ขอเล่าเรื่องอิ่มท้องก่อนนะครับ มันเริ่มจากตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ไปมาเลย์เก็บข้อมูล ทีมงานวิจัยมักจะระบุว่าร้านข้าวขอเป็นร้านมะมะห์ครับ คือร้านอาหารอินเดีย ซึ่งผมขอว่าเปลี่ยนเป็นร้านอาหารจีนบ้างได้มัย มักได้รับการปฏิเสธครับ แต่แล้วรอบนี้ผมได้โอกาสไปชิมอาหารจีนแล้วครับ เป็นร้านเดิมที่ผมเล็งไว้ตั้งแต่รอบแรกว่า ต้องเข้าไปชิมสักครั้ง
เหตุที่ได้เข้าไปชิมร้านนี้เนื่องจากอยู่ตรงข้ามโรงแรมที่พักพอดิบพอดีครับ ออ.ถ้าพูดถึงโรงแรมก็อยากจะบอกว่า หลังจากที่เปลี่ยนโรงแรมมานาน ยังหาแบบถูกใจไม่เจอเลยครับ รอบนี้คืนแรกก็เข้าไปโรงแรมแห่งหนึ่ง เจอแบบแย่มากๆ ครับ ปรากฏคืนสุดท้าย ขับรถเวียนไปเวียนมาเจอ raudoh hotel ครับ ซึ่ง อ.แม นึกได้ว่า เป็นโรงแรมที่เจ้าหน้าที่รัฐกลันตันติดต่อให้เราเข้าพักครั้งแรกแต่เราเปลี่ยน ปรากฏว่าโรงแรมนี้โอเคมากครับ ก็เลยตั้งใจว่ารอบหน้า หากต้องมาอีกก็ไม่ต้องหาโรงแรมแล้ว เข้าโรงแรมนี้เลย
ทีแรกนึกว่าเป็นร้านอาหารของคนจีนครับ ครั้งก่อนๆ ทีมงานเลยไม่ยอมเข้า ปรากฏพอเข้าไปจริง กลายเป็นมลายูครับที่เป็นเจ้าของ พนักงานเสริฟก็มลายูทั้งหมด สั่งอาหารไม่เป็นหรอกครับ เพราะไม่เคยเข้าภัตรคารจีน เลยต้องให้พนักงานเสริฟแนะนำและเลือกให้ จุใจดีครับ ราคาก็พอๆ กับร้านอาหารมามะห์
ตอนเข้าภัตรคารจีนไม่ได้ถ่ายรูปไว้ครับ แต่ขอมามะห์ผมถ่ายไว้ครับ เป็นโรตี (ลืมชื่อแล้ว) ผมเลือกทานกับกาแฟครับ ส่วนอ.แม ทานกับชาชักครับ ฮิฮิ กาแฟของมาเลย์อ่อนมากเลยครับ ผมดื่มทีไรแล้ว แซ็งๆ ทุกทีเลย
เล่าเรื่องอาหารแล้วก็ขอเล่าต่อเลยนะครับ วันสุดท้ายหลังจากได้เข้าสัมภาษณ์โต๊ะครูนิอับดุลอาซีซ เจ้าหน้าที่ของรัฐกลันพาทีมงานไปทานข้าว ถูกใจผมมากครับ เนื่องจากพาไปทานอาหารอาหรับครับ
มีข้าวหมกไก่ย่างครับ แล้วก็โรตีอาหรับครับ ส่วนเครื่องดื่ม ผมเฉพาะเจาะจงเป็นเครื่องดื่มอาหรับครับ ทีมงานเลยเสนอ น้ำโยเกิร์ตอินทผาลัมครับ ดังรูป
รอบนี้เกลี้ยงจานครับ อร่อยมาก อาหารอาหรับ ส่วนภาพนี้เป็นหน้าร้านอาหารอาหรับครับ บรรยากาศภายในก็สวยสไตล์อาหรับครับ
الحمد لله ครับ ที่ อ.ได้กินอาหารอร่อยๆที่มาเลย เพราะผมไปทีไรยังไม่เคยติดใจที่ไหนเลย
นึกถึง โยเกิตอินตผาลัมแล้ว นึกถึงตัวเองที่โดนให้อดข้าว
สมัยผมไปเรียนภาษาใหม่ๆ ก็สมัครเป็นลูกเสือกับเขาบ้าง แต่ที่ซาอุฯเขาไม่เรียกว่าลูกเสือ เขาเรียกว่า ญาวฺวาละฮฺ แปลว่า ตระเวณรอบๆ ประมาณนี้
ผมได้เข้าร่วมแจมบูรี(ชุมนุมลูกเสือ)ที่อับฮาทางตอนใต้ของประเทศซาอุ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยงาม ฝนตกชุกที่สุดในประเทศ และอากาศหนาว ช่วงที่มีชุมนุมกำลังหนาวพอดี
เราอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ แต่วันที่สาม โดนทดสอบทันที ..
อาหารเช้าก็กินโรตีเล็กๆน้อยๆตามปกติ ..
ตอนเที่ยง.. ม้าเร็วมาบอกว่า ข้าวยังไม่มา
เมื่อไม่มี ก็ไปทำกิจกรรมอื่นก่อน..
เย็นๆ..ก็รออีก ไม่มาอีก..
ประมาณ ห้าโมงเย็น เขายก อินตผาลัมกับนมเปรี้ยว..
ผมไม่เคยกินลักษณะนี้มาก่อนเลย..จะไหวไหม..??.. แต่เพราะความหิว(มากๆด้วย)เลยต้องกิน
..พอกินแล้วติดใจ.. และอิ่มท้องด้วย..
มีคนมาบอกภายหลังว่า นี่คืออาหารสมัยนบี.. มีสองอย่างนี้กินก็สามารถอยู่ได้แล้ว..
ทุกวันนี้ก็ยังมันปากกับสองอย่างนี้ครับ
สวัสดีครับ อ.จารุวัจน์
แพงใข่ไหมครับ
แต่อร่อยดี
ฮิๆๆ
ขอบคุณครับอาจารย์ Ibm ครูปอเนาะ
ผมยอมรับครับว่า ถ้าเป็นอาหารอาหรับที่ขึ้นชื่อในสามจังหวัด ต้องที่บาโงซีนา บ้านอาจารย์ครับ ฮิฮิ นี้ขนาดทำกินเองที่บ้านยังครบเครื่องขนาดนี้เชี่ยว น้ำลายไหล
อร่อยมากครับอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง โยเกิร์ตอินทผาลัม ได้ชิมแล้ติดใจครับ แต่มีโยเกิร์ตอีกหลายรสครับที่เป็นสูตรอาหรับ คราวหน้าจะขอไปชิมอย่างอื่นบ้าง
ไม่แพงครับพี่ยาว เกษตรยะลา สำหรับภัตรคารจีน เขามีเรตราคาชัดเจนว่า เช็ตสองถึงสี่คน ชุดหนึ่งประมาณห้าร้อยบาท มีกับข้าวห้าหกอย่างครับ ส่วนภัตรคารอาหรับอันนี้ไม่ทราบราคาครับ ฮิฮิ คนอื่นเลี้ยงไม่กล้าถามราคา แถมนั่งกันหลายคนด้วย