คำถามทำนองนี้ คงมีอยู่ภายในใจของพวกเรา บางคนอาจตอบรับว่ามีจริง บางคนอาจคัดค้านว่าไม่มีจริง แต่นั้นก็เป็นเพียงความเห็นความเชื่อของเราแต่ละคนเท่านั้น การที่จะพิสูจน์และใช้เหตุผลเพื่อยืนยันหรือคัดค้านความเชื่อทำนองนี้ มิใช่จะมีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น แม้แต่ในสมัยพุทธกาลก็มีผู้สนใจค้นคว้าทดลองเพื่อจะพิสูจน์เรื่องนี้ ดังมีปรากฎอยู่ในปายาสิราชัญญสูตรเป็นต้น
ปายาสิราชัญญสูตร เป็นการใช้เหตุผลโต้แย้งประเด็นนี้ ระหว่างเจ้าปายาสิกับพระกุมารกัสสป โดยเจ้าปายาสินั้นสงสัยแล้วพยายามทดลองเรื่องนี้ เมื่อไม่สามารถพิสูจน์ได้จึงสรุปว่าชาติหน้าเป็นต้นไม่มี และเมื่อมีโอกาสจึงนำข้อพิสูจน์ของท้าวเธอมาสนทนาธรรมกับพระกุมารกัสสป (ผู้สนใจอ่านจากพระไตรปิฏกโดยตรง คลิกที่นี้ )
ในบันทึกชุดนี้ ผู้เขียนจะนำมาเล่าใหม่เป็นตอนๆ ตามลำดับ ซึ่งอาจตัดต่อแต่งเติม หรือแวะออกนอกเรื่องราวไปบ้างตามที่เห็นสมควร และยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องเหล่านี้กับผู้สนใจทั่วไป...
......
เนื่องด้วยตัวละครเอกก็คือ เจ้าปายาสิ และพระกุมารกัสสป ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มเรื่อง เรามาทำความรู้จักและศึกษาภูมิหลังของท่านทั้งสองนี้สักเล็กน้อย...
เจ้าปายาสิ เป็นชื่อของพระราชาผู้ครองเมืองเสตัพยะ แคว้นโกศล ซึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงพระราชทานให้เจ้าปายาสิปกครองเด็ดขาด และเพราะท้าวเธอมิได้รับมูรธาภิเษกตามอย่างพระราชาผู้ครองแคว้นทั่วไป (บาลีใช้ว่า ปายาสิ ราชัญโญ ซึ่งภาษาไทยมักแปลว่า เจ้าปายาสิ หรือ พญาปายาสิ )
พระกุมารกัสสป เป็นโอรสบุญธรรมของพระเจ้าปเสนทิโกศล โดยมีประวัติย่อว่ามารดาของท่านตั้งครรภ์ก่อนที่จะมาบวชเป็นภิกษุณี หลังจากคลอดแล้วและได้รับการพิสูจน์เรื่องนี้ พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงทรงรับไปเลี้ยงเป็นโอรสบุญธรรม เมื่อท่านโตขึ้นรู้เดียงสาจึงตัดสินใจบวชเณร อนึ่ง ชื่อเดิมของท่านนั้นคือกัสสป แต่เพราะชื่อนี้มีหลายท่าน เช่น พระมหากัสสป พระอุรุเวลกัสสป ฯลฯ ดังนั้น ท่านจึงได้ชื่อว่ากุมารกัสสป (ดูอรรถกถาเรื่องนี้ คลิกที่นี้)
เมื่อพิจารณาตามนี้ ผู้เขียนคิดว่า เจ้าปายาสิกับพระกุมารกัสสปน่าจะรู้จักหรือคุ้นเคยกันมานานแล้ว เพราะทั้งสองท่านต่างก็มีส่วนสัมพันธ์กับพระเจ้าปเสนทิโกศล...
นมัสการพระคุณเจ้า
เข้าชั้นเรียนธรรมเมื่อยามดึก ย้อนรำลึกปัญหามีมานาน
ชาติหน้ามีหรือไม่ทำไมชอบถามกัน หรือคอยวันเห็นชาติหน้าจะทำดี
เจริญพร
นมัสการพระคุณเจ้า
มารออ่านด้วยคนครับ
เคยอ่านที่พระอาจารย์ท่านหนึ่งที่ผมเคารพ ท่านเขียนไว้สมัยก่อนบวช อ่านแล้วจึงเชื่อว่าชาตินี้ชาติหน้าถ้าจะมีแน่ (ก็เท่าที่ปัญญาจะคิดได้ เชื่อไว้ก่อน :> )
ขอบพระคุณครับ
ที่ผมเริ่มศึกษาธรรมะก็เพราะคำถามเหล่านี้แหละครับ
ถ้าไม่มีคำถามพวกนี้ ป่านนี้ ผมคงเตลิดไปใหนต่อใหนแล้ว
ถ้าพิจารณาคำถามเหล่านี้ อาตมาก็คิดว่า คนยังเหมือนเดิม ไม่ได้แตกต่างจากอดีตที่ค้นพบมากนัก...
เจริญพร