้พร้อมเท่าไหร่นักเพราะว่า มันไม่พร้อมโดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ แต่หากมันไม่เริ่มมันก็จะไม่ได้ทำ จึงเริ่มซะเลย ซึ่งการทำงานเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็คลานเป็นเต่าด้วยเหตุผลที่ว่าไปก่อนหน้า เพราะงานบูรณะซ่อมเซมบ้านเก่าเอามาปัดฝุ่นใหม่มันก็เหนื่อยพอตัวและใช้งบประมาณเอามาก
เพื่อน ๆ ที่เคยทำบ้านมักบอกผมเสมอว่าเวลาทำบ้าน มันจะบาน และตามมาด้วยอาการบ้า อิอิอิ หากครบสูตรตามนี้มีหลังต้องพึ่งจิตแพทย์กันแน่ แต่ดีที่ยังคงกำคาถาของครูบาฯ ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ ให้ขึ้นใจและให้ขึ้นใจ
บ้านหลังนี้ อยู่ซอยหน้าเมือง 11 (อยู่ตรงไหนหว่า..??)
นึกไม่ออก
ไว้เสร็จแล้ว จะได้แวะไปเยี่ยม อิอิ
หลังนี้รึเปล่าที่ อ.ออตจะทำมิวเซียม
พี่บัวปริ่มน้ำครับ
อาจารย์พิมล
เทียนน้อย
สวัสดีครับ
เสร็จแล้วอย่าลืมบอกนะครับ ;)
สวยงามมากแล้วจะไปเยี่ยมนะครับ
อาจารย์ธวัชชัย/ครูเสือ
อ.ออต ผมจะทำโครงการบูรณะธรรมาสน์ดังกล่าวแต่จะหาแนวทางบูรณะอย่างไรดี
โดยเฉพาะเรื่องลายและที่เก่า จะคงไว้หรือเขียนใหม่ตามลายเดิม
อาจารย์พิมล
มาแจม
จะให้ช่วยตีปี๊บ หรือเต๊ะปี๊บ ยังไงก็บอกนะครับ อิๆๆๆๆ
อิอิ อ.ธวัชชัยเอาอย่างไงก็ได้ครับ