เช้าวันหนึ่ง นักศึกษาเตรียมฉีดยาละลายลิ่มเลือดเข้าชั้นใต้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องของคนไข้รายหนึ่ง หลังจากตรวจสอบความเข้าใจยาที่ฉีด และขั้นตอนในการฉีดกับนักศึกษาเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาปฏิบัติจริง
ไปถึงที่เตียง ก็ปิดม่าน เพื่อป้องกันการเปิดเผยร่างกายของคนไข้ต่อสาธารณะ ขณะเดียวกันลดความประหม่าของนักศึกษา หลังจัดท่าเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเปิดท้องฉีดยา ตกใจทำไมท้องคนไข้ลายจังเลย มีรอยพลาสเตอร์อยู่เต็ม เลยขออนุญาติลบลายหน้าท้องให้คุณลุงก่อน "หนูไม่คิดตังค์ ไม่ต้องใช้ศัลยกรรมตกแต่ง" แล้วหันบอกให้นักศึกษาให้เอาน้ำยาอะซิโตนมาเช็ดลบท้องลาย ลุงหัวเราะฮึ ฮึ บอกลุงแก่แล้ว ท้องลายไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่หนุ่มๆที
เด็กๆ เอาไม้พันสำลีชุบน้ำยา ยื่นให้ ครูก็รับมาเช็ดให้คนไข้ เช็ดได้ 2 ครั้ง ไม้พันสำลีหัก ไม่เป็นไร เอาอันใหม่อีก เช็ดอีก 2 ครั้ง ก็หักอีก ครูเลยอุทานเป็นอัตโนมัติ “ไม้พันสำลีเดี๋ยวนี้ทำไมหักง่ายจัง” ...และในทันทีเหมือนกันที่นึกได้ “ไม่ใช่สิ สงสัยครูมือหนักไป ขอโทษนะคะคุณลุง ถ้าหนูมือหนัก” ลุงนอนฟังอยู่ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บอก “ยอดเลยอาจารย์ เก่งมาก ไม้มันอยู่ของมันเฉยๆ หรอก ลุงไม่เจ็บไหร่ ทำไปเลย...” พูดไปหัวเราะไป แล้วยอมให้เราเช็ดรอยพลาสเตอร์ต่อ ...
จริงของลุง......เรามักจะตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและมองไปที่สิ่งนอกตัวก่อน แบบรำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง...จริงๆ แล้วตัวเราเองทั้งนั้นเป็นต้นเหตุของสิ่งทั้งปวง...ขอบคุณคุณลุงที่เตือนสติ และไม้พันสำลีที่ให้บทเรียน...
ไม่มีความเห็น