หลักพัฒนาการของเด็กปฐมวัย...
พัฒนาการ
(Development) หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างของร่างกายและแบบแผนของร่างกายทุกส่วน
การเปลี่ยนแปลงนี้จะก้าวหน้าไปเรื่อยๆเป็นขั้นตอน
จากระยะหนึ่งไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้เด็กมีลักษณะและความสามารถใหม่ๆ
เกิดขึ้น ซึ่งมีผลทำให้เจริญก้าวหน้าตามลำดับทั้งทางด้านร่างกาย
อารมณ์ สังคมและสติปัญญา (สุชา จันทน์เอม ,2542 : 40 )
พัฒนาการของเด็กปฐมวัยเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวเด็กอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์มารดา
จนกระทั่งเข้าสู่อายุ 3-6 ปี
ซึ่งมีลักษณะพิเศษกว่าประสบการณ์ในช่วงวัยอื่น
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ
ด้านที่เกิดขึ้นอย่างผสมผสานในช่วงเวลาเดียวกันและสามารถสังเกตเห็นลักษณะการเปลี่ย
การเปลี่ยนแปลงช้า เร็วแตกต่างกัน
แต่ส่วนมากแล้วพฤติกรรมก็มักจะเป็นไปตามแบบแผนและมีรูปแ
บบทิศทางเดียวกัน หลักพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
สามารถแบ่งออกเป็นประเด็นต่างๆ โดยยึดหลักของพัฒนาการมนุษย์
ดังนี้
1.1 องค์ประกอบของพัฒนาการ
พัฒนาการของเด็กปฐมวัยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ขององค์ประกอบสำคัญ 2
อย่าง คือ
1.1.1 วุฒิภาวะ (Maturation) หมายถึง
สภาวะการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เกิดขึ้นถึงระดับการแสดงศักยภาพที่มีอยู่ภายในตัวเด็กแต่ละคน
ในระยะใดระยะหนึ่งที่กำหนดตามวิถีทางของธรรมชาติ
และนำมาซึ่งความสามารถกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เหมาะสมกับวัย
ศักยภาพที่เด็กแสดงออกมาในเวลาอันสมควรนี้
หรือที่เรียกว่าระดับวุฒิภาวะ (Maturity)
มีอยู่ในตัวเด็กตั้งแต่กำเนิดและถูกกำหนดโดยพันธุกรรมด้วยเหตุนี้ระดับวุฒิภาวะของเด็กที่จะแสดงความสามารถอย่างเดียวกัน
อาจแสดงออกมาในช่วงเวลาที่ต่างกันได้ เช่น
โดยทั่วไปเด็กจะวาดรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้ ประมาณอายุ 4 ปี
เด็กบางคนอาจจะทำได้เร็วหรือช้ากว่าเกณฑ์นี้
ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อมือ
และความสัมพันธ์ของมือและตา
รวมทั้งทักษะการรับรู้เกี่ยวกับรูปร่าง
1.1.2 การเรียนรู้ (Learning) หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมซึ่งเป็นผลจากประสบการณ์ที่ดีรับ
หรือจากการปฏิบัติ อบรมสั่งสอน
และการปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความต้องการและความสนใจของเด็ก
ทำให้ความสามารถต่างๆ ของเด็กถูกนำออกมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
ทั้งนี้การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยมีขอบเขตจำกัดทั้งช่วงเวลา
ความสนใจที่สั้นและเนื้อหาที่เป็นรูปธรรม
ตลอดจนวิธีการเรียนรู้ในรูปแบบของการเล่น ที่เด็กได้ลงมือกระทำ
ศึกษาค้นคว้า
สำรวจสิ่งรอบตัวตามความพอใจของตนเองและเก็บสะสมเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล
เช่น เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีหนังสือนิทานและของเล่น
รวมทั้งมีผู้ปกครองที่เอาใจใส่เล่านิทานหรือแนะนำการอ่าน
มักจะเรียนรู้การอ่านได้อย่างรวดเร็ว
กว่าเด็กที่ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร พัฒนาการของเด็กปฐมวัย
เป็นผลของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างวุฒิภาวะและการเรียนรู้ กล่าวคือ
วุฒิภาวะมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับการเรียนรู้
ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง
ความสามารถบางอย่างอาจไม่เกิดขึ้นหรือเกิดช้ากว่าที่ควรได้ เช่น
ความสามารถในการใช้ภาษา เด็กที่มีวุฒิภาวะในการพูด
จะสามารถเปล่งเสียงพูดออกมาได้เอง
แต่ถ้าไม่ได้รับการสอนภาษาพูดก็จะใช้ภาษาพูดไม่ได้เลย ในทางตรงกันข้าม
เด็กที่ยังไม่บรรลุวุฒิภาวะในการพูด
ถึงแม้ว่าจะได้รับการเคี่ยวเข็ญฝึกภาษาพูดมากสักเพียงใด
ก็ไม่อาจพูดได้ ถ้าเด็กยังไม่พัฒนาถึงวุฒิภาวะนั้น
จึงเห็นได้ว่าเด็กแต่ละคนมีศักยภาพในการพัฒนาตนเองตามกำหนดเวลาเฉพาะของพัฒนาการนั้นๆ
โดยธรรมชาติ
อันก่อความสามารถในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นไปตามขั้นตอนของพัฒนาการ
โดยมีสภาพแวดล้อมช่วยเสริมต่อพัฒนาการให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ช่วงเวลาที่เด็กสามารถพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่นี้
เรียกว่าระยะพอเหมาะ (Optimal Period)
ลักษณะพฤติกรรมที่เด็กสามารถแสดงออกเมื่ออยู่ในขั้นพัฒนาการนั้นๆ
เรียกว่า พัฒนาการตามวัย (Developmental Task)
เด็กที่แสดงพฤติกรรมตามขั้นพัฒนาการได้พอเหมาะกับวัย
จะถือว่ามีพัฒนาการสมวัย
1.2 แบบแผนของพัฒนาการ
พัฒนาการของเด็กปฐมวัยทุกคนเปลี่ยนแปลงไปตามแบบแผนเดียวกัน
คือ
1.2.1 แบบแผนของพัฒนาการ
เด็กปฐมวัยทุกคนมีลำดับขั้นของพัฒนาการเหมือนกัน
เปลี่ยนแปลงไปตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องและมีทิศทางก้าวหน้าโดยไม่ข้ามขั้น
และไม่มีการหยุดนิ่งอยู่กับที่
พัฒนาการในขั้นต้นจะเป็นพื้นฐานของพัฒนาการในขั้นต่อไปที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
เช่น ความสามารถในการวาดรูป
เด็กเล็กจะสามารถใช้กล้ามเนื้อแขนและมือในการเคลื่อนไหวลากเส้นโยงไปมาอย่างไม่ทิศทาง
จนสามารถบังคับกล้ามเนื้อนิ้วได้มากขึ้นในการควบคุมการลากเส้นอย่างมีทิศทางตามความต้องการและสามารถวาดรูปคล้ายของจริงได้ในที่สุด
1.2.2 การเปลี่ยนแปลงทางด้านปริมาณ
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ชัดเจน สามารถวัดได้
โดยเฉพาะการเพิ่มขนาดของรูปร่างและอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย
เมื่อเด็กอายุมากขึ้นและได้รับสารอาหารที่เพียงพอตามความต้องการของร่างกาย
ขนาดของร่างกายก็จะขยายใหญ่ขึ้น สาวนสูงและน้ำหนักก็เพิ่มขึ้น
รวมทั้งการแสดงออกถึงขีดความสามารถในด้านต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นด้วย เช่น
การเรียนรู้คำศัพท์มากขึ้น ความจำเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้น
เป็นต้น
ในช่วงปฐมวัยนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างร่างกายเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
และเกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูและกล้ามเนื้อ
ทำให้เด็กมีรูปร่างผอมและสูงขึ้น
1.2.3 การเ ปลี่ยนแปลงทางด้านคุณภาพ
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สลับซับซ้อนเกี่ยวข้องกับกลไกในการทำงานภายในร่างกายที่ก่อให้เกิดความสามารถใหม่ๆ
เช่น ก่อนที่จะใช้คำพูดสื่อความหมายคล้ายผู้ใหญ่ได้
จะต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนเกี่ยวกับการใช้ภาษา เช่น การฟัง
การเปล่งเสียง การแยกความแตกต่างของเสียง การเลียนเสียง
การเรียนรู้ความหมายและอื่นๆมาเป็นลำดับ
1.2.4
ความสัมพันธ์ของพัฒนาการแต่ละด้าน
พัฒนาการของเด็กเกิดจากการเปลี่ยนแปลงหลายด้านผสมผสานกัน
พัฒนาการทุกด้านทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ สังคม สติปัญญา
มีความสำคัญเสมอภาคและเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันหมด
การเปลี่ยนแปลงของพัฒนาการด้านหนึ่งย่อมส่งผลให้พัฒนาการด้านอื่นเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ทั้งในทางบวกและทางลบ เช่น
เด็กที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์มักเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว
สามารถช่วยเหลือตนเองได้ มีอารมณ์แจ่มใส รู้จักควบคุมอารมณ์
เข้ากับผู้อื่นได้ดี และมีความสนใจเรียนรู้สิ่งรอบตัว ในทางตรงกันข้าม
เด็กที่สุขภาพไม่ดี มักประสบปัญหาด้านการเจริญเติบโตของร่างกายล่าช้า
หรือหยุดชะงักชั่วขณะหนึ่ง อารมณ์หงุดหงิด มีอาการเศร้าซึม
ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นยาก
และขาดสมาธิในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ
1.2.5 ลักษณะเด่นของพัฒนาการ
แต่ละช่วงของการเปลี่ยนแปลงตามขั้นตอนของพัฒนาการ
ลักษณะบางอย่างอาจพัฒนาเร็วกว่าลักษณะอื่นและสังเกตเห็นเด่นชัดได้
เช่น ในช่วงอายุ 3 ปี เด็กจะเริ่มรับรู้และสังเกตความแตกต่างทางเพศ
เมื่ออายุ 4 ปี จะช่างซักถาม สนใจเล่นร่วมกับผู้อื่น พออายุ 5 ปี
จะชอบความเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง
ลักษณะเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นปกติ
เมื่อเด็กอายุมากขึ้นก็จะพัฒนาไปตามวุฒิภาวะและจากมวลประสบการณ์ทั้งหลายที่ได้รับ
1.2.6 ความคาดหวังของพัฒนาการ
พัฒนาการมนุษย์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีขั้นตอนและได้ถูกกำหนดไว้อย่างแน่นอน
จึงสามารถทำนาย
คาดหวังความสามารถและพฤติกรรมตามขั้นพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของเด็กอย่างคร่าวๆ
ได้
ทั้งนี้เมื่อเด็กได้รับการส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านอย่างเหมาะสมตามวุฒิภาวะและความพร้อม
พัฒนาการก็สามารถดำเนินไปด้วยดีสมวัย
หากมีอุปสรรคหรือความผิดปกติเกิดขึ้นในช่วงใดของพัฒนาการ
ก็ย่อมส่งผลต่อแบบแผนพัฒนาการขั้นต่อไปให้หยุดชะงักเบี่ยงเบนไปจากเกณฑ์ปกติและอาจส่งผลระยะยาวไปจนตลอดชีวิตได้
1.2.7 ความเสื่อมของพัฒนาการ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
มีทั้งการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะหรือความสามารถใหม่ๆ
และความเสื่อมหรือการสูญเสียคุณลักษณะหรือความสามารถเดิมบางอย่าง เช่น
เด็กสูญเสียฟันน้ำนมก่อนจึงเกิดฟันแท้เข้ามาแทนที่
เด็กจะพูดเสียงอ้อแอ้ที่ฟังไม่รู้เรื่องก่อนจึงพูดชัดเจนขึ้นมาในช่วงบั้นปลายของชีวิต
การเสื่อมมีมากกว่าการพัฒนา
1.3 ลักษณะของพัฒนาการ
พัฒนาการของเด็กปฐมวัยทุกด้านมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างแน่นแฟ้นและมีทิศทางการพัฒนาที่แน่นอน
คือ
1.3.1 พัฒนาการด้านร่างกาย หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงลักษณะทางร่างกายเริ่มต้นจากส่วนบนไปสู่ส่วนล่าง
(Cephalous – Caudal Development) และจากแกนกลางไปสู่ส่วนข้าง
(Proximal-Distal Development)
สำหรับความสามารถทางการเคลื่อนไหวร่างกายจะพัฒนาทักษะทางการเคลื่อนไหวทั่วไป
ไปสู่การเคลื่อนไหวแบบเจาะจง
1.3.2 พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึก
จะพัฒนาจากการรับรู้ความรู้สึกทั่วไปไปสู่ความรู้สึกที่ละเอียดลึกซึ้ง
จากการรับรู้ความรู้สึกของตนเองไปสู่การรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น
1.3.3 พัฒนาการด้านสังคม หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงความสามารถในการติดต่อและสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น
จะพัฒนาจากความผูกพันใกล้ชิด พึ่งพาพ่อแม่ในครอบครัว
ไปสู่การพึ่งตนเอง
และการปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม
1.3.4 พัฒนาการด้านสติปัญญา หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงความสามารถทางการรู้คิด
จะพัฒนาจากการรับรู้ด้วยประสามสัมผัสและการรู้คิดเชิงรูปธรรม
(Concrete Thought) ไปสู่ความเข้าใจในการใช้สัญลักษณ์ (Symbolic
Thought) แล้วจึงรู้จักคิดเป็นนามธรรม (Abstract Thought)
รวมทั้งความคิดที่ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง (Egocentric Thought)
ไปสู่การใช้ความคิดที่มีเหตุผล (Reasoning)
1.4 อัตราของพัฒนาการ
ขีดความสามารถตามพัฒนาการของเด็กปฐมวัยแต่ละคนจะเร็วหรือช้ากว่าอัตราที่เป็นเกณฑ์ปกติได้และมีความแตกต่างกัน
คือ
1.4.1 ความแตกต่างภายในบุคคล
(Intra-Individual Differences)
ธรรมชาติได้กำหนดให้พัฒนาการของระบบและส่วนต่างๆของร่างกายภายในตัวเด็กแต่ละคน
มีอัตราการเจริญเติบโตไม่เท่ากันในช่วงอายุหนึ่งๆ ของบุคคลนั้นเช่นกัน
ในช่วงวัยทารก พัฒนาการทางร่างกายเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาในช่วงปฐมวัย
พัฒนาการของสมองอยู่ในอัตราสูงกว่าการเจริญเติบโตของอวัยวะอื่นๆ
เป็นต้น
1.4.2 ความแตกต่างระหว่างบุคคล
(Inter-Individual
Differences)แม้ว่าเด็กทุกคนจะมีแบบแผนของพัฒนาการเหมือนกันและพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน
แต่ความสามารถที่จะพัฒนาให้ไปถึงจุดเดียวกันเมื่ออายุเท่ากัน
อาจแตกต่างกันได้
ทั้งนี้เนื่องมาจากระดับวุฒิภาวะที่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม
และประสบการณ์ที่ได้รับจากสภาพแวดล้อม
จะเป็นตัวกระตุ้นหรือขัดขวางศักยภาพ การแสดงความสามารถของเด็กแต่ละคน
จากความรู้ทางด้านพัฒนาการเด็กปฐมวัยนั้นเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากสำหรับพ่อแม่
ผู้ปกครอง ครู อาจารย์
ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอบรมเลี้ยงดูและพัฒนาการเด็กในช่วงปฐมวัย
ซึ่งหากบุคคลดังกล่าวมีความเข้าใจในพัฒนาการของเด็กก็จะเป็นข้อมูลความรู้ในการนำไปใช้เพื่อการพัฒนา
ตลอดจนประยุกต์ความรู้เพื่อส่งเสริม
สนับสนุนด้านการพัฒนาเด็กต่อไป
ขอขอบคุณ
ttp://www.bloggang.com
ที่ให้ข้อมูล