″ ข้าวไทย ″
ข้าวเป็นคำที่คนไทยเราคุ้นเคยกันทุกคน เพราะเราทานข้าวเป็นอาหารหลัก ข้าวเป็นสินค้าส่งออกนำเงินเข้าประเทศปีละหลายล้านบาท ข้าวนับว่าเป็นทองหรือนำมันบนดิน แต่ช่วงนี้นำมันบนดินของเราราคาชั่งตกต่ำจัง ราคาข้าวเหนียว กข 6 ราคาประมาณ 5-6 บาท/ กก. ส่วนข้าวเจ้ามะลิ 105 ราคา10-11บาท / กก. ( ราคา ณ วันที่เขียน) ถ้าราคาเป็นแบบนี้ขอแนะนำให้เกษตรกรเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ประกันราคาข้าว กข 6 อยู่ที่ 9,000 บาท/ตัน ข้าวมะลิ 105 อยู่ที่15,000 บาท/ตัน แต่ราคาข้าวสารที่เราทานทุกวันยังมีราคาสูงอยู่เลยแล้วทำไมข้าวสารที่มีในท้องตลาดถึงมีหลายแบบหลายราคาจัง อะไรที่ทำให้ราคาต่างกัน สิ่งที่ทำให้ราคาข้าวแตกต่างกัน
1.พันธุ์ข้าว
ข้าวหอมมะลิ 105 จะมีราคาแพงกว่าข้าวชนิดอื่นๆ เนื่องจากคุณภาพการหุงข้าวหอมมะลิจะมีควาเหนีวนุ่มมีกลิ่นหอม
2. ชนิดของข้าว เราคงเคยได้ยินคำว่าข้าว 100 % ข้าว 5 %
เป็นการแบ่งข้าวตามปริมาณข้าวเต็มเมล็ดที่เป็นพื้นข้าวและส่วนผสม คือ ข้าวหักและอื่นๆ ที่มีอยู่ในชั้นข้าวแต่ละชนิด (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากมาตรฐานข้าวไทย กระทรวงพาณิชย์) ยิ่งข้าวมีสิ่งเจือปนมาก มีข้าวปน เมล็ดลีบ ข้าวเมล็ดเสียมาก จะยิ่งทำให้คุณภาพต่ำราคาก็จะต่ำด้วย
3. ความชื้น ซึ่งจะมีผลต่อ % ต้นข้าว
คุณภาพข้าวเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราจะเห็นว่าเกษตรกรเราไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนักเพราะในการซื้อขายระหว่างชาวนากับโรงสีราคาข้าวจะต่างกันไม่นัก ยิ่งข้าวนาปรังชาวนาจะเน้นผลผลิตหรือผลตอบแทนมากก่วา ข้าวนาปรังสามารถเลือกพันธุ์ที่ปลูกได้ปีละ 2 หรือ 2 ปี ปลูกได้ 5 ครั้ง ทำให้ผลตอบแทนสูงแม้ราคาข้าวจะต่ำ เกษตรกรชาวนาจึงไม่เน้นคุณภาพข้าว ดังนั้นในการซื้อขายข้าวนาปรังโรงสี จึงซื้อขายตามความชื้นเมล็ด ส่วนนาปีโรงสีจะขัดข้าวและตีราคาข้าวจาก % ต้นข้าวและข้าวเต็มเมล็ด
4. การเก็บเกี่ยวและวิทยการหลังการเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวก็มีผลต่อคุณภาพของข้าว ต้องเก็บเกี่ยวในช่วงที่เหมาะสม คือในระยะพลับพลึงหรือประมาณ 25 -30 วัน หลังข้าวออกดอก เพราะถ้าเก็บเกี่ยวเร็วหรือช้าไป ถ้าเก็บเกี่ยวเร็วไปข้าวจะมีเมล็ดอ่อนมากเมื่อนำไปลดความชื้นจะทำให้มีเมล็ดลีบมาก หรือถ้าเก็บเกี่ยวช้าไปจะทำให้เมล็ดร่วงหล่น สูญเสียผลผลิต ทำให้เมล็ดกรอบหักง่ายเมื่อนำสีทำให้คุณภาพลดลง
นอกจากนี้วิธีการเก็บเกี่ยว การนวด การตาก การขนย้าย ถ้าไม่มีการจัดการที่ดี ที่เหมาะสม ก็จะทำให้เมล็ดข้าวหักง่าย สูญเสียทั้งปริมาณและคุณภาพ
สิ่งเหล่านี้ถ้าเกษตรกรเราให้ความสำคัญ ก็น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยยกระดับราคาผลผลิต และความเป็นอยู่ ความเป็นธรรมในการซื้อขายข้าวให้มีราคาที่สูงขึ้น จริงมั้ยเนี่ย
( ขอบพระคุณที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ)