ไม่ว่ากาลจะผ่านพ้น ไม่ว่าคนจะหลากหลายความคิด หลากหลายวัฒนธรรม แต่ความงามก็ยังคงเป็นภาษาสากล ที่สื่อให้เห็นถึงห้วงลึกของจิตใจมนุษย์ทุกหมู่เหล่าไม่ผันแปร
หากจะกล่าวถึงความงดงาม คงมีหลายคนตั้งคำถาม ความงามมันคืออะไร และมันสัมผัสได้อย่างไร และเบื้องลึกของมันนั้นคืออะไร คำตอบก็คือทุกสิ่งที่สวยงาม และสร้างความเบิกบานใจได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเพียงดอกไม้งามเท่านั้น หรือสิ่งก่อสร้างที่สวยงามเท่านั้น แต่ทุกคำตอบมันมีความลงตัวในตัวของมันเอง บทกวีก็คือความงดงาม เสียงดนตรีก็คือความงดงาม และหลายสิ่งหลายอย่างก็คือความงดงาม
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การแข่งขันมีมากขึ้น โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน แต่สิ่งใดเล่าที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจคนไว้ได้ นั่นก็คือสุนทรียภาพในชีวิต ที่ทำให้วันที่แสนเหน็ดเหนื่อยนั้นกลับสนใสขึ้นมาโดยพลัน
หากผู้คนมีเพียงการแข่งขัน มีเพียงความต้องการที่จะก้าวกระโดด แล้วสิ่งใดเล่าที่จะได้กลับมา นอกจากความเหน็ดเหนื่อย และแผลที่ยากจะเยียวยา จากความเครียด และจากสิ่งกดดันหลายอย่าง
ศิลปะและความงามนั้นจึงมีคุณค่า ช่วยกล่อมเกล่าจิตใจของทุกผู้คน ให้ได้ดื่มด่ำกับความงดงามที่ไม่เคยจืดจางไปตามยุคสมัย แม้ยามกุหลาบร่วงโรย ยังมีต้นกล้าที่พร้อมจะยืนหยัดขึ้นมาใหม่ เปรียบดังความงดงามที่ไม่มีวันสูญสลายไปตามกาลเวลา
หากจะพูดถึงความงดงามแล้ว แม้ยกมาสักร้อยแปดพันเรื่องราว ก็ไม่อาจบรรยายหรือพรรณาได้หมด แต่คุณค่าที่แท้จริงแล้ว อยู่ในตัวของมันเอง ไม่ว่ายุคใด สมัยใด บนโลกนี้มีความงดงามให้เห็นเสมอ
^_^thanks for make me smile^_^