ตลอดหนึ่งอาทิตย์จวบจนอาทิตย์ ผมมีโอกาสได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆมากมาย ด้วยกับการเดินทางโดยรถส่วนตัวเป็นครั้งแรกจาก ลังกาสุกะ(ปัตตานี) ไปดินแดนมรกตภาคมต้ (กระบี่) สู่พระนคร(กรุงเทพฯ) ในตอนนี้ ได้ผ่านพบวิถีชีวิตมากมาย หลากหลายรสชาติ เพื่อนรักสมัยเรียนได้เดินทางขับรถจากพระนครมารับที่กระบี่เพื่อรับขึ้นกรุงเทพฯ ตลอดหนึ่งอาทิตย์เต็มๆที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อทำหน้าที่ กับงานที่ต้องการอยากให้ก่อเกิด และใฝ่ฝันอยากที่จะช่วยเหลือใครอีกหลายคน ทำให้ผมได้ลิ้มรสชาติของคำว่าความสุข ความสวยงามอย่างเต็มอิ่ม มิตรภาพ กับ ภาพแห่งมิตรของผู้คนคือความหมายของคำว่า "ชีวิต" ในอีกรูปแบบหนึ่ง
การเดินทางร่วมเกือบสิบชั่วโมงเมื่อวานมาถึงกรุงเทพฯ สี่ทุ่ม ทำให้ผมรู้เลยว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่เราต้องทำและใช้ชีวิตเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอีกมากมาย หลายต่อหลายครั้งที่ท้อกับการทำงาน แต่บางอย่างก็ร่วมสานกำลังใจให้เราก้าวเดินต่อไป จะมีใครสักกี่คนที่รับรู้และยอมรับเรื่องราวจริงๆของการศึกษาเยาวชนในพื้นที่ วิถีชีวิตที่เขาควรจะเป็น
มาถึงพระนครก็เริ่มงานประสานกับฝ่ายต่างๆที่ได้ติดต่อไว้ (หลายคนคงสงสัยเอะมันทำอะไรอยู่) อีกไม่นานครับ เด็กอย่างผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่า ความเมตตาจากพระเจ้าคือความเชื่อที่เป็นสัจธรรมหากเราไม่ท้อไปเสียก่อน
ผู้ใหญ่หลายท่านอาจหลับหูหลับตา มองหาแต่การเอาตัวรอดของตัวเองไปวันๆๆ มิหนำซ้ำยังซ้ำเติมกระแนะกระแหน แม้ไม่เคยได้มองเห็นมัน สุดยอดจริงๆผู้ใหญ่บางคนที่ผมพบเจอ อย่าให้เผลอนะครับ เพราะหมัดฮุกของเสียเล็กๆ อาจทำให้คุณลุ้นจนวินาทีสุดท้ายว่าคน "มองคนผิดแล้ว" วัลลอฮฺอะลัม
คงจะได้กลับเข้าทำหน้าที่ยังมาตุภูมิ อาทิตย์หน้า เพราะคงต้องอยู่พระนครยาวถึงอาทิตย์หน้า เพราะจะต้องอยู่ร่วมงานเปิดตัวหนังสือ "บันทึกเรื่องเล่าจากคนต่างถิ่น" ในงานมหกรรมหนังสือมุสลิมครั้งที่ ๓ ณ ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย กทม. ครับ ยังไงก็ฝากเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
คิดถึงโต๊ะทำงานจัง...หากนั่งอยู่กับโต๊ะทำงานเฉยๆแล้วไม่เกิดประโยชน์กับใคร สู้มองหาโลกกว้างข้างหน้าดีกว่าไหม เผื่อใครๆจะได้สะท้อนค่าความเป็นมือบนของเราอย่างสมภาคภูมิ (ซ้อมๆไว้ก่อนครับเผื่ออาจคิดถึงมันยาว...อิอิ)
ตามมาให้กำลังใจ ดีใจด้วยครับที่มีหนังสือออกมาแล้ว