วันนี้อยากรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ "ภัยพุทธศาสนา" เพราะครูตาลรู้สึกเป็นห่วงและค่อนข้างกังวล ไม่ทราบจะทำให้เพื่อนผองน้องพี่รำคาญใจหรือเปล่า ถ้าหนักไปต้องขออภัย อ่านหรือไม่อ่าน ผ่านได้เลยนะคะบทสนทนา " ภัยพระพุทธศาสนา"กระทู้ธรรม : ข่าวมารศาสนาห่มผ้าเหลือง ที่วัดป่าอุ่มเม่า อุดรธานี หลอกข่มขืนสาวมายาวนานถึง 50 ราย ทำไมเพิ่งถูกจับได้แล้วกลายเป็นข่าว เพราะชาวพุทธเราไม่เอาธุระกับกิจการพระศาสนา ทั้งพระเณรคนรอบวัดก็ต้องรู้มาก่อน ผิดชัดเจนอย่างนี้ ไม่ใช่เป็นแค่อลัชชี ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุด ผิดเรื่องไหนต้องไม่ละเว้น ทำให้เป็นตัวอย่างเหลือบศาสนาจะได้ลดน้อยลง ในสังคมมีทั้งดีและคนเลวปะปนกัน ต้องคัดแยกคนเลวออกไปให้ไกลศาสนา ปกป้องรักษาคนดีอย่าให้มีใครทำลาย หน้าที่เราชาวพุทธความคิดเห็น |
ความคิดเห็น โดยคุณ รัชดาวัลย์ จันทวงศ์ |
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 |
ตามที่ตั้งกระทู้มานั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น จริง ๆ แล้วในความเป็นจริงยังมีอีกมาก อย่างที่วัดใกล้บ้าน พระมีอะไร ๆ กับสีกา จนมีลูก ชาวบ้านก็รู้ทุกคนก็รู้ ในวงการพระเขาก็รู้ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรเลย ได้แต่นั่งนินทา เสวนากันในหมู่พวกของตน หรือที่โต๊ะน้ำชา จนลูกจะเข้าโรงเรียนแล้ว ท่านถึงได้สึกออกมา ถามว่าผู้หญิงที่เข้าไปมีสัมพันธ์กับพระถึงในวัด เขาทำได้อย่างไร ถ้าคนมีจิตสำนึกดีคงทำไม่ได้ ขนาดเดินสวนกับพระยังระวังตัวแทบแย่กลัวจะโดนท่าน ต้องเป็นผู้หญิงที่จิตวิปลาสจริง ๆ |
ความคิดเห็น โดยคุณ วิโรจน์ พูลสุข |
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 |
พวกอาศัยผ้าเหลืองทั้งหลายไม่ควรใช้คำว่าพระ ต้องเรียกว่า "มารศาสนา" ช่วยกันทำหน้าที่สอดส่องอย่าให้มารพวกนี้มาย่ำยีศาสนาอีกเลย คนไม่ดีอยู่ที่ไหนก็ทำให้เสื่อม ยิ่งถ้ารู้อย่างคุณรัชดาวัลย์ ให้แจ้งเจ้าคณะปกครองรีบตรวจสอบโดยด่วน ผอ.สำนักพุทธจังหวัด หน้าที่พุทธบริษัททุกคน อย่าปล่อยให้กรรมตามทัน ศาสนาจะเสื่อมสูญ ที่สำคัญ!! ต้องระวังเรื่องการกลั่นแกล้งทำลาย พระดีต้องไม่ถูกกลั่นแกล้งรังแก ถ้าเราช่วยกันไม่นาน "มารศาสนา"จะถูกกระชากหน้ากากให้เห็นธาตุแท้ |
ความคิดเห็น โดยคุณ รัขดาวัลย์ จันทวงศ์ |
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 |
ตอนแรกไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ เห็นเค้าพูดกันก็ไม่สนใจ เพราะไม่ชอบอยู่ในวงสนทนา ด้วยความบังเอิญที่ผู้หญิงคนนั้น เข้ามาเป็นครูจ้างสอนที่โรงเรียน และสามีของเขาซึ่งเป็นเจ้าอาวาสมาก่อน(ตอนนี้สึกแล้ว)เข้ามาช่วยฝึกวอลเลย์บอล จึงได้ทราบเรื่องทั้งหมด รับไม่ได้ก็ต้องยอมรับ ไม่อยากโกรธ เกลียดใครให้ใจเป็นทุกข์ ถ้าหากทราบเรื่องก่อนก็ไม่กล้าทำอะไรอยู่ดี ผู้หญิงตัวคนเดียว ที่มาอยู่ต่างถิ่น ไม่มีศัตรูเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เรื่องภัยศาสนามีมาก แต่ถ้าพูดบ่อย ๆ ก็ไม่ดี เหมือนโปรโมทความชั่ว ช่วยกันเผยแพร่พระดี ๆ ดีกว่ามั้ยคะ |
ความคิดเห็น โดยคุณ วิโรจน์ พูลสุข |
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 |
เมื่อหยิกเล็บต้องเจ็บเนื้อธรรมดา
|
ความคิดเห็น โดยคุณ รัขดาวัลย์ จันทวงศ์ |
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 |
"ปราชญ์เมธีมีปัญญาถ้าจริงใจ"
|
ความคิดเห็น โดยคุณ วิโรจน์ พูลสุข |
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551 |
"ปราชญ์เมธีมีปัญญาถ้าจริงใจ"
|
เจริญพร โยมครูตาล
สมัยที่อาตมายังเป็นพระบวชใหม่ต้องเรียนปริยัติธรรมมีพระอาจารย์
ท่านเป็นพระเถระอาวุโสได้พูดย้ำอยู่เสมอว่า เป็นพระต้องระวังเรื่อง
2 ส.คือ "สตรีและสตางค์" พระทุกรูปต้องระวังเรื่อง 2 ส.นี้ให้จงหนัก
ตลอดแห่งความเป็นพระ อย่าให้พลาดเป็นอันขาด ต้องมีสติระลึกอยู่
เสมอว่าขณะนี้ตัวเรามีเพศต่างจากฆราวาสแล้ว การเป็นพระนั้น
ต้องเป็นทั้งกาย วาจา ใจ และพระทุกรูปมีกฏหมายบังคับ
อยู่ถึง 4 อย่างคือ กฏหมายพระวินัย กฏหมายบ้านเมือง กฏหมาย
มหาเถรสมาคม และกฏหมายสังคม(โลกวัชชะ) ซึ่งหนักหนาสาหัส
มากโยมครู
เจริญพร
เจริญพร โยมครูตาล
สนิมเกิดแต่เนื้อในตน ถูกต้องโยมครูภัยที่ใหญ่ยิ่งคือภัยภายในนั่นเอง
เพราะองค์กรสงฆ์อ่อนแอ หย่อนยาน ในทุกระบบขาดการปฏิรูปให้
ทันโลก ส่วนที่โยมครูว่า"การเอาพระทำผิดมาเป็นข่าวทางสื่อ เป็นการ
ย่ำยีทางอ้อมอย่างหนึ่ง" ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแต่มีคู่กันมาตลอด
มีดี ก็มีชั่ว มีรวย ก็มีจนฯลฯ
เจริญพร
อันบุญนั้นควรทำตามศรัทธา... ฉลองพัดยศนั้นหนาอย่าสับสน
ล้วนกิเลสเหตุไม่เหมาะเพราะเรื่องคน... พระหลุดพ้นสรรเสริญเจริญพร
ยศมีได้เสื่อมได้ไม่หมกหมุ่น... เจ้าประคุณทั้งหลายได้สังหรณ์
รู้ปล่อยวางล้างใจให้สังวรณ์... พิจารณาดูก่อนไม่ร้อนใจ
ทำบุญไซร้ให้ท่านทำกับผู้เหมาะ.... งามจำเพาะบริสุทธิ์ผุดผ่องใส
ใช่ทำบุญกับโจรบาปหยาบหัวใจ... เหมือนเราให้อาวุธร้ายทำลายคน
ขอบคุณท่านวิโรจน์ได้โปรดเสริม ขยายเพิ่มที่ ♥< lovefull >♥นั้นสงสัย
อย่างท่านว่านั้นจริงทุกสิ่งไป ยศมีได้เสื่อมได้อย่างใฝ่ปอง
ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา เป็นหน้่าที่ของชาวพุทธทุกคน
แต่น่าเสียใจที่โพลสำรวจเด็กไทย ผลสำรวจอออกมาว่า กิจกรรมที่น่าเบื่อคือกิจกรรม ทางด้านศาสนา
แวะมาทักทายค่ะพี่ครูตาล
ช่วงนี้งานยุ่งๆ ก็หายไป
งาน ok บ้างแล้ว
ก็เลยมารายงานตัวค่ะ
เรื่องเชิดชูปกป้องพระพุทธศาสนา เป็นหน้าที่ของทุกคนที่พึงตระหนักค่ะ
ขอบคุณพี่ครูตาล..กับข้อคิดดีๆ
มีความสุข...เสมอๆนะคะ
เคยเห็นคนที่อาศัยผ้าเหลืองเรี่ยไรเงิน...เราเองก็งง..จริงหรือปลอมตรวจสอบอย่างไร
แต่ดูอย่างไรก็เห็นว่าไม่มีความเหมาะสมเลยในการกระทำเช่นนั้น...พระพุทธศาสนาจะด้อยก็เพราะคนที่อาศัยผ้าเหลืองทำในทางที่ไม่ถูกนี่ล่ะนะคะ..เศร้าใจในหลายเรื่อง
เรื่องเชิดชูปกป้องพระพุทธศาสนา เป็นหน้าที่ของทุกคนที่พึงตระหนักค่ะ
มีคนเคยบอกครูตาลว่า หน้าที่ชาวพุทธที่ควรกระทำคือ 1.เรียนรู้ศึกษาธรรม 2. นำไปปฏิบัติให้รู้จริง 3.เผยแผ่สิ่งที่รู้ให้ผู้อื่นมีโอกาสเห็นธรรม 4.อุปถัมย์คุ้มครองป้องกันรักษาพระพุทธศาสนา ถ้าพุทธบริษัททำได้อน่างนี้ ชาวพุทธที่ดีจะมีมากขึ้นๆ ไม่ช้าไม่นานผู้ที่รับมรดกพระพุทธศาสนาไปสืบสาน จะสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นทั้ง 3 สถาบัน อย่างสัมพันธ์และเชื่อมโยง ศรัทธาย่อมจักก่อเกิดผลขยายไปสู่คนหมู่มากในเวลาไม่ช้านาน
ครูตาลอยากทำให้ครบทั้ง 4 ข้อนะคะ ตามสติปัญญา และกำลังความสามารถของตัวเองค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์ เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจบ้าง แต่พุทธศาสนาก็ดำรงอยู่มาประมาณ 2600 กว่าปีแล้ว หากชาวพุทธทุกคนช่วยกันก็คงจะช่วยได้ ผมเพิ่งส่งหนังสือของท่านพุทธทาส(ฉบับภาษาอังกฤษ) ให้กับผู้คุ้นเคยกันมา 30 ปี เป็นครอบครัวชาวอเมริกัน เมื่อปีใหม่นี้เอง ครับ
สวัสดีค่ะน้อง
สนิมนั้นเกิดจากเนื้อในตน.... พุทธบริษัททุกคนสนหน่อยหนา
โลกาภิวัฒน์สื่อสารไวให้นำพา... หากมีใครสร้างปัญหาอันตราย
กว่าสองพันหกร้อยปีที่ว่ามั่น... ปัจจัยนั้นเปลี่ยนแปรและอ่อนไหว
วัตถุนิยมโหมกระหน่ำรุกทำลาย... พุทธชนทั้งหลายให้เท่าทัน
สมมุติสงฆ์คงมีที่ถูกโจทย์... คุณหรือโทษวิเคราะห์ดูรู้สร้างสรรค์
จะขยายความใดๆให้ประมาณ... รู้ยืนยันด้วยวุฒิเท่าที่ควร
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ
ขอขอบคุณบทกวีมาชี้แจ้ง ข้อแสดงแจ้งใจในปัญหา
โลกาภิวัฒน์สื่อสารไวให้นำพา... หากมีใครทราบปัญหาอย่ารอรี
เจอสิ่งใดที่เป็นภัยต่อพระพุทธ อย่านิ่งหยุดนอนใจใช่หน้าที่
ช่วยสอดส่องขจัดไปภัยที่มี แจ้งทันทีไปที่นี่ "be5000"
ขอบคุณค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะ
โจษ หมายถึง พูดกันเซ็งแซ่ เล่าลือกันอื้ออึง
โจทย์ หมายถึง คำถามในวิชาคณิตศาสตร์
โจทก์ หมายถึง ผู้กล่าวหา ผู้ฟ้องความในศาล
แจ้งเพื่อทำความเข้าใจ(ด้วยความเกรงใจ)นะคะ บังเอิญครูตาลกำลังทำ หนังสือการ์ตูน เรื่อง คำพ้องเสียง อยู่พอดีค่ะ เลยกลับไปตรวจสอบว่าที่ครูตาลทำไปถูกต้องแล้วยัง
ขออภัยนะคะ ถ้าเจตนาใช้คำเดิมอยู่แล้ว
ครูตาลครับ ปัจจัยที่ทำให้พระกระทำผิดศีล วินัย นั้นจะไปโทษพระฝ่ายเดียวก็ไม่ใช้ ส่วนประกอบการกระทำผิดนั้นมันยากที่จะแยกออกจน พระจะลืมความผิดชั่ว
แต่สิ่งหนึ่งที่ มหา จะให้ครูตาลเป็นข้อคิด " คนไม่ดีจะอยุ่ในส่วนไหนก็ตามเขาจะมุ้งที่จะกระทำความชั่ว ยิ่งในร่มกาสาวพัตรแล้วมันง่ายต่อการกระทำความผิดที่เป็นภัยต่อพุทธศาสนา
สัวสดีตอนเช้าจ้าพี่ครูตาล....มีความสุขมากมากนะคะ
สวัสดีครับ คุณ รัชดาวัลย์ (ครูตาล)
คำกล่าว"ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์"
บางคนหลงเห็นงามด้วยความเขลา
มิจฉาชีพน่าชังชอบบังเงา
ชาวพุทธเราควรตรองดูรู้เท่าทัน
มีพวกโล้นโกนผมห่มผ้าเหลือง
เดินในเมืองมองเห็นเป็นแฟชั่น
ออกเรี่ยไรได้มาหากินกัน
ทำบุญควรเลือกสรร..ใช้ปัญญา
• เขียนกลอนมาร่วมครับ
• ขอบคุณที่แวะไปอ่าน..และแสดงความคิดเห็นที่บล็อก ครับผม
....................................................................................................
ทำบุญควรเลือกสรร..ใช้ปัญญา
ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบบ....
เรื่องทำนองนี้ มีมาตั้งแต่ครั้นพุทธกาล แต่พระพุทธศาสนาก็เจริญมาได้กว่าสองพันห้าร้อยปี...
เคยมีญาติโยมมาบ่นเรื่องทำนองนี้ให้ฟัง อาตมาก็บอกว่า จัดการเลย ตามที่เห็นสมควร เค้าก็บอกว่า เกรงใจผ้าเหลือง อย่างโน้นอย่างนี้... อาตมาก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็พอ ไม่ต้องพูด ขี้เกียจฟัง...
ปัญหาเรื่องอลัชชีในศาสนา ก็ทำนองเดียวกับปัญหาอื่นๆ เช่น เรื่องนักการเมืองซื้อเสียง หรือเรื่องข้าราชการคอรัปชั่น ฯลฯ... ใครๆ ก็รับรู้ว่ามีจริงและเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง แต่ไม่เห็นว่าจะแก้ปัญหานี้ได้เบ็ดเสร็จ เพียงแต่บางยุคสมัยหรือบางท้องถิ่นอาจมีมาก บางยุคสมัยหรือบางท้องถิ่นอาจมีน้อย เท่านั้น...
ปัญหาว่า ตัวเราเองสนับสนุนสิ่งควรมิควรหรือไม่อย่างไร และตัวเราเองเป็นอย่างไร... ประเด็นนี้น่าจะสำคัญกว่า
เจริญพร
ปัญหาว่า ตัวเราเองสนับสนุนสิ่งควรมิควรหรือไม่อย่างไร และตัวเราเองเป็นอย่างไร... ประเด็นนี้น่าจะสำคัญกว่า
ขอสงวนคำแปรญัตติครับ สุขสันต์วันครูครับ
สวัสดีครับ ป้าครูตาล
พรุ่งนี้ วันครู ขออวยพร ให้ป้าครูตาล สุขสันต์วันครู และทุกๆวันด้วยครับ
มีความสุขมากๆ และมีสุขภาพแข็งแรงนะครับ