ถ้าใช้กรอบปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งมีเป้าหมายที่ความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน
การเป็นองค์กรธรรมรัฐก็เป็นประเด็นหนึ่งที่อยู่ภายใต้กรอบคิดดังกล่าวซึ่งต้องอาศัย ความรู้คู่คุณธรรมที่เกิดผลในทางปฏิบัติ
ซึ่งก็คือการจัดการความรู้
โดยตัวของการจัดการความรู้ยังมีเป้าหมายในเชิงกระบวนการ
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งด้วยคือการพัฒนาเป็นองค์กรเรียนรู้
กระบวนการจัดการความรู้นอกจากตั้งต้นที่แผนงาน/กิจกรรมของหน่วยOD ซึ่งเป็นส่วนของการทำงานที่เป็นระเบียบ(order)แล้วควรเพิ่มการจัดการความรู้ในส่วนที่ไร้ระเบียบ(caos)ด้วย นั่นคือกระบวนการพบปะสังสรรค์ร่วมมือกันในเรื่องราวต่างๆภายในชุมชนวลัยลักษณ์ที่เกิดขึ้นเองซึ่งเป็นปัจจัยสร้างความเป็นประชาสังคม
การเรียนรู้ทำความเข้าใจหน่ออ่อนต่างๆเหล่านี้ แล้วเข้าไปหนุนเสริมอย่างเป็นธรรมชาติด้วยเทคนิคการจัดการความรู้คือบทที่ว่าด้วยการจัดการความรู้เชิงเครือข่ายซึ่งเป็นการจัดการความรู้แบบหยิน ในขณะที่แบบแรกคือ การจัดการความรู้แบบหยาง
ทั้งหยางและหยินต้องเสริมพลังกันจึงจะเพิ่มพลังทวีคูณได้
ได้เข้ากลุ่มแลกเปลี่ยนในการเสวนาของ UKM เมื่อวาน จากการเล่าให้ฟังของคุณติ๋ม (แม้จะเป็นระยะเพียงสั้นๆ) ก็สัมผ้สได้ถึงพลังของชาววลัยลักษณ์ ในการใช้แนวทางจัดการความรู้เพื่อพัฒนาองค์กร ยินดีกับอาจารย์และชาววลัยลักษณ์มากเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณหมอปารมีฯมากที่ให้กำลังใจ เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับน้องใหม่จริงๆค่ะ ขอบอกความในใจในวันที่เข้ากลุ่ม ลปรร.ในUKM 2/49 เมื่อได้เข้ากลุ่มคิดว่าโชคดีมากที่มีคนเก่งๆหลายคนน่าจะได้อะไรดีๆกลับไปมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น รศ.นพ.จิตเจริญ ไชยาคำ(JJจาก มข.),ผศ.ดร.พิศมัย ศรีอำไพ(ผู้ใหญ่ใจดีจาก มหาสารคาม),รศ.มาลินี ธนารุณ(คุณอำนวยที่น่ารัก จากมน.),ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์(มหิดล),คุณวราพร แสงสมพร(คุณน้อย จากศิริราช),คุณเที่ยง จารุมณี(ผอ.กจน.มอ.)และอีก 2 ท่านจากม.ทักษิณ(ขอโทษที่จำชื่อไม่ได้) และยิ่งดีใจมากเมื่อ ผศ.พญ.ปารมี ทองสุกใส(มอ.)เดินเข้ามาสมทบในกลุ่ม เพราะแอบปลื้ม"คุณหมอปารมี"ในเรื่องราวที่นำเสนอ"คนคุณภาพ พยาธิ"ช่วงบ่ายวันที่ 7 และเช้าวันที่ 8 เวลาอาหารเช้าได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณหมอวิจารณ์ฯและ รศ.สมนึก(รองฯบริหาร) คุณหมอวิจารณ์ฯได้ชื่นชมผลงานและให้เรียนรู้เป็นแบบอย่าง แล้วจะไม่คิดเป็นเรื่องดีได้อย่างไร
เสียดายแต่ว่าไม่ได้ฟังแนวคิด วิธีการของผู้อาวุโสทุกคน และไม่มีโอกาสได้เล่าถึงวิธีการที่เรา "ชาววลัยลักษณ์"สร้างกระบวนการ "การจัดการความรู้สึก" และกระบวนการสร้าง"ค่านิยมร่วม"คิดว่ามันเห็นผลดีมากหลังจากเราทำกระบวนการ KM และพวกเราได้ก่อร่างสร้าง "ชุมชนนักปฏิบัติ"ขึ้นมาแล้วพวกเราจะช่วยกันทำให้เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปค่ะ