เยี่ยมแม่วันปีใหม่ ๒๕๕๒


ไม่เคยเห็นโลกกว้าง คิดว่าที่อื่นๆ ก็คงเหมือนกับที่บ้านเรา

เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒ พวกเราคือพี่สาว ดิฉัน สามี ลูกสาว และลูกเขย ชวนกันไปเยี่ยมแม่ที่บ้านเกิด ตำบลท่าเรือ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ปัจจุบันแม่อยู่กับน้องสาวในละแวกเดียวกับบ้านพี่สาวพี่ชาย และญาติๆ

เราออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถยนต์ Honda Jazz ของลูกสาวเมื่อเที่ยงกว่าแล้ว แวะซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดร้าน "ตุ๋ยเทพา" ภายในหมู่บ้านเสนานิเวศน์ติดรถเอาไว้เป็นเสบียง ออกจากกรุงเทพทางถนนเกษตรนวมินทร์ ผ่านรามอินทรา วงแหวนรอบนอก แล้วเข้าสู่ถนนเลียบคลองรังสิต-นครนายก วันนี้ยังมีรถออกจากกรุงเทพจำนวนค่อนข้างมาก

เราโทรศัพท์บอกน้องสาวเอาไว้แล้ว แต่ไม่ได้บอกแม่ เพราะถ้ารู้ว่าใครจะไปจะมาแม่มักจะกังวลคอยชะเง้อดูถนนว่ามาถึงหรือยัง ไปถึงบ้านแม่เวลาประมาณ ๑๔ น. อากาศสบาย ไม่ร้อนมาก เมื่อไปถึงเราก็ทำเหมือนทุกครั้งคือกินข้าวเหนียวไก่ทอดที่เราซื้อไปเอาแรงไว้ก่อน น้องสาวทอดปลาช่อนเค็มที่ทำเองมาให้สมทบด้วย เอาขนมและของฝากปีใหม่แจกจ่ายให้ญาติพี่น้องใกล้เคียง ส่วนแม่เราเอาเงินให้เก็บไว้ให้อุ่นใจ

ปีนี้แม่มีอายุ ๙๖ ปีแล้ว ช่วยเหลือตัวเองพอได้บ้าง แต่เดินเองไม่คล่องแล้ว ต้องอาศัยไม้เท้า ถ้าไกลหน่อยก็นั่งรถเข็น ความจำดีไม่มีหลงลืม บ่นอยู่เรื่องเดียวว่าตามัว (ต้อกระจก) ตอนอายุ ๙๑ ปี แม่ทำผ่าตัดใหญ่เปลี่ยนลิ้นหัวใจ (Aortic valve) เพราะลิ้นตีบมากจนหัวใจวาย หลังทำผ่าตัดแม่พักอยู่กรุงเทพได้นานหลายเดือน ตอนนั้นหลายคนสงสัยว่าดิฉันคิดอย่างไรจึงให้แม่ทำผ่าตัด แต่มาถึงวันนี้เราดีใจที่ตัดสินใจถูกต้อง เพราะแม่อยู่ได้สบายขึ้นมาก

 

ยายกับหลานสาว

พอแดดอ่อนแสง เราพากันเดินไปดูที่ดินที่เป็นมรดกมาจากพ่อแม่ ต้นกล้วยน้ำว้ายังงามเหมือนทุกปี ออกลูกเป็นเครือใหญ่เกือบทุกกอ มะม่วงเขียวเสวยและน้ำดอกไม้กำลังออกช่อ มะปรางและมะยงชิดที่พี่สาวเพิ่งเอามาปลูกไว้กำลังแตกใบใหม่ อีกไม่นานคงมีลูกให้เห็น

 

มะม่วงกำลังออกช่อ มะปรางแตกยอด ไก่ก็ดูสมบูรณ์ดี <p style="text-align: center;"> </p> <p style="text-align: center;"> </p><table border="0"><tbody><tr>

</tr></tbody></table> ผลไม้ กล้วย มะเฟืองหวาน มะพร้าวน้ำหอม

บัวที่อยู่ในบ่อน้ำออกดอกใหญ่ทีเดียว ปีนี้ไม่มีผักบุ้งเยอะเหมือนปีก่อน มีปลาผุดมาให้เห็นเหมือนกัน

 

บ่อน้ำที่ขุดไว้และดอกบัว

มะพร้าวน้ำหอมที่พี่เขยปลูกไว้ออกลูกทุกต้น เราไม่เคยชิมสักที วันนี้เลยทดลองเด็ดมาชิมดู ช่วยกันเลือกดูว่าลักษณะแบบไหนที่ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป เอาสีเปลือกเป็นหลัก พี่สาวถือมีดติดมือไปด้วย เราเลยได้กินทั้งน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวสดๆ จากต้นไปหลายลูก น้ำมะพร้าวเต็มปริ่มรสจัด เนื้อมะพร้าวอ่อนที่เหนียวๆ หนึบๆ อร่อยมาก วันนั้นเราอิ่มมะพร้าวจนไม่ต้องกินข้าวเย็น เราพบว่ามีมะพร้าวบางลูกเฉาะไปแล้วไม่เจอทั้งน้ำและเนื้อ มีแต่กะลา

 

แบบนี้มะพร้าวสดใหม่แน่ๆ <p style="text-align: left;">สมัยที่เป็นเด็ก ดิฉันจำได้ว่าแถวบ้านปลูกต้นไม้กันไม่กี่อย่าง มะม่วงก็มีแต่พันธุ์พื้นๆ เช่น มะม่วงแก้ว มะม่วงพิมเสน มะม่วงกะล่อน มะยม มะดัน มะกอก กล้วย สัปะรด ในที่ของก๋งและย่าจะมีมะม่วงหิมพานต์ด้วย ของที่เราเอามาปลูกใหม่นี้เดิมไม่เคยมี พี่สาวบอกว่าชาวบ้านเขาว่าปลูกไม่ได้ แม้แต่ต้นมะละกอก็ไม่เคยเห็น ตอนเราเป็นเด็กจึงได้กินแต่ส้มตำกล้วยดิบ ส้มตำลูกยอ ไม่เคยกินส้มตำมะละกอ มะพร้าวก็ไม่มีใครปลูก ต้องซื้อมะพร้าวจากที่อื่นมากิน</p>

ข้าวในนาใกล้ๆ ถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว เราชื่นชมกับทิวทัศน์สวยงามที่มองเห็นภูเขาไกลๆ นกหลายชนิดบินเล่นลม ลมพัดเย็นสบาย ชวนให้คิดถึงชีวิตวัยเด็กที่ตอนนั้นเราไม่รู้จักว่านี่คือความสวยงาม เพราะเราเห็นสภาพแบบนี้ทุกๆ วันไม่เคยเห็นโลกกว้าง คิดว่าที่อื่นๆ ก็คงเหมือนกับที่บ้านเรา

 

ทุ่งนาหลังเกี่ยวข้าวแล้ว

ลูกสาวอยากกินปลาดุกย่าง พอดีวันนั้นมีคนวิดบ่อในนา น้องสาวจึงไปซื้อปลาเขามา ได้ทั้งปลาดุกและปลาช่อน เราจึงทำปลาย่างกัน ส่วนปลาช่อนตัวใหญ่ๆ ที่น้องสาวเตรียมไว้ให้ล่วงหน้า เราหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ทอดสุกไว้ เผื่อเอามาทำแกงส้มหรือต้มกับผักกาดดอง

พี่ชายที่อยู่บ้านใกล้ๆ กันไปเก็บยอดและดอกสะเดามาให้หอบใหญ่ กำลังน่ากินทีเดียว เลยได้ผักมารับประทานกับน้ำพริกและปลาย่างต่อที่กรุงเทพ น้องสาวให้เอาปลาช่อนเค็ม (คงไม่กี่แดด) กลับกรุงเทพมาด้วย ดิฉันล้างน้ำเสียหลายครั้งก่อนหั่นเป็นชิ้นๆ เก็บไว้ในตู้เย็น เมื่อเอามาทอดจึงกรอบอร่อยและไม่เค็มเกินไป

วันขึ้นปีใหม่ได้กลับไปเยี่ยมแม่ สัมผัสธรรมชาติที่ธรรมดา สบายๆ เติมพลังให้ชีวิตได้อีกทางหนึ่ง

วัลลา ตันตโยทัย

หมายเลขบันทึก: 234313เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2009 15:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

แวะมาอุ่นใจ กับคนได้ใกล้แม่ ค่ะ

คุณแม่อายุยืนนะคะ  หน้าตายังสดใส 

ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของท่านพี่ตลอดไปนะคะ

บ้านอาจารย์น่าอยู่จังค่ะ คุณแม่ก็ดูสดชื่น แข็งแรง นะคะ

อ่านแล้วชื่นใจ สดชื่นกับบรรยากาศเหมือนได้ไปกับอาจารย์เลยค่ะ นุชว่าสงบกว่าบ้านริมแม่น้ำอีกนะคะ ชอบที่เป็นทุ่งท้องนา มีสระน้ำ มีบัว มีที่ปลูกต้นไม้ ผลไม้มากมาย

ครอบครัวอบอุ่นนี่สำคัญมากเลยนะคะ คุณแม่อาจารย์ท่านอายุยืนคงเพราะอารมณ์ดี อยู่ในที่ปลอดมลพิษ

ช่วงนี้ที่บ้านมีแต่กล้วย ท่าน้ำเพิ่งปรับดินเตรียมลงผักต่างๆหลังน้ำลดค่ะ รออาจารย์ไปแวะจะได้เลี้ยงกุ้งแม่น้ำเผาค่ะ ท่าทางจะยากเพราะเห็นงานที่อาจารย์ทำมากมาย Wonder Woman ค่ะ ^___^

อ่านบันทึกนี้ของอาจารย์แล้ว อดที่จะเขียนตอบอาจารย์ไม่ได้

เพราะสัมผัสถึงความอบอุ่นใจและความสุขที่อาจารย์บันทึกอย่างบอกไม่ถูก

พลอยรู้สึกอบอุ่นใจไปด้วย

...และนึกได้ว่า

ความสุข ไม่ได้หาได้ยาก ไม่จำเป็นต้องขวนขวาย ค้นหามากมาย

ความสุข อยู่ที่เรา ...อยู่ที่เราจะมองสิ่งนั่นอย่างไร ...มองว่านั้นมีคุณค่า มีความหมายต่อชีวิตเรา มองตามความเป็นจริง เราก็ย่อมมีความสุข

ขอบพระคุณอาจารย์มากที่อาจารย์ได้แบ่งปันความสุขให้...ขอบพระคุณคะ

น้องเม

ขอบคุณ คุณ phayorm น้องเต้าเจี้ยว อาจารย์นุช และน้องเม ที่แวะมาอ่าน ดีใจที่มีส่วนได้แบ่งปันความสุขค่ะ

ที่บ้าน (นครนายก) ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากจากสมัยที่ยังเป็นเด็ก เดิมไม่มีถนน ไม่มีไฟฟ้า เวลาจะเข้าเมืองหน้าแล้งต้องเดินหรือดีหน่อยก็ขี่จักรยาน หน้าน้ำต้องใช้เรือค่ะ ตอนนี้มีถนนไปถึงที่บ้านเลย มีไฟฟ้า ทุกบ้านมีทีวี ตู้เย็น ใช้ pump น้ำ ไม่ต้องไปตักน้ำ-หาบน้ำเหมือนก่อน ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ใช้เตาก๊าซ แต่ที่บ้านน้องสาวยังเผาถ่านใช้เองอยู่บ้าง

ดูเหมือนจะดีขึ้นนะคะ แต่จริงๆ แล้วรู้สึกเสียดายวิถีชีวิตของชาวชนบทไทย

คุณแม่อายุยืน

ขอชื่นชมนะคะที่ท่านสุขภาพดีแข็งแรง

ลุกหลานดุแลเอาใจใส่ดี

อาจารย์เล่า เมื่อเจอกันวันที่ประชุมที่กรุงเทพ ว่าไปเยี่ยมแม่ที่นครนายกมา ได้กินมะพร้าวน้ำหอม

เห็นภาพในบันทึก ไม่เหมือนที่จินตนาการบ้านอาจารย์ไว้เลยครับ ไม่นึกว่าจะเป็นบ้านสวน นึกว่าบ้านที่มีต้นมะพร้าวปลูกประดับไว้ ต้น สองต้น ประมาณนั้นครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท