ล่องโขงจากจีน


 

พี่น้องครับ

 

ประเทศจีนนั้นมีกำแพงเมืองจีนเป็นมรดกโลก

มีเส้นทางสายไหม เป็นตำนานเรื่องราวในอดีต

ปัจจุบันจีน กำลังเปลี่ยนแปลงแม่น้ำโขงให้เป็นเรื่องระดับโลกอีกเรื่องหนึ่ง

เรื่องพิลึกพิลั่นอย่างไรนั้น

ขออนุญาตเล่าแบบเก็บตกก็แล้วกันนะขอรับ

  

ผมเพิ่งกลับจากการศึกษาภาคเหนือ เชียงราย-สิบสองปันนา

ระหว่างวันที่ 18-22 ธันวาคม 2551

มีเรื่องสด ๆ ร้อน ๆ ขนาดควันฉุยเลยเชียวแหละ

เมื่อเช้านี้เจ้าหน้าที่โรงแรมฮัวฟะปลุกตั้งแต่ตี 5

ถ้าเป็นเวลาบ้านเราคงประมาณ 6 โมงเช้า

ท้องฟ้ายังอึมครึมด้วยหมอกลง อากาศค่อนข้างเย็น

ถ้าคนชอบหนาวก็อาจจะกล่าวได้ว่ากำลังดี

  

อาบน้ำ เก็บเสื้อผ้า ลากกระเป๋าลงมาเจี๊ยวจ๊าวกัน

รับประทานอาหารเช้า แล้วออกเดินทางแบบด่วนจี๋

ไปดำเนินพิธีกรรมการผ่านแดน

คนจำนวนมาก กว่าจะผ่านด่านขึ้นรถ

อ้าวที่ต้องขึ้นรถ เพราะน้ำลดไม่สามารถขึ้นเรือที่ท่าได้

ต้องวิ่งย้อนกลับมาขึ้นที่ท่ากาลันป้า ระยะทาง 40 กม.

มีรายการตามหากระเป๋ากันหลายยก

เรียกว่าทัวร์พะรุงพะรังก็น่าจะได้

บางคนซื้อของฝากมาแทบจะตั้งร้านได้

ถ้ามีตู้คอนเทนเนอร์บริการก็น่าจะเต็มตู้นั่นแหละ

  

เนื่องจากคณะเรามีคนมาก

ต้องแบ่งกันนั่งเรือ 2 ลำเต็มอัตรา

เพื่อล่องเรือจากประเทศจีนมาขึ้นที่ืท่าเรือเชียงแสนของไทย

8 ชั่วโมงเต็ม ๆ ที่พวกเรานั่งเรือแบบหวาดเสียว

เจ้าหน้าที่เตรียมกระโถนให้ทุกคน

เรือวิ่งเร็วหักเลี้ยวเอียงไปเอียงมาตามร่องน้ำ

คนไม่เคยชิน จึงเมาเรือปล่อยของว่างเอาง่าย ๆ

 

ผมตื่นตาตื่นใจมากที่จะได้เห็นแม่น้ำโขงด้วยตาตนเอง

เห็นแม่น้ำสายยาวที่กำลังเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่

จึงเฝ้าสังเกตและคิดตาม..บันทึกภาพไว้ไม่น้อยกว่า 4,000 ภาพ

ยังนึกไม่ออกว่าจะนำเสนออย่างไรถึงจะเป็นที่พอใจทุกฝ่าย

เพราะทุกแง่มุม ล้วนเด็ดสาระตี่

มันระทึกระทวยใจจริง ๆ นะพี่น้อง

ที่เด็กอีสานเคยรู้จักแต่ชื่อแม่น้ำโขงในตำราเรียน

วันนี้มีโอกาสล่องแม่น้ำแห่งความฝัน

จึงนั่งโต้ลมเย็น อาบแดด สูดอากาศบริสุทธิ์

ชื่นชมวิถีชีวิตริมแม่น้าที่มีชีวิตชีวายิ่งนัก

  

การล่องแม่น้ำโขงมีข้อจำกัดเรื่องเวลา

เรื่องเรือประเทศจีนที่มาส่งเราจะวิ่งถึง 6 โมงเย็น

ถ้ายังมาไม่ถึงจุดหมาย มืดตรงไหนเขาก็จะจอดตรงนั้น

เขาไม่ฝืนวิ่งเรือเสี่ยงตายในความมืด

เพราะเส้นทางมหาโหดเหลือเกิน

เราตีตั๋วการบินไทยทั้งโขยง

ถ้าตกเรือ ก็เท่ากับตกเครื่องบินด้วย

มันไม่สนุกเลยสักนิดใช่ไหมละครับ

จึงชุลมุน เรื่อง Passport เรื่องกระเป๋า เครื่องตั๋วบินกลับ

  

เรือมาส่งเราที่ท่าเรือเชียงแสน แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

อาหารเย็นที่ทางร้านในเชียงรายยกมาตั้งแล้วก็ไม่อาจแวะได้

ทยอยเช็คตั๋วเช็คของเรียบร้อยได้เวลาบินพอดี

มาถึงนกรังกระจอก 4 ทุ่มเศษ

อยากจะเล่าเรื่องสนุกๆให้ฟัง

พรุ่งนี้จะต้องตื่นตี 5 กลับไปสวนป่า

คืนนี้ดูภาพเป็นของฝากความคิดถึงอุ่นเครื่องไปพลางๆก่อนดีไหมครับ

โจนทะยานทัวร์แบบนี้ สนุกแต่ก็เหนื่อยสุดใจขาดดิ้น

ข้อมูลเกี่ยวแม่น้ำโขงในอนาคตขอยกยอดไปตอนหน้านะขอรับ

อิ อิ..

 

หมายเลขบันทึก: 231318เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2008 01:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

โห ... ยังกะ เจมส์ บอนด์ เลย ครับ ครูบา ฯ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท