(๗) ความรักของพ่อในพระพุทธศาสนา (๑)


พ่อแม่เป็นผู้นำ

(๗) ความรักของพ่อในพระพุทธศาสนา (๑)

            ข้าแต่พระแม่เจ้า เมื่อหม่อมฉันประสูติ พระบิดาได้ทรงรักหม่อมฉันหรือไม่

ตรัสตอบว่า ทำไมจึงว่าอย่างนั้น

 

เล่าว่า เมื่อพระมเหสีของเจ้าพิมพิสารนั้นตั้งครรภ์ ก็ทรงเกิดอาการแพ้ บันดาลให้อยากดื่มพระโลหิต ที่แขนข้างขวาของพระเจ้าพิมพิสาร  แต่พระนางไม่อาจจะทูลให้ทรงทราบได้ จึงทรงอดทนอยู่จนกระทั่งซูบผอม ต่อมาพระเจ้าพิมพิสารทรงซักไซ้จึงได้ความ ด้วยความรักลูกที่ยังทรงไม่ได้เห็นหน้าเลย จึงทรงเรียกแพทย์ให้มาเจาะแขนรองโลหิตเจือกับน้ำ แล้วให้พระราชเทวีดื่มตามประสงค์  พวกโหราจารย์ ได้ทราบเหตุการณ์ จึงทรงทูลทำนายว่าผู้ที่อยู่ในครรภ์ของพระราชเทวีนั้น จะเป็นศัตรูของพระองค์ จักปลงพระชนม์ชีพของพระองค์เสีย (เป็นเหตุให้พระราชโอรสที่ประสูติมาพระนามว่า อชาตศัตรู แปลว่า เป็นศัตรูของพระราชบิดา)    เมื่อพระราชเทวีได้ทรงสดับ ก็มีพระประสงค์จะทำลายพระครรภ์นั้นเสีย  พระราชาทรงทราบจึงได้ทรงห้ามเสียด้วยความรัก จึงมีโอกาสประสูติมาเป็นพระโอรส  เมื่อเติบโตขึ้น ถูกยุยงจากพระเทวทัตให้คิดการใหญ่ โดยยุให้แย่งชิงพระราชสมบัติ ส่วนพระเทวทัตเอง จะแย่งความเป็นใหญ่ในสงฆ์แทนพระพุทธเจ้า  แต่ทั้งสองก็ทำการไม่สำเร็จ คือ อชาตศัตรูราชกุมาร เอาพระขรรค์ติดเข้าที่ขา เข้าไปสู่พระราชวังหมายปลงพระชนม์พระราชบิดา มีอาการผิดปกติจนพวกอำมาตย์จับได้จึงนำไปเฝ้าพระราชา ท้าวเธอทรงตรัสถามว่า เหตุไรเจ้าจึงประสงค์จะฆ่าพ่อ  เมื่อได้รับคำกราบทูลว่า เพราะเหตุต้องการราชสมบัติ ท้าวเธอก็ทรงพระราชทานให้ โดยมิได้ขัดพระอัธยาศัยของพระราชโอรส (ข้อนี้แสดงว่า พ่อแม่รักลูกมากกว่าที่ลูกรัก ลูกอาจจะฆ่าพ่อแม่ได้ แต่พ่อแม่ไม่อาจที่จะฆ่าลูกได้  เหตุเพราะความรัก) เมื่ออชาตศัตรูราชกุมารได้ผ่านราชสมบัติแล้ว พระเทวทัตก็ยังคงยุยงอีก ว่าพระองค์ทรงทำอย่างนี้ ก็เปรียบเหมือนกับ ขังสุนัขจิ้งจอกไว้ในกลองที่หุ้มด้วยหนัง ในไม่ช้าพระเจ้าพิมพิสารคงคำนึงถึงการเป็นพระราชา ก็คงจะขึ้นเป็นราชาอีก  อชาตศัตรูถามว่า แล้วจะให้ทำอย่างไรดี  พระเทวทัตว่าควรจะกำจัด(ฆ่า)ต้นเหตุเสีย อชาตศัตรูตอบว่า ก็พระบิดาข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่ควรถูกฆ่าด้วยศาสตราไม่ใช่หรือ พระเทวทัตจึงว่า จงฆ่าด้วยการให้อดอาหารเถิด จึงโปรดให้นำไปขังไว้ในเรือนจำ ห้ามมิให้ผู้อื่นนอกจากพระมารดาเข้าเฝ้าได้  พระมารดาแอบนำอาหารซ่อนไว้ในพกผ้า ทราบเข้าก็ห้าม ซ่อนไว้ในมวยผม ก็ห้าม สุดท้ายจึงเอาอาหารทาร่างกาย แล้วให้พระเจ้าพิมพิสารลิ้มเลีย พระเจ้าอชาตศัตรูทราบอีก สุดท้ายก็สั่งห้ามพระราชมารดาเข้าเฝ้าโดยเด็ดขาดก็มิได้มีพระกระยาหารสำหรับเสวย

            จำเดิมแต่นั้นมา แต่พระเจ้าพิมพิสารนั้นทรงเป็นพระโสดาบัน จึงมีพระชนม์ได้ด้วยเดินจงกรม และด้วยสุขอันเกิดจากมรรคผล ร่างกายก็เจริญรุ่งเรือง ผิวพรรณผุดผ่องมาก พระเจ้าอชาตศัตรูได้ทราบ จึงตรัสให้ นายช่างตัดผมเข้าไปแล่พระบาทของพระราชบิดา ด้วยมีดโกนอันคมกล้าแล้วทาด้วยเกลือและน้ำมัน  มิหนำซ้ำให้อังพระบาททั้งสองนั้นด้วยถ่านไฟ จนไม่สามารถจะทรงเดินจงกรมได้  ได้แต่ทรงระลึกว่า อโหพุทโธ อโหธัมโม อโหสังโฆ จนพระสรีระเหี่ยวแห้งลง เหมือนกับดอกไม้ที่เขาทิ้งไว้ตามลานพระเจดีย์ฉะนั้น  ในที่สุดก็สวรรคต

            และในวันที่พระเจ้าพิมพิสารสวรรคตนั้นเอง พระราชโอรสของพระเจ้าอชาตศัตรูก็ได้ประสูติ  พวกอำมาตย์นำเรื่องเข้าไปถวายในคราวเดียวกัน เพื่อจะกราบทูลเรื่องพระราชโอรสประสูติกับเรื่องพระราชบิดาสวรรคต  ให้ทรงทราบ พวกอำมาตย์ได้กราบทูลเรื่องพระราชโอรสให้ทราบก่อน ในขณะที่ทราบข่าวนั้น  ความรักในพระราชโอรสก็บังเกิดขึ้น แผ่ซ่านไปตลอดพระวรกาย แล้วทรงนึกถึงคุณของพระราชบิดาได้ว่า เมื่อเราประสูติ พระราชบิดาของเราต้องรักเราเหมือนอย่างนี้  จึงตรัสสั่งว่า ดูก่อน พวกท่านจงไปปล่อยพระราชบิดาของเรามาเดี๋ยวนี้ พวกอำมาตย์จึงได้น้อมเรื่องถวาย  ก็ทรงพระกรรแสง ไปเฝ้าพระมารดา ทูลถามว่า ข้าแต่พระแม่เจ้า เมื่อหม่อมฉันประสูติ พระบิดาได้ทรงรักหม่อมฉันหรือไม่ ตรัสตอบว่า ทำไมจึงว่าอย่างนั้น เมื่อพระองค์ทรงพระเยาว์ ได้เป็นฝีขึ้นที่นิ้วพระหัตถ์ ทรงกรรแสงไม่หยุด จนพวกพระพี่เลี้ยงได้อุ้มไปเฝ้าพระบิดา พระบิดาทรงอมนิ้วพระหัตถ์จนฝีนั้นแตก หนองที่เจือด้วยโลหิต ก็ไหลออกจากนิ้วเข้าทางปาก ก็มิได้ทรงรังเกียจ ด้วยความรักในพระองค์ พระเจ้าอชาตศัตรูได้ฟัง ก็สลดพระทัยเป็นอย่างยิ่ง

            ตามพระไตรปิฎก เล่าความต่อมาว่า ภายหลังพระอุทัยภัทรกุมาร พระราชโอรสก็ได้ปลงพระชนม์พระเจ้าอชาตศัตรูเหมือนกัน เป็นอุทาหรณ์ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พ่อแม่นั้นเป็นคนที่นำบุตรธิดา ถ้าพ่อแม่เคยประพฤติเช่นไรไว้  บุตรก็มักจะทำตาม ไม่ว่าทางดีหรือชั่ว

คำสำคัญ (Tags): #พิมพิสาร
หมายเลขบันทึก: 227439เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2008 06:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ของขวัญวันพ่อ

จะมีอะไรหนอ
จะมีอะไรหนอ เพื่อพ่อ มีพลัง
คงมีเพียง ความหวัง ประเทศไทย
หวังให้รัก สมัคร เพื่อสมาน
หวังให้ชาติ ชื่นบาน สุขสดใส
หวังให้ชน ชูชาติ ให้ก้าวไกล
หวังให้ไทย กับไทย ได้รักกัน

ของขวัญวันพ่อ
จงมาช่วยก่อ ต่อเติมฝัน
ประเทศไทย วันนี้ ต้องรักกัน
มาร่วมสร้าง ของขวัญ วันพ่อเรา

ขอบคุณ ครับ คนพลัดถิ่น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท