หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ส่งการบ้านครูบา(เจ้าเป็นมาอย่างไร๑๐)


พ่อและแม่มักจะไม่รู้ตัวว่าตนเองได้ตราตรึงความมั่นคงและความหวั่นไหวในใจไว้ให้ลูกวัยรุ่น ความตราตรึงในใจเหล่านี้เป็นบทเรียนรู้ที่วัยรุ่นนั้นฝังใจกับมันจนเติบใหญ่ ผู้คลายความหวั่นไหวซึ่งฝังใจอยู่ให้หมดไปได้มีแต่เด็กวัยรุ่นที่เติบใหญ่ขึ้นมาคนนั้นเท่านั้นที่คลี่คลายมันได้

หลังเรียนโรงเรียนเดิมต่อมัธยมต้นครบหนึ่งปี ปีต่อมาสาวน้อยก็ย้ายไปเรียนต่อโรงเรียนรัฐซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงประจำจังหวัด เมื่อเธอย้ายไปเรียนโรงเรียนใหม่ได้ครบหนึ่งปี เธอก็ย้ายบ้านใหม่อีกครั้งหนึ่ง บ้านใหม่ที่ย้ายไปอยู่เป็นบ้านของป้าอีกคนผู้เป็นพี่สาวคนที่สองของพ่อ พี่ชายร่วมโลกของเธอก็ย้ายไปอยู่ด้วยกัน

 

เธอได้พำนักอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลาสองปีเต็มๆ ในบ้านมีเด็กญาติๆไปอยู่ร่วมกันหลายคน เหตุที่ต้องย้ายบ้านอีกเป็นเพราะว่าพ่อมีงานใหม่ ลุงให้ไปเปิดเหมืองใหม่ให้ที่ระนอง แม่ตามพ่อไปด้วย เพื่อดูแลและหารายได้มาจุนเจือดูแลครอบครัว 

 

วิถีที่เปลี่ยนในครั้งนี้เธอมีหน้าที่ช่วยโม่แป้งตอนเช้ามืดเพื่อเตรียมเอาไว้ให้ป้านำไปผสมเพื่อทำขนมอาโปงขายกัน งานอื่นที่ป้าให้ช่วยก็มีปัดกวาดดูแลบ้านร่วมไปกับลูกสาวของป้าคนสุดท้อง หน้าที่อื่นๆนั้นเช่น ตักน้ำ ซักผ้า รีดผ้าล้างจาน สารพัดงานบ้านทั้งหลายซึ่งเป็นกิจดูแลตัวเองให้พร้อมป้ามอบให้ลองทำเอาเอง

 

การย้ายมาอาศัยอยู่บ้านป้า ทำให้เธอได้รู้เรื่องราวของพ่อเพิ่ม ได้รู้จักว่าพี่น้องพ่อนั้นใครเป็นใคร ไล่เรียงศักดิ์ญาติอย่างไรกันอยู่ เป็นเรื่องใหม่ที่เธอเรียนรู้  นับญาติแล้วเธอร้องโอ้โฮ ตระกูลพ่อตระกูลใหญ่ญาติเยอะจริงจำกันไม่หวาดไม่ไหวเลยสำหรับเด็กวัยขนาดเธอ เมื่อต้องใช้ก็ต้องฝึกแล้วละนี่ เธอจึงฝึกเรียงเรียกลำดับศักดิ์จากของจริง ทั้งเรียงแบบไทยๆและแบบจีนเรียนรู้ไปพร้อมๆกันทีเดียว เธอว่ารู้เรื่องดีกว่าอีตอนครูสอนเชียวว่าใครเป็นใครสายตรงสายข้างของพ่อเธอ ตั้งแต่นั้นมาเธอไม่หลงนับญาติถูกต้องไม่ต้องท่องไม่ต้องมั่วเลย

 

ชีวิตในโรงเรียนที่เธอย้ายไปมีเรื่องใหม่ให้เธอได้เรียนรู้ ได้รู้จักครูดีที่เป็นศรี  ครูดีที่บอกอยู่นี้เป็นเพื่อนดีที่เธอมีอยู่ จำนวนเจ็ดคนพอดีๆที่ชักชี้จนมาอยู่ร่วมแก๊งค์กัน ส่วนครูจริงนั้นคอยปลูกฝังให้เรียนไปตามใจครูอยาก สิ่งที่เรียนกันอยู่ตอนนั้นเรียนไปตามแก่นครูว่า จำๆท่องบ่นกันเอาไม่สนเคล็ดลับการเรียน อาศัยแต่ความจำดีที่มีอยู่ เรียนรู้จำท่องบ่นง่าย มีสอบทีไรเธอยังคว้าอันดับต้นของห้องมาครองอยู่ได้ การไปโรงเรียนของเธอ ป้าอนุญาตให้ถีบจักรยานไปเองได้ ขอไว้แต่สัญญาว่าให้กลับบ้านกลับช่องตรงเวลาหน่อย

 

สาวน้อยได้เพื่อนใหม่คนหนึ่ง เป็นสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก เป็นผู้ที่ครอบครัวมีฐานะ พอเหมาะพอควรไม่จน เพื่อนใหม่คนนี้ของเธอเป็นผู้สอนให้เธอขับขี่รถมอเตอร์ไซด์จนเป็น แอบหัดแอบขี่กันไปเมื่อมีโอกาสและว่างจากกิจกรรมที่โรงเรียนให้ในวันหยุดที่โรงเรียนนัดไปนะเอง  เมื่อเอ่ยถึงเพื่อนคนนี้ สาวน้อยเธอบอกฉันว่า เธอสุดแสนเสียดายชีวิตที่เสียลงไปของเพื่อน มันเกิดขึ้นขณะเธอเรียนอยู่มัธยมปลาย  มะเร็งร้ายคือเหตุที่คร่าชีวิตเพื่อนของเธอจากไปค่ะ

 

ณ ที่เรียนรู้แห่งใหม่ เธอได้เพื่อนใหม่มาเจ็ดคน แต่ละคนมีดีต่างๆกัน ดีที่มีกันอยู่นั้นได้มาเสริมกันและกันให้มั่นคง  การยอมรับข้อต่างในกันและกัน ทำให้ความเป็นเพื่อนระหว่างกันอยู่ยาวนานจนกระทั่งเติบใหญ่มีครอบครัวใหญ่กันเองแล้วค่ะ

 

เมื่อเรียนอยู่ที่ใหม่แห่งนี้ เป็นเวลาปีกว่าเห็นจะได้ พ่อและแม่เสร็จสิ้นการงาน ก็ให้เธอย้ายกลับบ้านได้อีกครั้ง  คราวนี้เวลาปิดเทอม แม่พาเธอและพี่ไปไกลกว่า จากเดิมไปแค่ตะกั่วป่าคราวนี้หนาไปไกลถึงระนอง ไปแล้วก็มีชีวิตที่แปลกไปไม่มีเพื่อนเล่นสักคนเลยหนา ใช้ชีวิตอยู่กับบรรดาคนทำงานที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายหนุ่มแก่

 

สาวน้อยเธอจำได้ว่าพ่อแม่อาจหาญนักหนา ยอมให้เธอนอนอยู่ในกงสีที่ไม่มีห้องหับมิดชิด  เดินเฉียดเดินสะกิดได้ทั้งนั้น แม้แต่การตามไปเข้าป่าเมื่อพ่อไปทำงานขุดหลุมขุดแร่มาดู พ่อก็กล้าพาไปด้วยกันกับลูกน้องผู้ชายเป็นโหล ฉันฟังแล้วนึกเสียววาบ พ่อเธอนั้นกระไรหนามีใจประมาทจริงนา ดูเหมือนในอุราไม่มีวิตกระแวงภัยที่จะเกิดกับลูกสาวอยู่เลย  ฉันนั้นนึกฉงน คิดไปว่ารึว่าพ่อแม่สาวน้อยมีอะไรที่รับสารได้ จึงเชื่อใจคนที่ทำงานด้วยว่าเป็นคนดีไว้ใจได้จึงยอมให้ลูกสาวของตัวนั้นไปคลุกคลีโดยไม่กลัวภัยที่จะมาแผ้วพาน

 

ปิดเทอมชีวิตในเหมือง สนุกสนานด้วยการได้อยู่กับธรรมชาติ ปลูกผักสวนครัวข้างบ้าน ช่วยแม่ทำครัวทำอาหาร ล้างจาน ล้างถ้วยกันไป ตามพ่อเข้าไปในป่าก็ถูกปล่อยเดี่ยวเอาไว้ห่างจุดที่พ่อทำงานกับทีม  น่าแปลกที่เธอบอกว่าแรกๆที่เข้าไปถึงป่า เธอกลัวความเงียบที่มีจนมีเสียงคนทำงานแว่วมาเธอจึงไม่กลัวอีกต่อไป ความกลัวจะหลงทางก็ดีไม่เคยเกิดในความคิดเธอเลยหนา ด้วยเหตุที่เธอเชื่อมั่นว่าเมื่อมีภัยก็มีคนช่วยเธอได้ทัน สาวน้อยทำหน้าที่หาผักจับปลาเล็กปลาน้อยในธารน้ำเล็กๆมาเพื่อทำอาหารไว้กินด้วยกัน นั่นเป็นภาพสนุกสนานของเธอที่ฉันกำลังเห็นจากคำบอกเล่าของเธออยู่ค่ะ

 

บทเรียนจากชีวิตจริง

 

เด็กทำอะไรเป็นด้วยตัวเองได้ ก็ต่อเมื่อมีหน้าที่มอบให้ทำ ให้รับผิดชอบ

 

การได้ลงมือรับผิดชอบในเรื่องวิถีปกติที่จำเป็นสำหรับเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้อยู่รอด ทำให้เด็กมีทักษะติดตัวในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการกิน การอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร

 

เด็กวัยรุ่นนะมีธรรมชาติของเขาในการเลือกเพื่อนเป็นครู 

 

เด็กวัยรุ่นเรียนรู้จากกันและกันในโรงเรียนและต่อยอดมาสู่การเรียนรู้จากกันและกันในการใช้ชีวิตตามวิถีของเขา

 

อิสรภาพและการยอมรับจากเพื่อนต่อความเป็นเขาคือเรื่องสำคัญที่เด็กวัยรุ่นใช้ในการเลือกเพื่อนสนิท

 

เมื่อเด็กผ่านชีวิตเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว เด็กจะไม่ใช้ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างของการเรียนรู้อีกต่อไป

 

การเรียนรู้ของเด็กวัยรุ่นจะกว้างจะแคบแค่ไหน มีผู้ใหญ่คู่เดียวที่จะบอกได้ ผู้ใหญ่คู่นั้น คือ พ่อและแม่ของเด็กนะเอง

 

เด็กวัยรุ่นยังรู้สึกว่ามีความมั่นคงมั่นใจเสมอ เมื่อความเชื่อมั่นที่เขามีต่อพ่อและแม่ยังมั่นคงอยู่

 

Keywords :

 

พ่อและแม่มักจะไม่รู้ตัวว่าตนเองได้ตราตรึงความมั่นคงและความหวั่นไหวในใจไว้ให้ลูกวัยรุ่น ความตราตรึงในใจเหล่านี้เป็นบทเรียนรู้ที่วัยรุ่นนั้นฝังใจกับมันจนเติบใหญ่ ผู้คลายความหวั่นไหวซึ่งฝังใจอยู่ให้หมดไปได้มีแต่เด็กวัยรุ่นที่เติบใหญ่ขึ้นมาคนนั้นเท่านั้นที่คลี่คลายมันได้

หมายเลขบันทึก: 228831เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2008 18:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

แวะมาอ่านและทักทายค่ะ

ขอบคุณค่ะ

มีความสุขเสมอๆนะคะ

อิอิ คิดถึงป้าหมอจัง อิอิ จุ๊บๆๆ กอดๆ..หนูจิ

สวัสดีค่ะ

  • วันนี้ครูได้คุยกันถึงพฤติกรรมเด็กที่เที่ยวเตร่ ไม่รู้คุณค่าของเวลา เนื่องจากพ่อแม่ไม่อบรมลูกมาแต่แรก
  • เมื่อมาถึงโรงเรียน  สิ่งที่ครูอบรมสั่งสอนไปนั้น  เหมือนไม่มีความหมายอะไร
  • ชอบตรงนี้มากค่ะ  เป็นการฝึกความอดทนและมั่นใจดีค่ะ
  • ตามพ่อเข้าไปในป่าก็ถูกปล่อยเดี่ยวเอาไว้ห่างจุดที่พ่อทำงานกับทีม 

    สวัสดีครับป้าหมอเจ๊

    แวะมาทักทาย ป้าสบายดีไหมครับ

    ว่างๆมาเที่ยวสุพรรณ บ้างนะครับ

    • ครู @..สายธาร..@ ค่ะ
    • สบายใจมากค่ะ หลังจากไปพักผ่อนยาวหลายวัน
    • กลับมาก็มาเขียนการบ้านส่งครูบาต่อไปค่ะ
    • ......
    • อากาศเปลี่ยนแปลงแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ
    • โก๊ะจิจัง แซ่เฮ~natadee ที่สุดในแก๊ง เอ๊ย
    • คืนที่จากกันนะ
    • ไม่ได้กอดกันเนอะ
    • มัวแต่ห่วงว่าจะตกรถเลยยุ่งยิ่งกันไปโหม๊ด
    • ป้าว่าจะแวะไปพึ่งพาที่นอนที่บ้านในเดือนมกราคมนี้เนอะ
    • ได้มั๊ยลูก
    • ครูคิม ค่ะ
    • ตอนนั้นเด็กคนนั้นไม่ทันได้สังเกตว่าถูกปล่อยเดี่ยวเลยค่ะ
    • มัวแต่ทำสิ่งที่ชอบๆอยู่
    • หันไปดูหลังอีกที....
    • อ้าว....ไม่มีใครซะแล้ว
    • ได้ยินแต่เสียงโหวกเหวกพอให้รู้ว่า..
    • อ้อ...ผู้ใหญ่อยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง
    • เสียงทำให้รู้ว่า...ไม่ไกลค่ะ
    • การตามมานั้นรู้แต่รแกว่า...ผู้ใหญ่มาทำงาน...
    • เด็กคนนั้นก็เลยไม่โกรธพ่อที่ถูกปล่อยเดี่ยวค่ะ
    • ......
    • และเธอก็ได้ความมั่นใจมาเป็นของตน
    • หลังจากที่ได้ฝ่าฟันต่อสู้กับความกลัวในใจผ่านพ้นไปด้วยดี
    • ......
    • มันเป็นอุทาหรณ์ดีนะค่ะ...สำหรับผู้ใหญ่อย่างเรา...
    • หากจะทำละก็.....เข้าใจเด็กก่อนนะค่ะ
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท