หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ส่งการบ้านครูบา(เจ้าเป็นมาอย่างไร๙)


เด็กที่มีความอิ่มเต็มในอารมณ์นั้นมีความมั่นคงในใจมากเพียงพอที่จะเผชิญกับความหวั่นไหวต่อการยอมรับความด้อย ความเด่นของสิ่งที่สังคมให้ค่าที่อยู่ในวิถีแห่งตนได้อย่างเข้มแข็ง

มีอยู่วันหนึ่ง ฉันเห็นภาพสาวน้อยและพ่อคุยกันอยู่ พ่อกำลังบอกเธอให้รู้ว่า มีชาวต่างชาติติดต่อให้พ่อไปทำงานไกลบ้าน ไกลถึงบราซิลโน่นแน่ะค่ะ เรื่องราวที่คุยกันในเวลานั้นทำให้สาวน้อยฝัน ฝันว่าพ่ออพยพครอบครัวไปอยู่ด้วยกันในต่างประเทศ แล้วภาพฝันนั้นพลันจางหายไป พร้อมกับเสียงพ่อที่ดังขึ้นว่า พ่อไม่ไปหรอกลูก เขาให้พ่อไปแค่คนเดียว ถ้าพ่อไปแล้วแม่กับลูกจะอยู่กันอย่างไรไม่รู้ พ่อปฏิเสธเขาไปแล้วลูก  

 

ระหว่างที่เธอเรียนต่อมัธยมต้นที่โรงเรียนเดิมอยู่นั้น มีเพื่อนๆหลายคนโยกย้ายเปลี่ยนไปเรียนที่อื่น คนที่รวยเขาย้ายมาเข้าเรียนในกรุงเทพฯ คนเรียนต่อที่เดิมได้ก็เรียนต่อไป  มีคนที่ต้องย้ายไปโรงเรียนต่างจังหวัดไม่กี่คน

 

เพื่อนสนิทคนที่พ่อเป็นหมอเขาย้ายไปเรียนกรุงเทพฯที่โรงเรียนดังแห่งหนึ่งเป็นนักเรียนอยู่ประจำ เสาร์-อาทิตย์จึงออกมาได้ ปิดเทอมใหญ่เขาได้กลับมาเยี่ยมบ้านปีละครั้งทำให้สาวน้อยยังได้พบเขาอยู่ เพื่อนคนนี้ให้ความรู้สาวน้อยว่าเครื่องบินนะเขาให้เด็กนั่งได้ด้วยนะ และถ้าเด็กเดินทางคนเดียวก็ได้ด้วย พนักงานเครื่องบินเขาคอยดูแลอยู่

 

ความจริงสาวน้อยบอกว่าในตอนนั้นเธอนึกอิจฉาความร่ำรวยของครอบครัวเพื่อนอยู่บ้าง แต่อิจฉาในระดับไม่มากนัก จึงไม่จูงใจให้เธอทะเยอทะยานอยาก อยากเป็นอยากมีเหมือนเขา ไม่มีปมให้รู้สึกแย่ๆว่าครอบครัวตัวเองด้อยค่าหรือยากจน แต่ในใจนั้นหมายมาด ถ้ามีโอกาสมีเงิน เธอจะหาโอกาสนั่งเครื่องบินให้ได้

 

เพื่อนคนนี้ทำให้เธอได้รู้ว่าโรงเรียนประจำเขาสร้างวินัยให้นักเรียนกันด้วยวิธีกำหนดกฎเกณฑ์ให้เด็กทำตาม  เธอได้เห็นตารางแล้วรู้สึกทึ่งแล้วอยากลองดู  อืม! คิดแล้วไม่รอ เธอจดเอาตารางที่โรงเรียนของเพื่อนให้เพื่อนมา มาลองทำทันทีไม่รอช้า ทำไปทำมาเธอก็พบว่าทำไม่ได้แฮะ

 

ระหว่างที่เธอเล่าเรียนในโรงเรียนราษฎร์แห่งที่สอง มีเรื่องใหม่ที่เธอได้สัมผัส คือการเรียนวิชาใหม่ๆที่โรงเรียนเดิมไม่ได้สอน อย่างเช่นวิชาหน้าที่พลเมือง ศีลธรรม กฎหมายครอบครัว เธอจำได้จนวันนี้ว่ามีข้อสอบหน้าที่พลเมืองข้อหนึ่งถามว่า ใครคือครูคนแรกในชีวิต เธอจำได้เธอตอบว่าพ่อแม่ ซึ่งจนบัดนี้เธอยังไม่รู้ว่าคำเฉลยของครูตรงกับคำตอบของเธอหรือไร ในวิชาหน้าที่พลเมืองนี้เขาสอนด้วยว่า คนไทยทุกคนมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่ออายุครบยี่สิบปี

 

วิชากฎหมายครอบครัวเขาสอนเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ การมีคู่และสินสมรส เธอแปลกใจนะที่ครูเอาเรื่องกฎหมายเหล่านี้มาสอนให้รู้  วิชาศีลธรรมนั้นมีเรื่องของประวัติพระพุทธเจ้า ทิศหกเป็นต้นที่ครูมาเล่าให้ฟัง  การสอนวิชาเหล่านี้ครูให้อ่านและเขียนตามคำบอกไม่มีหนังสือให้อ่าน บรรดาครูสมัยนั้นทำงานในเรื่องเดียวกับที่เด็กต้องทำ ครูเรียนก่อนให้เด็กเรียนหรือไม่นั้น สาวน้อยบอกว่าเธอไม่รู้แต่เธอรู้สึกดีๆกับครูเมื่อเธอเห็นตำราครูที่เอามาสอนเป็นลายมือครูในสมุดเล็กๆแบบนักเรียน

 

ทุกเช้านักเรียนทั้งหมดมายืนรวมกันใต้อาคารเรียน ร่วมสวดมนตร์ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระบุตรและพระจิต เธอรู้จักพระเยซูคริสต์ผ่านกิจกรรมวันที่ยี่สิบห้าธันวาคมของทุกปี เรื่องราวที่ได้ยินมันถูกใจเด็กๆทั้งนั้น เรื่องที่เล่าวนเวียนอยู่ในรูปตำนานที่ไม่น่าเบื่อ เวลาฟังเรื่องราวเหล่านี้ใจของเด็กมีจินตนาการเพริดดี ฟังดูแล้วรู้สึกดีรู้สึกสนุกกับการได้ฟัง ฟังแล้วฟังเล่าเธอจึงไม่เบื่อนั่งฟังได้นาน

 

ส่วนเรื่องของพุทธศาสนา เธอเรียนรู้ผ่านการไปวัด สถานที่ที่เธอชอบเวลาผู้ใหญ่ทิ้งเธอไว้เมื่อไปวัดคือศาลาวัดที่มีรูปวาดให้อ่านให้เงยดูได้ ตำนานมี-ไม่มีให้อ่านไม่ใช่เรื่องที่เธอเกี่ยงอะไร ถ้าศาลาวัดมีรูปภาพอยู่เธอก็อยู่ได้สนุกสนานอยู่ได้อยู่นานไม่เบื่อเลย นึกแล้วไม่น่าเชื่อว่าซนปานนั้นอยู่ได้อยู่ดี บุญคงมีอยู่จึงดลบันดาลให้ใจสาวน้อยถือเอาวัดที่สงบเป็นที่ชอบๆ  เวลาที่ผู้ใหญ่พาไปวัด เธอเต็มใจขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ไปทันทีไม่มีใจอิดเอื้อนเลย ไม่เคยรู้สึกว่าเบื่อไม่เคยขัดข้องให้ผู้ใหญ่ข้องใจ

 

แถวบ้านมีวัดแห่งหนึ่งเดินไปถึงได้ก็จริงแต่มันก็ดูไกลโขอยู่ในตอนนั้น ส่วนใหญ่แม่พาเธอไปวัดมากกว่าพ่อค่ะ แม่มักพาเธอไปนมัสการสมภารเจ้าวัดบ่อยๆ ได้พบสมภารทีไรได้จิบชาพร้อมคุยสุขใจ  ตอนนั้นเธอไม่รู้ผู้หญิงนะแตะพระเณรไม่ได้ สงสัยมีอยู่ในใจแต่ไม่เอ๊ะเลยจึงไม่เคยถาม โตขึ้นมันถึงรู้ว่าทำไม่ได้  รู้จากการเห็นผู้ใหญ่ไม่ทำให้เห็น เคร่งครัดไม่ทำแม้อยู่ลำพัง

 

บทเรียนจากชีวิตจริง

 

เมื่อได้ยินเรื่องราวของพ่อหรือแม่ เด็กมีความฝันเกี่ยวกับครอบครัวเกิดขึ้นพร้อมไปด้วย

 

เด็กที่มีความอิ่มเต็มในอารมณ์นั้นมีความมั่นคงในใจมากเพียงพอที่จะเผชิญกับความหวั่นไหวต่อการยอมรับความด้อย ความเด่นของสิ่งที่สังคมให้ค่าที่อยู่ในวิถีแห่งตนได้อย่างเข้มแข็ง

 

เด็กทุกคนมีความใฝ่ดีอยู่เป็นธรรมชาติของตัว  และเขามีเรื่องดีๆที่อยากเรียนอยู่ในใจเสมอ

 

เด็กไม่เข้าใจหรอกว่า เหตุใดเขาจึงควรเรียนเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผู้ใหญ่ต่างหากคือคนที่กะเกณฑ์ว่าเขาควรเรียนมัน

 

ความอิสระซึ่งเป็นธรรมชาติตามวัย ทำให้เด็กทำเรื่องที่มีกรอบไม่สำเร็จ แม้ว่าเขามีความอยากทำและเต็มใจทำมัน

 

เด็กเรียน รู้ และจำ สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำให้เห็นเสมอ จำนานอย่างที่ผู้ใหญ่คาดไม่ถึงด้วยซิ

 

การใช้ตาดู หูฟัง การได้สัมผัสกับเรื่องราวจริงๆ การเรียนผ่านเรื่องเล่า การเรียนที่มีโอกาสใช้จินตนาการโดยอิสระ เป็นวิธีเรียนที่เด็กใช้อยู่เสมอเวลาเรียน

 

 

Keywords :

 

พ่อแม่คือครูคู่แรกของเด็ก 

 

ผู้ใหญ่ควรเข้าใจว่า สิ่งที่เด็กเขาอยากลองทำดู คือ สิ่งที่เด็กอยากเรียน 

หมายเลขบันทึก: 226661เขียนเมื่อ 1 ธันวาคม 2008 18:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

พ่อแม่คือ ครูคนแรกของเด็กๆ

ครอบครัว..คือ  จุดเริ่มต้นของชีวิต ของความดีงาม

สร้างความรัก  ความเข้าใจในครอบครัว

ครอบครัวอบอุ่น..จะเผื่อแผ่  ทำให้สังคมอบอุ่น  ร่มเย็น

ขอบคุณค่ะ

แวะมาทักทายค่ะ

ด้วยความเคารพค่ะ

ที่นี่หนาวๆๆๆๆค่ะ   รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

  • เด็กทุกคนมีความใฝ่ดีอยู่เป็นธรรมชาติของตัว  และเขามีเรื่องดีๆที่อยากเรียนอยู่ในใจเสมอ
  • เด็กเรียน รู้ และจำ สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำให้เห็นเสมอ จำนานอย่างที่ผู้ใหญ่คาดไม่ถึง

  • จริง ๆ ด้วยค่ะหมอเจ๊

  • แวะมาอ่านสาระดี ๆ จากคุณหมอค่ะ

     

สวัสดีครับป้าหมอเจ๊

มาเยี่ยมป้าครับ สบายดีนะครับ

  • ธุ คุณหมอเจ๊ค่ะ..

บทเรียนจากชีวิจจริงๆ นั้นทำให้เราได้เข้าใจถ่องแท้กว่าการได้รู้-ได้อ่านตามตำรา  

ทำไมต้อมคิดถึงพ่อก็ไม่รู้สิคะ  หลังจากที่อ่านบันทึกนี้จบลง..

ขอบคุณค่ะ ^^  และเสียดายที่ไม่ได้ไปตะลอนปายด้วยกันนะคะ..

สวัสดีครับ หมอ

  • เขียนได้ละเอียดยิบ
  • เหมือนเหตุการณ์เพิ่งจะผ่านๆวันสองวัน
  • จบแล้วอย่าลืมรวมเล่ม..จอง.1.เล่มครับ
  • ขอบคุณมากครับ

พี่ตาจ๋า

น้ามารออ่านรวดเดียวนะคะ

กำลังคร๊อกฟี๊รอ

อิอิอิ

สวัสดีค่ะ

  • ผู้ใหญ่ควรเข้าใจว่า สิ่งที่เด็กเขาอยากลองทำดู คือ สิ่งที่เด็กอยากเรียน 
  • และผู้ใหญ่รู้ได้อย่างไรว่า..เด็กต้องการ  หรือรู้ได้อย่างไรว่าเด็กมีความสุขจริง ๆ
  • อ่านบันทึกของคุณพี่หมอ...แต่ละครั้งอ่านหลายเที่ยวค่ะ  เพราะประทับใจ
  • ด้วยใจจริงค่ะ

สวัสดีค่ะ....ป้าหมอเจ๊

จำข้าวฟ่างได้มั้ยคะ...อิอิ

ข้าวฟ่างอ่านแล้ว..วึ้งเลยค่ะ

ทำให้ข้าวฟ่างคิดว่า

ชีวิตของเรายังอีกยางไกล

ไม่ใช่อนาคตอันใกล้นี้เท่านั้น

ขอบคุณป้าหมอเจ๊มากๆค่ะ

ที่มาให้คติสอนใจ

สวัสดีค่ะพี่หมอ

- แวะมาทักทายค่ะ

- พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก

สวัสดีค่ะ พี่หมอเจ๊

มื้อเที่ยงนี้กินอะไรค่ะ ใยมดอยากกินส้มตำค่ะ

อิอิ คิดถึงค่ะ โชคดีมีความสุขน่ะค่ะ

  •  
    • น้อง @..สายธาร..@ ค่ะ
    • ครอบครัวคือสังคมขนาดใหญ่ที่ย่อส่วนให้เล็กลง
    • หากคนในครอบครัวดูแลกันและกันให้อยู่ในความพอเพียง การรับรู้ที่เกิดขึ้นจากบทบาทการมีส่วนร่วมต่อสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน จะสอนให้คนเริ่มเรียนรู้ความพอเหมาะ พร้อมๆไปกับรู้ว่าเหตุอะไรที่ทำให้เกิดผลอย่างนั้น
    • สมดุลระหว่าง ความพอดี ความพอเหมาะ ความมีเหตุมีผลก็จะเกิดขึ้น
  • รัชดาวัลย์ (ครูตาล) ค่ะ
  • การกระทำของผู้ใหญ่ที่เด็กเห็น
  • เป็นบทเรียนที่เด็กเรียนรู้แบบซึมลึกโดยเด็กไม่รู้ตัวค่ะ
  • เป็นบทเรียนที่เด็กจดจำไปและดึงมันออกมาใช้เมื่อถึงบทตอนที่เกี่ยวข้องโดยเขาก็ไม่รู้ตัว
  • เป็นบทตอนในวิถีที่แม้เขาจะเคยปฏิเสธไม่ชอบบทเรียนเหล่านี้ก็ตาม
  • หากแต่เขาก็ยังใช้มันเลียนแบบผู้ใหญ่เมื่อถึงบทตอนสำคัญที่เหมือนๆกัน
  • ผู้ใหญ่จึงพึงระวังการกระทำ ด้วยเป็นแบบอย่างเป็นอย่างยิ่งทีเดียวค่ะ
  • น้องต้อม เนปาลี ค่ะ
  • พ่อคือแบบอย่างที่เราบูชา
  • แม่คือผู้ให้เราเต็มที่อย่างที่เราไม่เคยนึกฝัน
  • ทั้งคู่คือเพชรที่เรามีมาตั้งแต่เกิดนะค่ะ
  • กว่าที่เราจะมองเห็นคุณค่าของเพชร
  • ประสบการณ์ของเราคือตัวสกัดกั้นเวลาแห่งการมองเห็นคุณค่านั้น และทำให้แลเห็นมันเป็นแค่หินก้อนหนึ่งเท่านั้น
  • เพชรบางเม็ดที่ขาดการเจียรนัย จึงอาจจะไม่เปล่งแสงงามให้เราได้เห็น
  • จนกว่าเราจะมีประสบการณ์พอที่จะรู้จักเพชรนะค่ะน้องขา
  • การไม่รู้จักเพชรทำให้เราเมินค่าของหินที่อยู่ในมือ ใช่ไหมน้อง
  • คุณ เกษตรยะลา ค่ะ
  • ขอบคุณกำลังใจที่มาหนุนให้รวมเล่ม
  • ดีใจที่บันทึกนี้มีคุณค่าให้คนที่เข้ามาอ่านได้มุมมองค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • วันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา
  • น่าเสียดายจังนะคะ
  • ได้เข้าไปเจอบล็อกของโรงพยาบาลพุทธฯค่ะ
  • เมื่อวานเจอปัญหาของสำนักงานเพื่อนข้างบ้านค่ะ..เกี่ยวกับคนไม่มีความรับผิดชอบ  อ้างโน่นอ้างนี่ ลงใครไม่ได้  ลงคนที่ช่วยเหลือแนะนำว่า.."ช่วยผิด"
  • นึกถึงคุณพี่หมอค่ะ
  • รักและคิดถึงนะคะ
  • ครูคิม ขา
  • เอาไว้ครั้งหน้าพี่มีโอกาสไปพิดโลกอีกจะชวนมาเจอกันค่ะ
  • ไปพิดโลกคราวนี้เจอเหล่ากระบวนกรเยอะค่ะ
  • พี่ชวนเขาไว้แล้วว่าให้ชวนครูมาร่วมเป็นเครือข่ายด้วย
  • เขาโอแล้วค่ะ
  • จะช่วยเชื่อมโยงให้นะค่ะครู
  • .......
  • ที่ครูถามว่า
  • และผู้ใหญ่รู้ได้อย่างไรว่า..เด็กต้องการ  หรือรู้ได้อย่างไรว่าเด็กมีความสุขจริง ๆ
  • พี่ขอตอบว่า....ทุกข์ของเด็กดูไม่ใคร่ออก และเด็กก็บอกไม่ได้เมื่อถามค่ะ.....ถ้าใช้ความสามารถในการสังเกตของผู้ใหญ่จะดูออกค่ะ....
  • ดูที่ประกายในแววตาของเด็กซิค่ะครู....เปรียบเทียบดูแล้วจะรู้ค่ะ....
  • เรื่องราวของเด็กที่รับรู้มา....สามารถใช้หลักจิตวิทยาที่ครูเรียนวิเคราะห์ได้ด้วยค่ะ....
  • พฤติกรรมแหกคอก....
  • พฤติกรรมสงบเรียบร้อยตลอดเวลา....
  • พฤติกรรมที่ชอบแกล้งรังแกคน....
  • พฤติกรรมการร้องไห้ง่ายๆ  การออดอ้อน เอาใจ.....
  • พฤติกรรมร่าเริงตลอดเวลาที่ไม่เคยเห็นบทแสดงความทุกข์ให้เห็น......
  • เหล่านี้เป็นเครื่องบ่งบอกถึงปัญหาทางใจทั้งสิ้นค่ะ 

..เด็กต้องการ  หรือรู้ได้อย่างไรว่าเด็กมีความสุขจริง ๆ

  • พี่ขอตอบว่า....ทุกข์ของเด็กดูไม่ใคร่ออก และเด็กก็บอกไม่ได้เมื่อถามค่ะ.....ถ้าใช้ความสามารถในการสังเกตของผู้ใหญ่จะดูออกค่ะ....
  • ดูที่ประกายในแววตาของเด็กซิค่ะครู....เปรียบเทียบดูแล้วจะรู้ค่ะ....
  • เรื่องราวของเด็กที่รับรู้มา....สามารถใช้หลักจิตวิทยาที่ครูเรียนวิเคราะห์ได้ด้วยค่ะ....
  • พฤติกรรมแหกคอก....
  • พฤติกรรมสงบเรียบร้อยตลอดเวลา....
  • พฤติกรรมที่ชอบแกล้งรังแกคน....
  • พฤติกรรมการร้องไห้ง่ายๆ  การออดอ้อน เอาใจ.....
  • พฤติกรรมร่าเริงตลอดเวลาที่ไม่เคยเห็นบทแสดงความทุกข์ให้เห็น......
  • เหล่านี้เป็นเครื่องบ่งบอกถึงปัญหาทางใจทั้งสิ้นค่ะ 
  • .......................................

    ขอบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ 

    จิตวิทยาที่ร่ำเรียนมา เลือนหายไปกับตำราเป็นส่วนมากค่ะ 

    มาหลงลืมเอาเป็นเอาตายกับการสอนวิชาเอก ของแต่ละคน

    ต้องกลับไปรื้อฟื้น  โดยการกระทำและปฏิบัติจริง โดยด่วนค่ะ

    • น้องข้าวฟ่าง จ๋า
    • เราสามารถคาดเดาอายุของเราว่าจะอยู่ยืนยาวแค่ไหนได้นะลูก
    • ดูเอาจากอายุของบรรพบุรุษของเราที่มีอายุยืนที่สุดนะแหละค่ะ
    • ถ้าไม่มีอุบัติเหตุระหว่างอายุยังน้อยให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บหนักๆ
    • อายุเราจะยืนยาวไปได้เท่าผู้คนเหล่านั้นค่ะ
    • ......
    • สิ่งมีชีวิตทุกชนิด เกิดมาแล้วมีการเรียนรู้ตลอดชีวิตเลยลูก
    • การเรียนในโรงเรียนเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเรียนจ้า
    • น้อง เพชรน้อย ขา
    • เด็กคือกำลังสำคัญที่จะเป็นที่พึ่งของผู้ใหญ่ในวันหน้านะค่ะ
    • หน้าที่เราที่เกี่ยวกับเด็กก็เลยมีความสำคัญ
    • คนสามวัยพึ่งพากันและกัน และเกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออก
    • การดูแลคนสามวัยจึงตกมาถึงมือเราค่ะน้อง
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท