ไม่ได้เขียนบล็อกมาหลายเดือน ขอบคุณหลายๆท่านที่ยังเข้ามาทักทายและถามถึง ขออภัยที่ไม่ได้ตอบบล็อกด้วยค่ะ
สกว.ไฟเขียวให้ทำงานเรื่ององค์กรการเงินชุมชน งานนี้มีพรรคพวกนักวิชาการที่สนใจชาวบ้านเข้ามาร่วมทีมหลายคน เป็นทีมหนุ่มสาวไฟแรงทั้งสาขาการเงิน พัฒนา การคลังท้องถิ่น พัฒนาชุมชน ประสบการณ์ตรงจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ (เขมร การ์ตา) จึงหวังว่า พอจะช่วยขยับองค์ความรู้และสร้างเครื่องมือเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนองค์กรการเงินชุมชนไปได้อีกระดับหนึ่ง
ขอบคุณ สกว.และผู้ประสานงานชุด platform องค์กรการเงินชุมชนและสวัสดิการชุมชน มา ณ ที่นี้ค่ะ
เราจะสร้างเครื่องมือประเมินตนเองให้กลุ่มองค์กรการเงินฐานราก ที่มีทั้งมิติการเงินและการพัฒนา
การเริ่มต้นงานศึกษานั้น โจทย์ชัดวัตถุประสงค์ชัดไม่พอ วิธีคิดของนักวิจัยต้องชัดด้วย
แค่มองสามคำถามนี้ เราก็ต้องเอาทุกอย่างมาดูว่าสถานการณ์จริงคืออะไร ชาวบ้านมีเครื่องมืออะไร ประสบการณ์ที่อื่นๆ เป็นอย่างไร เครื่องมือในทางทฤษฎีมีอะไรอยู่บ้าง
ได้ลองเข้าไป google (ขณะนี้ คำนี้เป็น verb ในภาษาอังกฤษไปเรียบร้อยแล้ว) ดูฐานข้อมูล http://www.sedb.org/show_Selectdata.php?
ของคุณพิพัฒน์ ยอดพฤติการณ์ กัลยาณมิตรแห่งสถาบันไทยพัฒน์ (ครั้งนั้น ปี 2004 เป็น ชื่อไทยดอทคอม) เป็น web ที่สวย สะอาดตา ใช้ง่าย (user friendly) ชอบ..
ดูเรื่องกลุ่มออมทรัพย์ที่นครศรีฯ พบว่ามี 43 กลุ่ม จากจำนวนกลุ่มชาวบ้านทั้งหมด 92 กลุ่มที่มีอยู่ในฐานข้อมูลเศรษฐกิจพอเพียงของจังหวัดปี 2004 (จริงๆจะมีมากกว่านี้)
ที่น่าสนใจคือ มีกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม เป็นกลุ่มออมทรัยพ์บ้าง กลุ่มแม่บ้านบ้าง กลุ่มไร่นาสวนผสมบ้าง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้าง แต่เหล่านี้ แจ้งประเภทกิจกรรมว่า เป็นการออมทรัพย์
ความสำเร็จและชื่อเสียงของกลุ่มออมทรัพย์บ้านคีรีวง ที่ฝ่าฟันวิกฤติช่วงพายุเก ปี 2531 มาได้ ประกอบกับความห่างไกลแหล่งเงินทุนในระบบและการเป็นเกษตรกรรายเล็กรายน้อยห่างไกลความสนใจของผู้คน (เพราะอดีตนครฯเป็นเมืองดุ มีเขตสีแดง สีชุมพู มีเขาศูนย์ ฯ) น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดการรวมตัวพึ่งตนเอง มีกลุ่มออมทรัพย์เกิดขึ้นมากมายที่นครศรีฯ (ที่เขียนมานี่ เป็นการเอาสถานการณ์มาปะติดปะต่อเป็นภาพแบบเดาทั้งนั้น (เรียกเพราะๆว่าเป็นสมมติฐาน)...อย่าเพิ่งเชื่อ
บนฐานข้อมูลจาก website เดียวกัน กรณีของจังหวัดชัยนาท มีกลุ่มออมทรัพย์ 5 กลุ่มจากกลุ่มชาวบ้าน 15 กลุ่ม กลุ่มส่วนใหญ่เป็นธุรกิจชุมชน
สถานการณ์ในพื้นที่ชนบทนั้นเปลี่ยนเร็วมาก (จากประสบการณ์) ปัจจุบัน (4 ปีหลังจากการทำฐานข้อมูลชุดนั้น) กลุ่มออมทรัพย์อาจเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มธุรกิจชุุมชนอาจลดลง หลังจากไม่มีการอัดฉีด OTOP โดยรัฐบาลทักษิณ (ประสบการณ์จากบางพื้นที่)
นครศรีฯ ต่างกับชัยนาทอย่างมากตรงที่ความหลากหลายของสภาพพื้นที่และฐานอาชีพเกษตร สวน ไร่ นา ประมง เป็นเกษตรผสมผสาน ในขณะที่ชัยนาทเป็นเชิงเดี่ยวมากกว่า
แน่ๆที่นักวิจัยต้องช่วยกันคิด คือ เราจะกำหนดขอบเขตในการศึกษาอย่างไร การจัดประเภทของกลุ่มอาจมีความจำเป็น เราจะพิจารณาทุกกลุ่มในพื้นที่ศึกษา และจะศึกษาพื้ันที่ที่ไม่ค่อยมีกลุ่มด้วย
หากเราลงพื้นที่แล้วกลุ่มยินดีให้ข้อมูลบัญชีประกอบการพูดคุยก็จะช่วยได้มาก เราจึงจำเป็นต้องทำให้กลุ่มเห็นประโยชน์เพื่อเขาจะได้สมัครใจทำงานร่วมกับเราแบบเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ช่วยกันคิด..
ชาวบ้านรายครัวเรือนจะเป็นตัวต่อที่สำคัญที่จะสะท้อนผลของการเงินและการพัฒนา
หลับตานึกถึงพื้นที่แห่งหนึ่ง ภาพของเครือข่าย ซ้อนทับด้วยภาพของกลุ่มที่หลากหลาย ทับอยู่บนสุด คือผู้คน ..กรรมการกลุ่ม สมาชิกกลุ่ม ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกกลุ่ม อบต.อยู่ตรงนั้น หน่วยงานภาครัฐเดินเข้าเดินออก แต่ละคนมีบทบาทแตกต่างกันไป ตัดสินใจแตกต่างกันไป
ที่ไม่มีขา แต่ไหลไปไหลมา และมีบทบาทมากที่สุดกลับเป็น "เงิน"
ก่อนจะสร้างเครื่องมือประเมินตนเองของกลุ่มได้ เราต้องลากเส้นทางเดินของเงินหนึ่งบาทและทำความเข้าใจอิทธิพลของเงินหนึ่งบาทในพื้นที่ก่อน อย่าเพิ่งรีบสรุปว่า เงินเป็นเครื่องมือพัฒนาคน เงินเป็นเครื่องมือพัฒนาสังคม เพราะนั่นอาจจะทำให้เรามองไม่เห็นหลายๆอย่างที่เป็นจริง
งานนี้คงสนุกค่ะ
สวัสดีค่ะน้อง
ครูอ้อยขอชื่นชมด้วยความจริงใจค่ะ
สวัสดีค่ะครูอ้อย
คณะเศรษฐศาสตร์จัดอบรมครูสังคมศาสตร์ทุกปี และตัวเองก็จะไปแนะแนวที่โรงเรียนต่างๆหลายจังหวัดด้วย คงมีโอกาสเจอคุณครูอาจารย์หลายท่าน
ไม่ว่าเครื่่องมือจะเป็นอะไร แต่หากเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์ นำไปประยุกต์ใช้ได้ ก็น่ายินดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับคุณปัทมวดี
องค์กรการเงิน และสวัสดิการ ยังเอื้อมไปไม่ถึงคนที่สมควรได้รับการช่วยเหลือจากสังคม
ปัจจัยสำคัญคือ ฐานคิดและวิธีคิดที่จะไปให้ถึง ณ วันนี้ทุนทางการเงินพอหาได้ หลายแห่งมีเงินเก็บเป็นล้าน แต่ทุนทงความคิด ยังต้องติดปัญญา ต้องอาศัยนักวิชาพวกท่าน
สร้างกระบวนการคิด พวกผมหนังในบ้านไม่ค่อยมีคนดูครับท่าน
สวัสดีค่ะบังหีม
ดีใจที่ผู้มีประสบการณ์ตรงเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนค่ะ
"องค์กรการเงิน และสวัสดิการ ยังเอื้อมไปไม่ถึงคนที่สมควรได้รับการช่วยเหลือจากสังคม"
"ทุนเงินพอหาได้ แต่ทุนทางความคิดยังต้องติดปัญญา"
ความคิดเห็นที่แหลมคมและข้อมูลข่าวสารจากท่านจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย นักวิชาการคงแค่เป็นตัวเชื่อมโดยใช้ข้อเท็จจริงและการคิดที่จัดระบบมาสื่อสารเรียนรู้ร่วมกันกับทุกฝ่ายค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ชาวบ้านบางพื้นที่ของนครฯ มาจาก "ไพร่หนีนาย" ทำให้เพื่อนนักรัฐศาสตร์มองว่า ความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยราบรื่นระหว่างรัฐกับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่หวังพึ่งรัฐและมีแนวคิดการพึ่งตนเองสูง... เป็นสมมติฐานที่ตัวเองเห็นด้วย และน่าจะประยุกต์ใช้ได้กับประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ยุคสีแดง สีชมพู จนปัจจุบัน ..แต่.. ต้องหาหลักฐานพิสูจน์จึงจะทำให้น่าเชื่อถือ ก็เลยประกาศว่า "อย่าเพิ่งเชื่อ" ... เขียนแบบนี้ ผู้อ่านชาวนครฯ ต้องไปช่วยหาหลักฐานหรือคิดต่อค่ะ
ขอบคุณที่เห็นความสนุกในงานซ่อนอยู่ในบล็อกที่เขียนค่ะ
สุขสันต์วันปีใหม่นะคะอาจารย์เอก
อ้อ พายุเกเข้าชุมพร แต่มันไม่ได้ตีกรอบตัวเองอยู่แค่ชุมพรนะคะ หางเลขที่กวาดเลยไปในพื้นที่อื่นๆของภาคใต้ มาถึงนครฯด้วย (อันนี้อ่านมา แล้วเขียนจากความทรงจำนะคะ.. ถ้าจำไม่ผิด..)
น้ำป่าไหลหลาก พัดเอาท่อนซุงที่ตัดทิ้งไว้ในป่ามาทับบ้านเรือนชาวบ้านด้วย เป็นทีมาของการประกาศปิดสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ (อันนี้ก็อ่านมา)
... บอกแล้วว่าอย่าเพิ่งเชื่อ.. ใครรู้ข้อมูล ประสบการณ์ตรง ช่วยยืนยันความถูกต้องด้วยค่ะ