ตอนเรียนหนังสือ พวกวิดวะสว่น่ใหญ่ ไม่ค่อยสนใจภาษาอังกฤษครับ
อาจเป็นเพราะว่า ต้องเรียนด้วย Text book อยู่แล้วมัง เลยคิดว่าภาษาอังกฤษไม่จำเป็นต้องเรียนเพิ่ม
ที่จริง เรื่องความรู้ในการอ่าน กับความรู้ในการติดต่อสื่อสารมันคนละเรื่องกันครับ
สมัยก่อน internet ยังไม่มี โอกาสใช้ภาษาอังกฤษยิ่งน้อย ยกเว้นจะมีแฟนเป็นฝรั่ง
ดังนั้น วิศวะส่วนใหญ่เลยมาพลาดท่าเสียทีตอนทำงานนี่แหล่ะ
...
การสื่อสารได้กับชาวต่างประเทศ ถือว่าสำคัญครับ โดยเฉพาะ งานที่ต้องติดต่อกับชาวต่างชาติ
การที่พูดไม่ออก ฟังไม่ทัน เนี่ยสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง...
บางคนฟอร์มดี เวลาฝรั่งคุย ก็ พยักหน้าหงีกหงัก ตอบ เยสๆ โนๆ ตลอด
พอเจอคำถามปลายเปิด ประเภทที่ต้องแสดงความคิดเห็น ...ทีนี้ละเป็นอันเดี้ยง
ให้ดีฝึกพูดฝึกฟังไว้ ช่วยชีวิตได้ ในบางเวลาทีเดียว
...
หลายคนใช้วิธีไม่รายงานครับ พอติดต่อกับต่างชาติทีไร ความคืบหน้าจะหายไปด้วย
เรียกว่าตามกำลังที่มี...
ต้องติดตามถามไถ่บ่อยๆ ... โดนกลอนสดเข้า ก็อธิบายได้ไม่ค่อยถูกเพราะไม่ได้เตรียมมา
ถ้าอย่างนี้เรียกว่า โคม่า แล้ว ต้องรีบบำบัดโดยด่วน
ไม่งั้น นอกจากเสียงาน แล้ว จะเสียผู้เสียคนไปอีก เพราะ ส่งประเภท Cap ไม่ถึงไปทำ
...
เมื่อก่อนเดายากครับ ว่า คนไหนได้ไม่ได้เรื่องภาษา
เดี๋ยวนี้ดีหน่อย เวลารับสมัครเค้าให้ไปสอบ Toeic กันเลย ทีนี้ ของจริงล่ะครับ
บางคนฟอร์มดีดี คะแนนออกมาจิ๊ดเดียว ส่วนบางทีพวกเงียบๆ มาสูงลิ่วก็มี ... อย่างนี้เรียกน้ำนิ่งไหลลึก
บางที่บริษัทจับไปสอบปัดฝุ่นกันทุกปี กระตุ้นได้หลายแรงม้าทีเดียว
ใครได้อยู่บริษัทแบบนั้นก็โชคดีไป ต้องรีบฉวยโอกาสฝึกภาษาให้เก่งซะ
ไม่งั้น เจอฝรั่ง เค้าเจรจามา โต้กลับไม่ได้
จะเสียโอกาสงามซะเปล่าๆ....
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ลองเข้าเวปบล็อกของ อ.ขจิต ชื่อบล็อก บันทึกโดยอ.ขจิต
ปีใหม่ขอให้โชคดีมีความสุขค่ะ
happy new year 2009 khun Pong
สุขสันต์วันศกใหม่ครับ
ทำไมเจ้าของบ้านเงียบจังค่ะ