เช้ามืดวันที่ ๒๒ พ.ย. ๕๑ ผมไปนั่งรถไฟเที่ยวชมทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่า สักชลสิทธิ์ คณะที่ไปด้วยซื้อข้าวหลามที่ชาวบ้านเอาขึ้นมาขายบนรถไฟมาหอบใหญ่ ทำให้ผมระลึกชาติกลับไปสมัยเด็ก ที่ข้าวหลามเป็นขนมอย่างหนึ่งที่เรามีกินที่บ้านนอก โดยเรานิยมกินกับ “กล้วยเขียว”
ภาษาปักษ์ใต้บ้านผมเรียกกล้วยหอมว่ากล้วยเขียว ทั้งๆ ที่ผิวเปลือกมันไม่ได้เขียว มีสีเหลืองอย่างที่เราเห็นกันทั่วไป แต่ตอนหลังผมพบว่ากล้วยหอมบางพันธุ์เปลือกสีออกเขียว เรียกชื่อว่ากล้วยหอมเขียว
นอกจากกินข้าวหลามกับกล้วยเขียว เรายังจิ้มน้ำตาลทรายหรือจิ้มน้ำผึ้ง
กระบอกข้าวหลามที่บ้านผมเป็นชนิดปอกเปลือกไม้ใผ่ ให้เหลือเนื้อไม้บางมาก ใช้มือลอกกระบอกไม้ไผ่ออกตามยาวของเนื้อไม้โดยง่าย ผมไม่เคยเห็นข้าวหลามชนิดที่คงไม้ไผ่ทั้งเปลือกไว้ทั้งหมด (แบบข้าวหลามนครปฐม และหนองมน) และเปิดกินเนื้อข้าวหลามโดยวิธีทุบไม้ไผ่ให้แตกและอ้า จนกระทั่งมาเรียนที่กรุงเทพตอนอายุ ๑๕
เมื่อประมาณ ๑๐ ปีมานี้ ผมเห็นข้าวหลามที่เขาไม่ได้ขายในสภาพที่อยู่ในปล้องไม้ไผ่ เขาตัดเนื้อข้าวเหนียวเป็นปล้องๆ ยาวประมาณ ๑๕ ซ.ม. ขาย เมื่อเห็นทั้งกระบอกก็ตกใจมาก ที่มันยาวตั้ง ๒ ฟุตหรือยาวกว่านั้น
เมื่อเร็วๆ นี้ไปพบข้าวหลามของเมืองคุนหมิง ประเทศจีน ในภัตตาคารชนส่วนน้อยมีข้าวหลามขาย เป็นข้าวหลามชนิดไม่ใส่กระทิ ไม่ปรุงรส ไม่ใส่ถั่วหรือใส้ใดๆ ใช้กินกับอาหารคาว ผมชอบมาก
ผมไม่เคยเห็นวัฒนธรรมการกินข้าวหลามกับกล้วยหอมที่อื่น นอกจากที่บ้านผม ที่จังหวัดชุมพร
วิจารณ์ พานิช
๘ ธ.ค. ๕๑
ข้าวหลามบ้ามผมก็เช่นที่ท่านเล่าให้ฟังครับ
"เป็นชนิดปอกเปลือกไม้ใผ่ ให้เหลือเนื้อไม้บางมาก ใช้มือลอกกระบอกไม้ไผ่ออกตามยาวของเนื้อไม้โดยง่าย"
เผากินกันในบ้านในครอบครัวครับ
ตามเทศกาล โดยเฉพาะหน้าหนาวหรือปีใหม่ครับ เพื่อต้อนรับลูกหลานกลับบ้านในเทศกาลแห่งความสุข
วันก่อนดูรายการสหะเฮ็ด เป็นรายการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ดีมากๆ เขาไปสอบถามว่าคนทั่วไปชอบกินข้าวหลามตรงส่วนใดบ้าง ปรากฎว่าส่วนใหญ่ชอบกินตรงด้านบนที่มีกระทิ
เขาจึงมาดีไซน์ออกแบบกระบอกข้าวหลามที่เปิดกระบอกตามแนวนอน แล้วไปลองให้ผู้ผลิตหยอดข้าวเหนียว- ราดกระทิ ตามแนวนอน จากนั้นเอาไปให้คนกลุ่มต่างๆชิม และตีราคาว่าถ้าขาย จะตั้งราคาที่กระบอกละเท่าไร ปรากฎว่าได้ราคาสูงขึ้น และเป็นข้าวหลามที่ถูกใจผู้บริโภค
ดังนั้นอนาคตอาจมีข้าวหลามเวอร์ชั้นใหม่ในท้องตลาดก็ได้นะคะท่านอาจารย์