เป็นนักเรียนสถาบันพระปกเกล้าตอนที่๗๓(ศึกษาดูงานภาคเหนือ เชียงราย-หลวงน้ำทา-สิบสองปันนา๒)


ระหว่างทางพวกเราปวดฉี่ มีหญิงไทยใจกล้าวิ่งเข้าข้างทาง ๑ คน อิอิ

        วันที่ ๒๐ ธ.ค. ผมกับครูบาตื่นตั้งแต่ตีสี่ เพื่อไปเดินดูตลาดด้วยกัน ออกไปเดินไม่เจอคนเลย หมายังไม่เจอ..อิอิ เดินกลับแล้วเลยโรงแรมไปดูอีกด้านหนึ่งก็ไม่มีอะไร  ในที่สุดก็เดินกลับมาพอให้เหงื่อซึมๆ เราออกเดินทางไปทานอาหารเช้าที่ร้านเฮือนลาว ผมเห็นราคาข้าวต้มชุดที่ทำเป็นอาหารเช้าหัวละ ๒๖,๐๐๐ กีบ ข้าวต้มที่เสิร์ฟเป็นข้าวใหม่ใส่เผือกผสมลงไปด้วยหอมอร่อย เลยฟาดซะ ๒ ชาม

แล้วเราออกเดินทางไปเที่ยวตลาดกัน ผมได้ถุงมือมาคู่หนึ่งกันหนาวในราคา ๕๐ บาท รู้ว่าแพงแต่ก็ซื้อดีกว่าทนหนาว อิอิ ตอนหลังเจ้าเดิมเอาอันใหม่ออกมาดูดีกว่าเก่าแต่ก็ขาย ๕๐ บาทเหมือนกัน แล้วเราก็ขึ้นรถเดินทางกันต่อ จากหลวงน้ำทา เดินทางผ่านพรมแดนประเทศลาวที่ให้สัมปทานจีน ๙๐ ปี ด้านฝั่งลาวเรียกบ่อเต็น ฝั่งจีนเรียกด่านโมฮัน เส้นทางสายนี้เป็นภูเขา และจีนใช้วิธีเจาะอุโมงค์มีอยู่เกือบ ๓๐ แห่งแต่ผมไม่ได้นับขี้เกียจนับ แฮ่...

 ระหว่างทางพวกเราปวดฉี่รถเลยหยุดอยู่บนภูเขาให้พวกเราปล่อยข้างทาง มีผู้ชายเสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีหญิงไทยใจกล้าวิ่งเข้าป่าไป ๑ คน อิอิ  เทคนิคของเธอคือถ้าไม่เห็นพวกเราก็แสดงว่าพวกเราไม่เห็นเธอ..ฮา...

        สิ่งที่เห็นสองข้างทางทำเอาผมตกใจและบอกให้เพื่อนๆดูก็คือ จีนปลูกยางพาราเยอะมากกกกกก ภูเขาทุกลูกตามเส้นทางห้วยทรายมาถึงสิบสองปันนาปลูกแต่ยางพาราทั้งนั้นมีหลายรุ่น เมื่อมาเกือบถึงกันหลันป้ายังเจอกับกล้วยหอมอีกสุดลูกหูลูกตา และเครือกล้วยหอมถูกห่อด้วยพลาสติกอย่างดี

  เมื่อเกษตรอย่างวเราที่ว่าเข้า WTO เราจะได้ส่งสินค้าเกษตรไปขายจีน เห็นวันนี้แล้วขอบอกว่าเลิกฝันลมๆแล้งๆเสียทีเหอะ ราคายางพาราขึ้นไม่ใช่ฝีมือนายกทักษิณหรือไทยรักไทย หรือนายกชวนหรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นเพราะความต้องการของตลาดจริงๆ  พอมาตอนนี้ยางพาราราคาตกไม่ใช่เพราะการบริหารของพรรคพลังประชาชนหรือของใครต่อใครหรอกเลยโทษคนอื่นกันเสียที ยอมรับเหอะว่าเพราะจีนซื้อ น้อยลง ที่น้อยลงเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจ การผลิตรถยนต์น้อยลง การใช้ยางพาราก็น้อยตามลงไปด้วย แถมยางพาราของจีนก็กำลังเริ่มจะเก็บน้ำยางได้แล้ว และพอได้เต็มที่แล้วเขายังจะซื้อจากเราเหรอ สงสัยจริง....และสงสัยว่ากล้ายางพาราที่มีข่าวว่าทุจริตกันนั้น เอาไปปลูกภาคอีสาน นอกจากทุ่งกุลาแล้วใครจะร้องไห้กันอีกละเนี่ย....เฮ้อ...

        เวลาที่จีนแตกต่างกับไทย ๑ ชั่วโมงโดยจีนเร็วกว่า วันนี้เราได้กินข้าวเที่ยงเมื่อตอนบ่ายสามของจีน ผมทานจนอิ่มเพราะหิว อาหารอร่อยไปทุกอย่าง แล้วเราก็เดินทางเข้าหมู่บ้านที่เราจะไปพักแบบโฮมสเตย์ แต่การจัดการค่อนข้างสับสนระหว่างการจัดให้ผู้หญิงกับผู้ชายเข้าพัก แต่ในที่สุดก็ปรับตัวกันจนได้ แต่พวกที่มีความจำเป็นต้องแยกออกไปนอนข้างนอกก็มี เลยให้ไกด์ช่วยพาไปหาโรงแรมให้แม้จะไม่ได้โรงแรมดีเด่อะไรก็ยังดีกว่าต้องนอนในบ้านที่ทำเครื่องเงินและยังไม่หยุดทำงานแม้แต่ตอนที่พวกเราเข้าไป ดูเหมือนกับว่าเราไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกา แต่กลิ่นของสารเคมีที่ใช้ทำเงินทำเอาพวกเราไม่ค่อยไหว ครูบากับผมเป็นโรคภูมิแพ้ และครูบาเกรงใจคนอื่นที่พอตกกลางคืนจะไอมาก หากนอนกันมุ้งละ ๒-๓ คนติดกัน ๔-๕ มุ้ง พวกไม่ต้องหลับต้องนอนกันแน่ แต่นอนกับผมได้สบายเพราะครูบาจะไออย่างไรผมก็หลับได้ เพียงแค่คอยดูเพื่อให้การช่วยเหลือหากมีเหตุฉุกเฉินหายใจไม่ออก และครูบาก็ชินกับเสียงกรนของผมแล้ว ฮา...

        การต้อนรับพวกเรามีการจัดเลี้ยงและมีการร่ายรำ ที่นี่ไกด์บอกว่าถ้าคนสวยเขาจะเรียก "นางตัวดี" ผมเห็นนางตัวดีหลายคน แล้วไกด์ก็บอกว่าถ้าทำสวยทำดีเขาจะบอกว่า "พาราณาสี" คนที่นี่สามารถพูดภาษาไตลื้อซึ่งก็คล้ายภาษาไทยภาคเหนือได้ เขายังชวนผมซื้อลูกยาง(พารา)ที่นำมาร้อยเป็นเส้นกับฝักฝางและเขียนเป็นภาษาจีนว่าสิบสองปันนา เปล่า...ผมไม่ได้อ่านออก แต่ถามเขาว่าเขียนว่าอย่างไร เขาตอบว่าสิ๊สองป่านน่า การแสดงสวยงาม น่ารัก เด็กๆที่นี่ก็น่ารัก ผมเก็บภาพมาหลายภาพ

          แล้วผมก็ต้องเดินทางไปที่พักพร้อมครูบาเมื่อการแสดงชุดที่สองจบลง (ยังมีต่อ)

หมายเลขบันทึก: 231898เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2008 18:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

สวัสดีค่ะ

  • ชอบอ่านทุกเรื่องที่ท่านเขียน
  • และหาเวลาย้อนกลับไปอ่านเรื่องเก่า ๆ
  • ขออนุญาตพิมพ์ออกมาทำเป็นเอกสาร
  • ไปให้เด็ก ๆ อ่านด้วยค่ะ
  • ขอขอบพระคุณค่ะ

แหม่..อยากไปด้วยจัง โชคดีมีแฮงครับ

สวัสดีครับครูคิม

ยินดีอนุญาตครับ หากเห็นว่าบทความผมจะมีส่วนทำให้เด็กและเยาวชนได้ซึมซับคุณธรรมจริยธรรมบ้าง

ด้วยความเต็มใจครับ

สวัสดีครับคุณเบดูอิน

คนไตลื้อเขาอวยพรให้ "อยู่ดีกินหวาน" ครับ เสียดายที่ผมลืมถามว่าเวลาจากกันเขาจะพูดว่า "มึงไปกูอยู่" หรือเปล่า..อิอิ

ขอบคุณน้องเอกสำหรับภาพสวยๆของสาวจิ่งหง

กล้องตัวนี้ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ

ขอบคุณครูโย่งที่แวะมา Merry Christmas ครับ

"อยู่หลี กิ๋นหวาน"  ครับ

สำนวนนี้เหมือนกับ สำนวนอวยพรของ ชาวไทใหญ่

ผมไปที่ จิ่งหง เลยสามารถสื่อสารภาษาไทใหญ่กับพี่น้อง ไทลื้อ พอเข้าใจครับ

 

สวัสดีค่ะท่านอัยการ

ติดตามอ่านต่อค่ะ Merry X'mas kaaaaa

ขอบคุณน้องเอกครับที่มาช่วยเพิ่มความถูกต้อง ผมฟังโฆษกบนเวทีพูดออกมาแบบนั้น อิอิ

สวัสดีครับ อ.อ้อย

ยังติดตามอ่านอยู่นะครับ นักเรียนเบี้ยวเนื่องจากปวดหลัง ช่วงว่างนี้จะค่อยทะยอยนำเรื่องที่เขียนไว้มาปรับปรุงข้อมูลให้ครบแล้วจะลงต่อ มีสักประมาณ ๓-๔ หัวข้อครับ

สวัสดีครับคุณ Liverbird

ขอบคุณสำหรับการอวยพรปีใหม่

ขอให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ

  • วันนี้ มาติดตามอ่านเรื่องดีดีครับ
  • ว้าว ชอบมากๆครับ
  • การเดินทางครั้งนี้เหมือนได้ไปด้วยตัวเองเลยครับ
  • สวัสดีครับ

สวัสดีครับ คนพลัดถิ่น~ต้นตอ-natachoei(หน้าตาเฉย)

เมื่อไหร่เราจะได้มีโอกาสเจอกับแก๊งค์หน้าตาเฉยมั่งนิ แก๊งค์หน้าตาดีก็เจอกันแล้ว เหลือแต่แก๊งค์หน้าตาเฉยนี่แหละยังไม่เคยเจอ ไม่รู้ว่าเจอกันแล้วจะต้องทำหน้าตาเฉยๆกันไหม..ฮา..

สวัสดีครับพี่หมอตา

ขอบคุณสำหรับเมอรี่คริสต์มาส ครับ วิวกระบี่หรือเปล่าครับเนี่ย...สวยมาก...

เสียดายตอนไปทำงานไม่ได้ไปดูโชว์ที่พาราณสี มีคนจะพาไปแต่ไม่ว่างจริงๆ งานรัดตัวตั้งกะเช้ายันดึก กว่าจะว่างก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม เลยอดค่ะ ทั้งๆ ที่อยู่จิ่งหงตั้งหลายวัน T_T

สวัสดีครับ Little Jazz

ดูโชว์ที่พาราณสีกับที่ไหนก็คล้ายกันครับ รูปแบบ,ฉาก อาจจะแตกต่างกันบ้าง แต่ก็เน้นศิลปะการร่ายรำแบบจีน ที่พาราณสีไม่มีตลกเลยครับ มีแสดงความสามารถอย่างเดียว ถึงไม่ได้ดูก็ไม่ถึงกับกินข้าวไม่ลงหรอกครับ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท