การทำงานกับเครือข่ายโดยใช้แนวระนาบ และการใช้การมีส่วนร่วมมาช่วยทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน จะต้องใช้การทำงานแบบร่วมมือร่วมใจกัน โดยยึดเป้าหมายเดียวกัน และเราจะใช้ KM เป็นเครื่องมือในการทำงานกับภาคีเครือข่ายมากขึ้น
ในวันที่ 17-19 ธันวาคม 2551 ศูนย์อนามัยที่ 8 โดยคณะกรรมการการจัดการความรู้ ได้ไปจัดประชุมเรื่อง "KM กับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สู่ภาคีเครือข่าย" ที่รังเย็นรีสอร์ท อ.ด่านซ้าย จ.เลย
เริ่มออกรถเวลา 6.00 น. (วางแผนจะออก 5.00 น. แต่รถมาช้า) ถึงรีสอร์ทเวลา 12.00 น. รับประทานอาหารแล้ว เริ่มด้วยพิธีเปิดและคำบรรยายของท่านผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 8 นายแพทย์ชาญชัย พิณเมืองงาม โดยผู้อำนวยการได้กล่าวไว้ว่า
- กระบวนการ KM ของศูนย์อนามัยที่ 8 ถึงแม้ว่าจะได้รางวัลในระดับกรม ฯ แต่วัตถุประสงค์ไม่ใช้การได้รับรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการให้ใช้กระบวนการการจัดการความรู้เป็นฐานในการทำงานให้เกิดประโยชน์จริง ๆ
- จริง ๆ แล้วบุคลากรในองค์กรมีความรู้มากมาย ผ่านประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมาอย่างโชกโชน แต่หากถามรายคนแล้ว บางคนอาจยังตอบไม่ได้ว่าว่าความรู้ของหน่วยงานมีอะไรบ้าง การวางแผนในการทำงานในปีต่อไป หรือการถ่ายทอดความรู้ให้รุ่นน้อง ๆ มีอะไรหรือไม่ จะพัฒนาความรู้เป็นตำราได้หรือไม่ อย่างไร
- การที่หน่วยงานศูนย์อนามัยที่ 8 เป็นหน่วยงานทางด้านวิชาการ ใน 6- 7 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีผู้ที่เกษียนจากระบบราชการไปไม่น้อย เรามีอะไรที่เก็บเกี่ยวจากท่านเหล่านั้นมาได้บ้าง ประสบการณ์เหล่านั้นที่สูญเสียไป อาจเกิดจากความไม่เชื่อถือในตัวบุคคล หรือเราไม่ได้ตั้งใจเก็บความรู้นั้น ๆ ไว้เอง
- องค์ความรู้ที่ติดไปกับตัวบุคคล หากไม่เก็บไว้ก็จะสูญหายไป ดังนั้นการจัดการความรู้จึงเป็นสิ่งจำเป็น การจัดการความรู้ที่ถ่ายทอดกันมาก่อให้เกิดประโยชน์จนถึงทุกวันนี้ ตัวอย่างเช่นการวางแผนครอบครัว ซึ่งในประเทศในแถบยุโรบได้มีกระบวนการที่สำเร็จในการคุมกำเนิด โดยใช้เวลามากกว่า 100 ปี แต่ในขณะที่ประเทศในแถบเอเชีย เช่นประเทศไทย ได้ใช้ความรู้เหล่านั้นมาต่อยอด และก่อให้เกิดความสำเร็จในระยะเวลาประมาณ 30 ปีเท่านั้น
-
ตัวอย่างของการบันทึก เช่นมีเรื่องเล่าว่า มีศัลยแพทย์ท่านหนึ่งทำงานเกี่ยวกับการผ่าตัดมะเร็งลำไส้ หากแพทย์ท่านนั้นผ่าตัดไปโดยไม่ได้บันทึกอะไรไว้ก็จะเป็นการทำงานแบบเป็นไปวันหนึ่งวันหนึ่งเท่านั้น แต่แพทย์ท่านนี้ผ่าตัดไปด้วยและวัดตำแหน่งของมะเร็งว่าห่างจากจุดต่าง ๆ กี่เซนติเมตร ซึ่งทำให้สามารถรู้ พยากรณ์โรคว่าจะมีการกระจายของมะเร็งไปบริเวณไหน มากน้อยอย่างไร จะรักษาอย่างไรให้ได้ผลดี ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อวงการแพทย์อย่างมาก นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ KM ให้เกิดประโยชน์
-
องค์กรเราน่าจะต้องมีการสรุปผลงานที่เราทำว่ามีข้อสรุปที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ หรือไม่ อย่างไร ต่างจังหวัดกันมีข้อแตกต่างกันอย่างไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลก่อให้เกิดประโยชน์ในการบริหารจัดการที่ดียิ่งขึ้น
-
ศูนย์อนามัยที่ 8 จะเริ่มสร้าง Basic ให้แน่นยิ่งขึ้น เราเคยเด่นในเรื่องชุมชน แต่ระยะหลังเราเริ่มมีบทบาทในส่วนนี้ลดลง แต่เมื่อทิศทางของกรมชัดเจนแล้ว เราน่าจะใช้ Km เป็นส่วนเชื่อมต่อในส่วนอื่น ๆ ต่อไป ร่วมถึงการเชื่อมโยงกับกระบวนการ PMQA
- อีกประเด็นหนึ่งในเรื่องของเครือข่าย ซึ่งเราพูดกันมากขึ้น จากการที่ภาคีเครือข่ายจะทำงานในแนวระนาบมากยิ่งขึ้น ในแนวดิ่งน้อยลง ทำให้การประส่านงานผ่านผู้บังคับบัญชาเพียงอย่างเดียวนั้น ความสำเร็จจะเป็นไปได้ยากพอสมควร เราต้องรู้ว่าองค์กรที่เราเกี่ยวข้องมีพื้นฐานเป็นอย่างไร มีพันธกิจและวิสัยทัศน์ของตนเองอย่างไร
- สรุปสุดท่านผู้อำนวยการบอกว่า การทำงานกับเครือข่ายโดยใช้แนวระนาบ และการใช้การมีส่วนร่วมมาช่วยทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน จะต้องใช้การทำงานแบบร่วมมือร่วมใจกัน โดยยึดเป้าหมายเดียวกัน และเราจะใช้ KM เป็นเครื่องมือในการทำงานกับภาคีเครือข่ายมากขึ้น
จบเท่านั้นก่อนนะครับ คราวหน้าเป็นเรื่องกระบวนการประชุม
ขอบคุณครับ