Real Life Formulae


เพื่อนๆครับ...

ผมลองตัดเอาส่วนหนึ่งของเอกสารประกอบการสอนนิสิตแพทย์ปี 2 ที่ผมกำลังเขียนอยู่มาแชร์ให้กันดู เผื่อใครจะมีข้อแนะนำ ปรับปรุงแก้ไข เขียนไปเขียนมา ก็นึกกลัวว่าจะโดนอาจารย์อาวุโสมองว่า "มันเขียนอะไรของมันวะเนี่ย..."

น้องๆ ที่รัก

 

เบื่อไหมครับ กับการที่ต้องนั่งฟังบรรยายในวิชาต่างๆ ที่หลายครั้งเราไม่ชอบ ไม่อยาก แต่ต้องทำ ต้องสอบ จะได้จบเป็นหมอได้ตามที่ตัวเรา หรือผู้ปกครองต้องการ?

 

เปล่าหรอกครับ พี่ไม่คิดว่าเราจะแก้ไขอะไรได้มากนักหรอก เพราะขั้นตอนดังกล่าวอาจจะอยู่นอกเหนือกรอบที่เราจะพึงกระทำได้  J

 

วิธีที่ดีที่สุด ก็คือพยายามปรับตัวให้เข้ากับระบบ กระบวนการ หรือสถานการณ์ต่างๆที่เป็นไป และ/หรือเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลานั่นเอง...

 

ลองทำใจให้รู้สึกรักและสนุกกับแต่ละสิ่ง มีความสุขกับสิ่งที่เราคิดว่าน่าเบื่อ หรือหากทำไม่ได้ ก็ลองคิดว่า หากเราไม่ฝืนทำไป อาจทำให้เราต้องขลุกกับสิ่งนั้นๆ นานกว่าที่คิดก็ได้  เพราะในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้ ในชีวิตที่น้องต้องไปปฏิบัติงานในที่ต่างๆ ยังมีอีกหลากหลายสิ่งที่อาจทำให้เราได้รับความรู้สึกแรกที่หนักหนาสาหัสกว่านี้อีกหลายเท่าตัวนัก...

 

หากน้องๆ บางคนเคยอ่านหนังสือดังเล่มหนึ่งชื่อ “The Last Lecture” โดยศาสตราจารย์แรนดี้ เพาซ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ด้าน Computer Science ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา น้องอาจจำได้ว่าเขาเชื่อว่า

 ความโชคดี (Luck) = โอกาส (Opportunity) + การเตรียมตัว (Preparation)”

 

จากประสบการณ์ของพี่ พี่คิดว่าจริงๆ แล้วสรุปได้ดังนี้ครับ

  1. Capability or Competency = f(Basics, Performance)
  2. Luck = f(Opportunity, Preparation)
  3. Success = f(Capability, Luck)

 

ทั้งนี้เพราะว่าเราจะเห็นว่าปรากฏการณ์ต่างๆ ที่พบเห็นส่วนใหญ่ไม่ได้มีลักษณะความสัมพันธ์แบบ linear ฉนั้นเราจึงใส่ความสัมพันธ์เป็นแบบฟังค์ชั่นโดยระบุถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องไว้ในวงเล็บ J

 

สิ่งที่พี่อยากจะสื่อให้น้องๆ ทราบก็คือ เราแต่ละคนล้วนมีความสามารถหรือคุณสมบัติอยู่ในตัว (Basics) แต่บางครั้งคนอื่นๆ อาจไม่ได้มองเห็นเนื่องจากเราไม่ได้แสดงออกมา (Performance) หรือลักษณะการแสดงออก (Performance pattern/behavior) ของเราอาจไม่ได้ตรงกับที่คนอื่นๆ ชอบหรือคาดหวังเอาไว้

 

นอกจากนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนล้วนอยากประสบความสำเร็จ หากเราจับสองประเด็นมายำรวมกัน จะพบว่า

  1. หากเราสามารถวิเคราะห์ได้ว่า เรามีคุณสมบัติส่วนตัวอย่างไร มีทักษะอะไร ชอบอะไร และพยายามควบคุมการแสดงออกให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย เราก็น่าจะสามารถการันตีการประเมินความสามารถของเราได้ระดับหนึ่ง
  2. หากเรามีการเตรียมตัว ฝึกฝนทักษะนั้นๆ อย่างสม่ำเสมอ (Preparation) ยามที่โอกาสมาเยือน เราก็จะสามารถพร้อมที่จะคว้าโอกาสนั้นมาเป็นโชคของเราได้อย่างง่ายดาย นั่นคือการันตีความโชคดีได้ระดับหนึ่ง ซึ่งโดยแท้จริงแล้วการได้รับโอกาส (Opportunity) นั้นมีสองแบบครับ คือรอให้โอกาสมาหาเรา กับพยายามไปหาโอกาส หากเรารออย่างเดียว เปอร์เซ็นต์สะสมที่เราจะได้โอกาสอยู่ในมือก็จะน้อยกว่าการพยายามไปหาโอกาสเพื่มเติมอีกด้วย

 

ดังนั้น หากน้องๆ สามารถควบคุมทั้งปัจจัยด้านระดับความสามารถ และโชค ได้แล้ว ย่อมน่าจะมีโอกาสที่น้องจะประสบผลสำเร็จทั้งในการดำเนินชีวิต การทำงาน และทุกๆ เรื่องได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่หากเราไม่พยายามทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆดังกล่าว เราก็อาจจะเผชิญกับความล้มเหลว โดยเราอาจจะโทษว่า โชคไม่เข้าข้างเลย”…

คำสำคัญ (Tags): #real life formulae
หมายเลขบันทึก: 234254เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2009 10:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 04:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ตามมาสวัสดีปีใหม่ครับ
  • ปกติใช้ข้อสุดท้ายมากกว่าข้ออื่นครับ
  • ความโชคดี (Luck) = โอกาส (Opportunity) + การเตรียมตัว (Preparation)”

ชอบเหมือน อขจิตเลย

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท